ชี้เป้าหน้าจอคอมพิวเตอร์ยี่ห้อไหนดี ปี 2023 แนะนำจอมอนิเตอร์รุ่นใหม่จากแบรนด์ต่าง ๆ มีให้เลือกหลายขนาด ตั้งแต่ราคาหลักพันจนถึงหลักหมื่น
หากพูดถึงหนึ่งในอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่คนใช้คอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะจะขาดไปไม่ได้เลยก็คือ หน้าจอคอมพิวเตอร์ (หรือจอมอนิเตอร์) นั่นเอง แต่เนื่องจากว่ามันมีมากมายหลายรุ่น จึงควรเลือกซื้อให้เหมาะกับลักษณะการใช้งานด้วย โดยในวันนี้เรามีข้อมูลดี ๆ เกี่ยวกับวิธีการเลือกซื้อรวมทั้งรุ่นที่น่าสนใจมาแนะนำกัน ส่วนจะมีรุ่นไหนบ้างนั้น ขอชวนเพื่อน ๆ ไปดูกันเลย
จอคอมพิวเตอร์ มีกี่แบบ
แตกต่างกันอย่างไร
หากจะแบ่งหน้าจอคอมพิวเตอร์ตามแผง Panel ของหน้าจอ ที่มีจำหน่ายส่วนใหญ่ก็จะมีทั้งหมด 3 ประเภท ได้แก่ แบบ TN, VA และ IPS โดยแต่ละแบบจะมีความแตกต่างกัน ดังนี้
1. TN (Twisted Nematic)
เป็นจอประเภทที่มักจะมีราคาถูกที่สุด มีจุดเด่นคือ อัตรา Refresh Rate ที่ค่อนข้างเร็ว เหมาะสำหรับเล่นเกม แต่ก็มีจุดด้อยคือ มุมมองภาพที่ค่อนข้างแคบ เมื่อมองจากด้านข้างของจอจะทำให้เห็นภาพสีเพี้ยน
2. VA (Vertical Alignment)
หน้าจอประเภทนี้จะมี Contrast Ratio ที่ค่อนข้างสูง ทำให้แสดงภาพและความแตกต่างของสีได้คมชัด ถือเป็นหน้าจอระดับกลางที่เหมาะกับการดูหนังหรือใช้งานทั่วไป
3. IPS (In-Plane Switching)
ถือเป็นหน้าจอประเภทที่มีราคาสูงที่สุด ซึ่งมีจุดเด่นทั้งการแสดงภาพและสีได้สวยสดคมชัดและแม่นยำที่สุด แถมมีมุมมองกว้างกว่าหน้าจอประเภทอื่น ๆ อีกด้วย เหมาะสำหรับใช้ทำงานกราฟิก หรือจะใช้ดูหนัง เล่นเกม ก็ดีเช่นกัน
จอคอมพิวเตอร์ยี่ห้อไหนดี 2023
1. AOC 24B2XH
จอคอมพิวเตอร์ราคาถูก ขนาด 24 นิ้ว จาก AOC ที่ใช้ Panel แบบ IPS แสดงภาพสีสดคมชัด เป็นจอด้าน Anti-Glare ช่วยลดแสงสะท้อน ความละเอียด Full HD, Refresh Rate 75Hz, Response Time 8ms มาพร้อมพอร์ต HDMI, VGA และ 3.5 มม. Audio Out
- ราคาประมาณ 3,500 บาท
2. ASUS TUF Gaming VG27AQ
จอคอมพิวเตอร์เล่นเกมตระกูล TUF Gaming จาก ASUS ที่มีขนาดหน้าจอ 27 นิ้ว เป็นจอแบบ IPS Anti-Glare ความละเอียด 2K, Refresh Rate 165Hz, Response Time 1ms รองรับ NVIDIA G SYNC ทำให้แสดงภาพขณะเล่นเกมได้ลื่นไหล ตอบสนองไว และลดปัญหาภาพฉีก พร้อมทั้งรองรับ HDR10 เพื่อการแสดงแสงสีที่สวยสมจริง มีพอร์ต HDMI x2 และ DisplayPort x1
- ราคาประมาณ 12,900 บาท
3. Acer Nitro VG240Y S
จอคอมพิวเตอร์ 24 นิ้ว จาก Acer ที่เหมาะสำหรับเล่นเกม มีความละเอียด Full HD เป็นจอแบบ IPS Anti-Glare, Refresh Rate 165Hz, Response Time 2ms รองรับ AMD FreeSync Premium ทำให้แสดงภาพขณะเล่นเกมได้ลื่นไหล ตอบสนองรวดเร็ว และลดปัญหาภาพฉีก พร้อมกับพอร์ตเชื่อมต่อแบบ HDMI x2, DisplayPort x1 และ 3.5 มม. Audio Out
- ราคาประมาณ 5,000 บาท
4. BenQ EW2780U
จอคอมพิวเตอร์ 4K ความละเอียดสูงคมชัดจาก BenQ มีขนาดหน้าจอ 27 นิ้ว เป็นจอแบบ IPS Anti-Glare, Refresh Rate 60Hz, Response Time 5ms รองรับ HDR10 ทำให้แสดงภาพแสงสีสมจริง มาพร้อมกับพอร์ต HDMI x2, DisplayPort x1, USB Type-C x1 และ 3.5 มม. Audio Out
- ราคาประมาณ 12,900 บาท
5. Dell P2418HT
จอคอมพิวเตอร์ Touchscreen จาก Dell ที่เป็นหน้าจอสัมผัส ขนาด 24 นิ้ว ใช้ Panel IPS ทำให้แสดงภาพได้สีสดคมชัด จอด้าน Anti-Glare ช่วยลดแสงสะท้อน ความละเอียด Full HD, Refresh Rate 60Hz, Response Time 6ms มีพอร์ตเชื่อมต่อทั้ง HDMI, DisplayPort, VGA และ 3.5 มม. Audio Out
- ราคาประมาณ 10,900 บาท
6. LG Ultrawide 29WK600-W
จอคอมพิวเตอร์ Ultrawide ขนาด 29 นิ้ว จาก LG ที่เป็นจอกว้าง IPS Anti-Glare อัตราส่วน 21:9 ความละเอียด Full HD+ (2560x1080 พิกเซล), Refresh Rate 75Hz, Response Time 5ms รองรับ HDR ทำให้แสดงภาพได้แสงสีที่สวยสมจริง และรองรับ AMD FreeSync เพื่อช่วยลดปัญหาภาพฉีกขณะเล่นเกม มาพร้อมพอร์ต HDMI x2, DisplayPort x1 และ 3.5 มม. Audio Out
- ราคาประมาณ 6,500 บาท
7. MSI Optix G24C4
จอคอมพิวเตอร์เล่นเกม 144hz แบบโค้ง 1500R จาก MSI ที่เป็นหน้าจอ VA Anti-Glare มีขนาดหน้าจอ 24 นิ้ว ความละเอียด Full HD, Response Time 1 ms สามารถแสดงภาพขณะเล่นเกมได้ลื่นไหล รองรับ AMD FreeSync Premium ช่วยลดปัญหาภาพฉีกหรือกระตุก มาพร้อมพอร์ต HDMI x2, DisplayPort x1 และ 3.5 มม. Audio Out
- ราคาประมาณ 4,900 บาท
8. Samsung Odyssey G3 LS24AG320NEXXT
ปิดท้ายด้วยจอคอมพิวเตอร์เล่นเกมขนาด 24 นิ้ว จาก Samsung ที่เป็นหน้าจอแบบ VA Anti-Glare ความละเอียด Full HD, Refresh Rate 165Hz, Response Time 1ms ทำให้แสดงภาพขณะเล่นเกมได้ลื่นไหล ตอบสนองไว รองรับ AMD FreeSync Premium เพื่อลดปัญหาภาพฉีก มาพร้อมพอร์ต HDMI, DisplayPort และ 3.5 มม. Audio Out
- ราคาประมาณ 5,900 บาท
จอคอมพิวเตอร์
เลือกซื้อยังไง ต้องดูอะไรบ้าง
1. ลักษณะการใช้งาน
ถ้าหากซื้อไปใช้งานปกติก็อาจจะเลือกง่ายหน่อย แค่เลือกขนาดใหญ่ตามที่ต้องการ ความละเอียดและสเปกต่าง ๆ ตามงบที่มี เลือกแบรนด์ที่ชอบ ดีไซน์ที่ใช่ แต่ถ้าหากต้องการจอสำหรับเล่นเกมอาจเลือกรุ่นที่มีค่า Refresh Rate สูง ๆ หน่อย เช่น 75Hz หรือ 144Hz จะทำให้ได้ภาพที่ลื่นไหลมากขึ้น รวมทั้งเลือกรุ่นที่ Response Time ต่ำ ๆ เช่น 1ms หรือ 3ms เพื่อการตอบสนองที่รวดเร็ว เหมาะแก่การเล่นเกม
2. ขนาดหน้าจอ
โดยทั่วไปแล้วหน้าจอยิ่งใหญ่ก็น่าจะยิ่งดี เพราะจะได้เห็นภาพใหญ่ชัดเต็มตา แต่ถ้าใหญ่เกินไปก็อาจมีข้อเสียเช่นกัน เช่น พื้นที่วางจอบนโต๊ะที่จำกัด หรือการนั่งใช้งานใกล้จอ ถ้าหากจอใหญ่เกินไปอาจมองเห็นภาพทั่วจอได้ลำบากหน่อย โดยสามารถเข้าไปอ่านคำแนะนำการเลือกขนาดจอคอมพิวเตอร์ได้ที่ : วิธีเลือกขนาดทีวี/จอคอมพ์ ซื้อจอกี่นิ้วจะเหมาะที่สุด ?
3. ความละเอียดจอ
หน้าจอที่ยิ่งมีความละเอียดสูงก็จะยิ่งได้ภาพที่สวยงามและคมชัด แต่ราคาก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย ซึ่งสำหรับคนงบจำกัดอาจจะเกินความจำเป็นที่จะเลือกจอความละเอียดสูงมาก ๆ แต่โดยทั่วไปแล้วหน้าจอขนาดประมาณ 20-30 นิ้ว จะเหมาะกับความละเอียด 1080p ขึ้นไป ส่วนหน้าจอขนาดใหญ่กว่า 30 นิ้วขึ้นไป จะเหมาะกับความละเอียดระดับ 2K หรือสูงกว่า
4. พอร์ตเชื่อมต่อ
อันนี้ต้องพิจารณาดูว่าจะซื้อมาต่อกับอุปกรณ์อะไรบ้าง กี่เครื่อง ซึ่งโดยทั่วไปมาตรฐานก็ควรจะมีพอร์ต HDMI อย่างน้อย 1 ช่องขึ้นไป ถ้าหากต้องการต่อหลายอุปกรณ์ก็ควรมีหลายช่อง ส่วนพอร์ตอื่น ๆ เช่น DisplayPort, DVI, VGA, USB, 3.5mm ก็ขึ้นอยู่กับความต้องการในการใช้งาน
5. คุณสมบัติอื่น ๆ
สำหรับคุณสมบัติเสริมอื่น ๆ ก็ให้เลือกตามความต้องการและงบที่มีได้เลย เช่น มีลำโพงในตัว ไม่ต้องต่อลำโพงแยก มีกล้องเว็บแคมในตัว หน้าจอยาวอัตราส่วน Ultrawide หน้าจอแบบโค้ง หรือฟีเจอร์สำหรับเล่นเกมอย่าง Nvidia G-Sync หรือ AMD FreeSync
หลังจากที่ได้รู้จักวิธีเลือกซื้อจอคอมพิวเตอร์ให้เหมาะกับการใช้งานของตัวเองและรุ่นเด่น ๆ ที่น่าสนใจกันไปแล้ว หวังว่าจะช่วยให้เพื่อน ๆ ตัดสินใจเลือกซื้อกันได้ง่ายขึ้นนะครับ