แนะนำลำโพงสนามหรือลำโพงกลางแจ้ง ที่ใช้เปิดเพลงในงานเลี้ยงก็ได้ เปิดฟังในบ้านก็ดี พร้อมวิธีเลือกซื้อว่าควรพิจารณาอะไรบ้าง

ใครที่กำลังมองหาลำโพงขนาดใหญ่สักตัว มาไว้ใช้เปิดเพลงในงานปาร์ตี้ ใช้ในงานกิจกรรมต่าง ๆ หรือใช้นั่งฟังเพลงในบ้าน ลำโพงสนาม ก็น่าจะเป็นไอเทมที่เหมาะกับคุณ แต่หากยังไม่รู้ว่าลำโพงสนามนี้เป็นยังไง แล้วต้องเลือกซื้ออย่างไร มียี่ห้อไหนรุ่นใดน่าสนใจบ้าง วันนี้เราจึงมีคำแนะนำมาฝากกัน
ลำโพงสนาม คืออะไร
ลำโพงสนาม เป็นลำโพงที่มีขนาดใหญ่ และถูกออกแบบมาสำหรับใช้งานกลางแจ้ง ไม่ว่าจะเป็นงานปาร์ตี้หรืออีเวนต์ต่าง ๆ แต่ก็สามารถใช้ฟังเพลงในบ้านได้เช่นกัน โดยมักจะมีคุณสมบัติเด่น ๆ อย่างการกระจายได้หลายทิศทางหรือแบบรอบทิศ เปิดเสียงได้ดังกว่าลำโพงตัวเล็ก ๆ รวมทั้งมีความทนทาน กันน้ำได้ นอกจากนี้ในหลาย ๆ รุ่นยังรองรับการเชื่อมต่อแบบไร้สาย Bluetooth อีกด้วย
วิธีเลือกซื้อลำโพงสนาม
ในการจะเลือกซื้อลำโพงสนามมาใช้สักตัวนั้น มีสิ่งที่ควรพิจารณาก่อนตัดสินใจซื้อดังต่อไปนี้
1. กำลังวัตต์
ลำโพงที่ยิ่งมีกำลังวัตต์สูงก็จะช่วยให้สามารถเปิดเสียงดังได้มากขึ้น ซึ่งจะเหมาะแก่การใช้งานปาร์ตี้ขนาดใหญ่หรืออยู่ในที่โล่ง และถ้าจะให้ดีก็ควรมีระบบกระจายเสียงได้หลายทิศทางด้วย เพื่อให้เสียงดังชัดเจนไปทั่วบริเวณ
2. ขนาดและน้ำหนัก
ลำโพงสนามมักจะมีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่อยู่แล้ว แต่ถ้าคิดว่าต้องพกพาไปไหนบ่อย ๆ ก็ควรเลือกรุ่นที่ไม่ใหญ่และหนักจนเกินไป หรืออาจเลือกรุ่นที่มีหูหิ้วเพื่อช่วยให้สามารถยกเคลื่อนย้ายได้สะดวกยิ่งขึ้น
3. คุณสมบัติกันน้ำ
หากจะเน้นการใช้งานกลางแจ้ง คุณสมบัติกันน้ำก็ถือว่าสำคัญ เนื่องจากเวลาฝนตกหรือมีการทำน้ำหกใส่ ลำโพงสุดรักของเราก็จะได้ไม่เสียหายเพราะน้ำเข้านั่นเอง
4. แบตเตอรี่
เนื่องจากลำโพงที่เป็นแบบไร้สายจะต้องใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ ซึ่งถ้าหากต้องการใช้งานต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน ก็ควรเลือกรุ่นที่แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาว ๆ ข้ามคืน หรือสามารถเสียบกับปลั๊กไฟได้
ลำโพงสนาม ยี่ห้อไหนดี
1. Sony MHC-V21D
ลำโพงสนามแบบมุมกระจายเสียง เหมาะสำหรับใช้งานทั้งในห้องและกลางแจ้ง พร้อมไฟลำโพงให้บรรยากาศสไตล์คลับ รองรับ NFC และการเชื่อมต่อไร้สายแบบ Bluetooth สามารถเสียบไมโครโฟนได้พร้อมกัน 2 ตัว เพื่อใช้ร้องคาราโอเกะ หรือจะใช้เสียบกีตาร์ก็ได้เช่นกัน นอกจากนี้ยังเชื่อมต่อกับลำโพงรุ่นที่รองรับตัวอื่น ๆ ได้สูงสุด 50 ตัว เพื่อซิงโครไนซ์เพลงและแสงไฟ
- ราคา 5,990 บาท

ภาพจาก : sony.co.th
2. JBL Partybox 310
ลำโพงสนามขนาดใหญ่ของ JBL รุ่นนี้ มีขนาดกำลังขับที่ 240 วัตต์ พร้อมระบบเสียง JBL Pro Sound ช่วยเพิ่มพลังเสียงเบส ตัวลำโพงมีไฟแบบไดนามิคที่กระพริบตามจังหวะเพลง แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานถึง 18 ชั่วโมง เปิดในปาร์ตี้ทั้งคืนได้ยาว ๆ หรือจะใช้งานแบบเสียบปลั๊กก็ได้เช่นกัน รวมทั้งมีคุณสมบัติกันน้ำมาตรฐาน IPX4
- ราคา 21,900 บาท

ภาพจาก : jbl.com
3. Bose S1 Pro Portable Bluetooth speaker system
ลำโพงสนามสำหรับงานปาร์ตี้หรือกิจกรรมต่าง ๆ ที่รองรับการเชื่อมต่อแบบไร้สาย Bluetooth มีช่องสำหรับเสียบไมโครโฟน กีตาร์ หรือคีย์บอร์ดได้ พร้อม ToneMatch และ Auto EQ ในตัวที่จะช่วยการปรับเสียงให้ดียิ่งขึ้น ตัวลำโพงมีน้ำหนักเบา สามารถเคลื่อนย้ายได้สะดวกด้วยหูหิ้ว
- ราคา 36,900

ภาพจาก : bose.com
4. Sherman APS-220
ลำโพงสนามแบบอเนกประสงค์ขนาด 12 นิ้ว แบบเบสคู่ มีขยายในตัว 80 วัตต์ พร้อมไมโครโฟนไร้สาย รองรับ Bluetooth, USB, SD Card มีล้อลากเพื่อความสะดวกในการเคลื่อนย้าย มีช่องเสียบไมโครโฟนและกีตาร์ให้อย่างละหนึ่งช่อง รวมทั้งมีไฟ LED สลับสี
- ราคา 8,900 บาท

ภาพจาก : sherman.co.th
5. Samsung Sound Tower 500W MX-T50
ลำโพงสนามแบบกระจายเสียงสองทิศทาง ช่วยให้รับฟังเสียงได้ไกลขึ้น พร้อม Bass Booster กำลัง 500 วัตต์ ช่วยเพิ่มพลังเสียงเบส และโหมดคาราโอเกะสำหรับผู้ที่ชอบร้องเพลง บวกกับไฟ LED ที่มีโหมดแสงไฟสนุก ๆ ให้เลือกได้หลายแบบ เหมาะสำหรับใช้ในงานปาร์ตี้ และยังเชื่อมต่อกับลำโพง Sound Tower ตัวอื่น ๆ ได้สูงสุด 10 ตัว รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth และกันน้ำได้
- ราคา 6,990 บาท

ภาพจาก : samsung.com
6. Marshall Tufton
ลำโพงสนามจาก Marshall ที่สามารถยกไปไหนมาไหนได้สะดวก แบตเตอรี่สามารถใช้งานได้นานกว่า 20 ชั่วโมง ชาร์จไวเต็มใน 2 ชั่วโมงครึ่ง รองรับการเชื่อมต่อแบบ Bluetooth 5.0 ที่ระยะไกลสุด 30 ฟุต และเชื่อมต่อได้สองอุปกรณ์แบบสลับไป-มาได้ สามารถกระจายเสียงได้หลายทิศทาง กันน้ำได้ที่มาตรฐาน IPX2 ด้านบนของตัวลำโพงมีปุ่มปรับเสียงแบบหมุน
- ราคา 19,990 บาท

ภาพจาก : marshallheadphones.com
7. Sony SRS-XV900
ลำโพงสนามแบบไร้สายที่แบตเตอรี่ใช้งานได้นานถึง 25 ชั่วโมง เหมาะสำหรับงานปาร์ตี้ หรือจะใช้ในบ้านก็ได้เช่นกัน กระจายเสียงได้รอบทิศทาง พร้อมแสงไฟในตัวช่วยเพิ่มบรรยากาศ มีช่องเสียบอินพุตให้หลายช่องสำหรับเสียบไมโครโฟนหรือกีตาร์ ด้านบนตัวลำโพงมีแผงควบคุมแบบสัมผัสสำหรับปรับแต่งโหมดเสียงและไฟ
- ราคา 34,990 บาท

ภาพจาก : sony.co.th
และทั้งหมดนี้ก็คือลำโพงสนามทั้ง 7 รุ่นที่เราได้คัดเลือกมาแนะนำกัน หวังว่าน่าจะช่วยให้หลายคนตัดสินใจเลือกซื้อกันได้ง่ายขึ้น และได้ลำโพงรุ่นที่ถูกใจกันนะครับ
บทความเกี่ยวข้องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : sony.co.th, samsung.com, sherman.co.th, jbl.com, bose.com, marshallheadphones.com