หนุ่ม ๆ คนไหนที่รู้ตัวว่าอ้วนและอยากลดน้ำหนักบ้าง แต่ไม่ว่าจะลองวิธีไหนก็ยังไม่สำเร็จเสียที จนเกิดอาการท้อใจและล้มเลิกความตั้งใจไปละก็ วันนี้เราจึงหยิบเรื่องราวของผู้ชายคนหนึ่งที่เคยมีน้ำหนักตัวเกือบ 200 กิโลกรัม แถมประสบอุบัติเหตุอย่างหนัก แต่ลดน้ำหนักและกลับมามีหุ่นที่ดูดีได้อย่างไม่น่าเชื่อมาฝากกันครับ
ต่อมา หมอบอกว่า ไคล์มีสิทธ์เป็นโรคไฟโบรมัยอัลเจีย (Fibromyalgia) ซึ่งมีอาการปวดกล้ามเนื้อทั่วร่างกาย จนถึงเดือนมกราคมปี 2015 ก็มาถึงจุดที่เจ้าตัวตัดสินใจเปลี่ยนแปลงตัวเองเสียที โดยเขารู้ดีว่าการออกกำลังกายในช่วงแรก มีแต่จะทำให้รู้สึกเจ็บปวด ดังนั้นเขาจึงเริ่มจากเปลี่ยนพฤติกรรมการกินเสียก่อน ด้วยการหักดิบกับบรรดาจังก์ฟู้ด น้ำอัดลม และขนมต่าง ๆ รวมไปถึงเลิกกินน้ำตาลอย่างเด็ดขาด จากนั้นก็หันไปกินอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นแซลมอน ผักนานาชนิด และเมนูที่อัดแน่นไปด้วยโปรตีน โดยน้ำหนักลดไปเกือบ 7 กิโลกรัมในเวลาเพียง 1 สัปดาห์ แล้วเจ้าตัวก็กินอาหารแบบเดิมเรื่อย ๆ จนผ่านไป 1 ปี น้ำหนักตัวของเขาหายไปประมาณ 45 กิโลกรัม
แม้จะลดน้ำหนักลงได้มากพอสมควรแล้ว แต่ก็ยังรู้สึกเจ็บปวดทุกทีที่ขยับตัวอยู่ดี แต่ถึงอย่างนั้น ไคล์ก็เริ่มเข้าฟิตเนสและออกกำลังกายเบา ๆ ด้วยเครื่องเดินวงรี ซึ่งในสัปดาห์แรก เขาฝึกได้แค่ 10 นาทีเท่านั้น ทว่าพอผ่านไปราว ๆ 2 เดือน เขาสามารถออกกำลังได้นาน 1 ชั่วโมงเลยล่ะ พร้อมกับถามเรื่องการออกกำลังกายและควบคุมอาหารจากเพื่อนในฟิตเนส จนไคล์สามารถใช้เวลาฝึกได้นานครั้งละ 1 ชั่วโมงครึ่งในช่วงเช้าเป็นประจำ 5-6 วันต่อสัปดาห์ ซึ่งเขามักจะเริ่มฝึกคาร์ดิโอก่อนสัก 20 นาที จากนั้นเวลาที่เหลือก็จะไปเล่นเวทเพื่อสร้างกล้ามแทน ส่งผลให้ร่างกายของเขาเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีในช่วง 4 เดือนให้หลัง ทำให้น้ำหนักตัวของเขาลดลงไปเกือบ 90 กิโลกรัม เรียกได้ว่าลดไปครึ่งต่อครึ่งเลยทีเดียว จากนั้นก็เข้ารับการผ่าตัดเพื่อเอาผิวหนังส่วนเกินออก จนเจ้าตัวมีรูปร่างที่ดีได้ในที่สุด
ข้อมูล : menshealth.com