ลำพังแค่อากาศแห้ง ๆ ก็ระคายผิวมากพอแล้ว อย่าปล่อยให้การโกนหนวดทำร้ายใบหน้าคุณซ้ำอีกเลย
- เทคนิคยืดอายุมีดโกน
ดร. โจชัว เชชเนอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยด้านความงามและคลินิก โรงพยาบาลเมาท์ไชนายบอกว่าถ้าไม่รู้จักรักษาใบมีด คุณจะใช้มีดโกนได้แค่ประมาณสามครั้งเท่านั้น แต่ถ้าใช้อย่างเหมาะสมจะยืดอายุมีดโกนได้ถึงสองเท่า และใบมีดก็จะไม่ค่อยบาดและไม่ทื่อจนดึงหนวดเคราแรง ๆ ด้วย
ไม่ควร เคาะใบมีดกับอ่างล้างมือ ดร.เชชเนอร์บอกว่ามันอาจทำให้ใบมีดเสียแนว และทำให้สารเคลือบที่ช่วยให้โกนหนวดได้เรียบเนียนลื่นกะเทาะหลุด แค่เปิดน้ำอุ่นล้างเศษหนวดออกก็พอ ควรซับมีดโกนให้แห้ง และทาน้ำมันที่ใช้ป้องกันการสึกกร่อน ไม่ควรเก็บมีดโกนในลิ้นชัก ถ้าไม่อยากให้ใบมีดขึ้นสนิมและทื่อ คุณต้องเสียบมีดโกนไว้ในแก้วโดยตั้งด้านใบมีดขึ้นหรือห้อยแท่นเก็บไว้ จะได้โดนลมและแห้งเร็ว
ดร. เชชเนอร์บอกว่าการใช้มีดโกนแบบหลายใบมีดจะช่วยลดการเสียดสี ซึ่งจะทำให้เจ็บและมีแผลถลอกน้อยลง คุณควรจะเลือกมีดโกนแบบหัวปรับขยับได้ และยังช่วยให้โกนตามความโค้งเว้าของใบหน้าได้ด้วย
ดร. อัลลัน ปิเตอร์คิน ผู้เขียน One Thousand Beards บอกว่า น้ำมันที่ใช้ทาก่อนโกนหนวด ทำให้หนวดเครานิ่มลงจนโกนง่าย ไม่ต้องใช้แรงมาก น้ำร้อนก็ช่วยได้เช่นกัน คุณจึงควรโกนหนวดตอนอาบน้ำหรือตอนที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จ
แคเนียล มัลคา ผู้ก่อตั้งและประธานบริหารของ eShave บอกว่า การกำมีดโกนแน่น ๆ จะทำให้คุณกดใบมีดเข้าไปในผิว ซึ่งเป็นการทำร้ายผิว จึงควรจับหลวม ๆ โดยใช้แค่ 3 นิ้ว คือนิ้วโป้ง นิ้วชี้ และนิ้วกลาง จะได้ใช้น้ำหนักของใบมีดในการโกน ไม่ใช่แรงกด
น้ำมันเมล็ดทานตะวัน คือน้ำมันจากธรรมชาติที่ดีที่สุดสำหรับการโกนหนวด เพราะผลวิจัยของคณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชฟฟิลด์ชี้ว่า ให้ความชุ่มชื้นได้ดีกว่าน้ำมันมะกอก ซึ่งนิยมใช้สำหรับการโกนหนวด เช่นกัน ทั้งยังระคายผิวน้อยกว่าด้วย
โลชั่นหลังโกนหนวด ก็คือยาฆ่าเชื้อโรคดี ๆ นี่เอง แต่นักวิจัยในญี่ปุ่นบอกว่าโลชั่นที่มีส่วนผสมของยูคาลิปตัส จะกระตุ้นการสร้างเซราไมด์ (ส่วนประกอบของไขมันที่ช่วยกักเก็บน้ำ) จึงช่วยบรรเทาอาการผิวแห้งได้ ดร. ปิเตอร์คินบอกว่าในช่วงระหว่างการโกนหนวดแต่ละครั้ง คุณควรเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว และบทวิเคราะห์ของเซอร์เบียก็ชี้ว่าควรใช้โลชั่นที่มีส่วนผสมของว่านหางจระเข้ซึ่งช่วยสมานแผล และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
ที่มา หนังสือMen\'s Health มกราคม 2557
