เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก wmwrestling.com
ผู้ชายที่จะดูดีนั้นไม่ได้แค่มีหุ่นที่ดี เสื้อผ้าที่เนี้ยบ หรือทรงผมสุดเริ่ดเท่านั้น เรื่องสำคัญที่อยู่ใต้ร่มผ้าลงไปเล็กน้อยอย่างผิวหนัง ก็เป็นสิ่งที่มองข้ามไปไม่ได้ ซึ่งหลายคนอาจไม่รู้ตัวกันเลยด้วยซ้ำว่ากำลังทำพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อการทำลายผิวหนังของตัวเองอย่างไม่น่าเชื่อ วันนี้กระปุกดอทคอม จะเผยถึงต้นเหตุของพฤติกรรมที่หนุ่ม ๆ ไม่เคยรู้ว่ามันบั่นทอนความหล่อด้วยการทำลายผิวหนังมาบอกให้ทราบกัน โดยนำข้อมูลที่น่าสนใจนี้มาจากเว็บไซต์ menfitness.com เพื่อที่เราจะได้ปกป้องผิวได้ทันก่อนสายเกินแก้ยังไงล่ะครับ
1. อุปกรณ์ออกกำลังกายในฟิตเนสที่ไม่สะอาด
ถึงแม้ว่าพนักงานดูแลฟิตเนสจะทำความสะอาดมันบ่อยแค่ไหนก็ตาม แต่ผลวิจัยก็ยังชี้ว่าเชื้อไวรัสต่าง ๆ โดยเฉพาะเชื้อหวัดสามารถติดกับของทุกอย่างได้ ถึงแม้จะเพิ่งทำความสะอาดไปก็ตาม นั่นเป็นเหตุให้คุณสัมผัสกับเชื้อโรคได้ โดยเฉพาะในฟิตเนสซึ่งเป็นที่ที่คนมารวมตัวกันออกกำลังกาย แล้วเหงื่อที่ไหลออกมาก็ไปติดอยู่บนอุปกรณ์ต่าง ๆ แล้วคนถัดไปที่มาเล่นต่อก็มาสัมผัสสิ่งสกปรกต่อไปอีก จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมฟิตเนสจึงเป็นสถานที่ที่ทำให้คุณรับเชื้อโรคได้ง่ายมาก แต่วิธีแก้นั้นไม่ยาก เพียงแค่หาสเปรย์แอนตี้แบคทีเรียมาฉีดทำความสะอาดที่ตัวอุปกรณ์ทุกครั้ง หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับอุปกรณ์ที่ดูไม่สะอาด หรืออาจหาถุงมือสำหรับเล่นกีฬาโดยเฉพาะมาใช้เวลามาออกกำลังที่ฟิตเนสก็ได้ครับ
2. สวมเสื้อเปื้อนเหงื่อนานเกินไป
นี่ไม่ใช่แค่เรื่องความหล่อเหลาแต่เป็นเรื่องของบุคลิกด้วย คุณอาจจะเพิ่งเสร็จจากการออกกำลังกายอย่างหนักหรืออาจเพิ่งเสร็จจากการออกกำลังมันก็ครอบคลุมถึงเล่นบอลนั่นแหละคุณอาจต้องการเวลาพักหรือสังสรรค์กับเพื่อน ซึ่งพอรับได้ในสถานที่ออกกำลังกาย แต่คุณควรจะเปลี่ยนเสื้อผ้าจริง ๆ จัง ๆ เมื่อออกไปไหนต่อไหน เพราะ นอกจากจะเป็นการรบกวนสังคมด้วยกลิ่นเหงื่อและบุคลิกแล้ว มันยังส่งผลเสียต่อผิวหนังคุณอย่างแรง เชื้อโรคอาจกำลังเพาะพันธุ์อยู่ในร่างกาย ซึ่งทำให้เสี่ยงต่อการเป็นโรคผิวหนังได้
หากบังเอิญว่าคุณมีนัดต้องไปทำธุระที่อื่นต่อหลังจากออกกำลังกายเสร็จ แนะนำให้อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนทุกครั้ง เพราะชุดที่ชุ่มฉ่ำไปด้วยเหงื่อนั้นเต็มไปด้วยแบคทีเรียจำนวนมาก อีกทั้งยังมีกลิ่นตัวติดมาเป็นของแถม คงไม่ดีแน่ถ้าต้องไปเจอคนอื่นในสภาพนี้ ที่สำคัญมันทำให้คุณมีโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นโรคผิวหนังต่าง ๆ ได้อีกด้วย งานนี้แนะนำให้รีบอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเมื่อออกกำลังเสร็จ แต่ถ้าเกิดดันมีผื่นแดงหรือมีอาการคันที่ผิวหนังขึ้นมา ก็ให้หายามาทาทันที หากอาการไม่ดีขึ้น ให้รีบไปพบแพทย์ผิวหนังโดยเร็ว
3.ใช้มีดโกนหนวดเก่า
หลายคนอาจพกมีดโกนหนวดอันที่ใช้เป็นประจำใส่กระเป๋าเดินทางไปในที่ต่าง ๆ จนลืมสังเกตสภาพของมัน ซึ่งภายในกระเป๋าอาจมีฝุ่น เชื้อโรค หรือเชื้อราติดมาในมีดโกนโดยที่ไม่รู้ตัว แล้วเมื่อใช้มีดโกนต่อไปเรื่อย ๆ ก็จะทำให้คุณมีอาการระคายเคืองบริเวณผิวหน้าได้ ดังนั้น ควรเก็บรักษาภายในกล่องที่มิดชิด ล้างทำความสะอาดทุกครั้งหลังใช้งาน และไม่ควรเก็บใส่กล่องทันทีขณะที่ยังเปียก เพื่อป้องกันการอับชื้นซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้มีแบคทีเรียเกิดขึ้น รวมไปถึงเปลี่ยนมีดโกนเป็นประจำ
4. เดินในห้องล็อกเกอร์ด้วยเท้าเปล่า
ฟังดูอาจไม่น่าเชื่อว่าจะเกี่ยวอะไรกัน แต่รู้ไหมว่าห้องล็อกเกอร์ หรือห้องเปลี่ยนเสื้อผ้านั้นเต็มไปด้วยเสื้อผ้าชุ่มเหงื่อที่หลายคนวางกองทิ้งไว้บางคน ก็ยังใส่รองเท้าเดินเข้ามาอีกต่างหาก คิดดูสิว่าบนพื้นจะเต็มไปด้วยสิ่งสกปรกอะไรบ้าง ฉะนั้นการเดินเท้าเปล่าอาจนำพาเชื้อโรคต่าง ๆ เข้าสู่ร่างกายได้ง่าย และมีโอกาสเป็นโรคผิวหนังบริเวณเท้าโดยไม่รู้ตัวก็เป็นได้ เอาเป็นว่าคราวหน้าให้หารองเท้าใส่เดินในห้องล็อกเกอร์ รวมไปถึงอย่าลืมทำความสะอาดเท้าให้สะอาดด้วยทุกครั้ง เพื่อขจัดสิ่งสกปรกและป้องกันกลิ่นเท้าอันไม่พึงประสงค์ที่อาจเกิดขึ้นได้
5. อาบน้ำอุ่นมากไปก็ไม่ดี
จริงอยู่ว่าการอาบน้ำอุ่นนั้นช่วยให้กล้ามเนื้อผ่อนคลายได้ดี แต่ต้องเป็นอุณหภูมิที่เหมาะสม หากน้ำร้อนเกินไปจะทำให้ผิวคุณแห้งได้ นอกจากนี้ หากเป็นไปได้ให้อาบน้ำเย็นบ้างก็ดีนะ เพื่อปิดรูขุมขนไม่ให้มีสิ่งสกปรกเข้าไปอุดตัน รวมทั้งทาโลชั่นบำรุงผิวหลังอาบน้ำทุกครั้ง จะได้คงความชุ่มชื้นให้กับผิวได้ยาวนานตลอดทั้งวัน
6. การว่ายน้ำไม่ใช่การอาบน้ำ
ยังมีคนเข้าใจผิดอยู่บ้างว่าหลังจากว่ายน้ำออกกำลังในสระแล้ว ร่างกายจะสะอาดและพร้อมแต่งตัวไปไหนได้เลย แต่นั่นเป็นความเชื่อที่ผิดมาก เพราะสารเคมีในสระว่ายน้ำยังติดอยู่ที่ตัว ซึ่งจะทำร้ายผิวหนังคุณอย่างแรง หรือหากเป็นแหล่งน้ำตามธรรมชาติ เช่น ทะเลหรือน้ำตก โอกาสเจอเชื้อโรคต่าง ๆ ก็มีมากขึ้นเช่นกัน ดังนั้นการอาบน้ำหลังว่ายน้ำจึงจำเป็นมาก ๆ เพราะจะช่วยล้างสารเคมีและเชื้อโรคต่าง ๆ ให้หมดไป และเมื่ออาบน้ำเสร็จแล้ว ก็ควรทาโลชั่นสักหน่อยเพื่อคงความชุ่มชื้นให้กับผิว
7. สิ่งสกปรกที่ติดตัวมาจากการเล่นกีฬา
โดยเฉพาะกีฬาประเภทที่ต้องล้มลุกคลุกคลานไปบนสนามหญ้าต่าง ๆ เช่น ฟุตบอล รักบี้ เบสบอล เป็นต้น ที่สำคัญหากคุณได้แผลระหว่างการเล่นกีฬาเหล่านี้ล่ะก็ ฝุ่นละออง เศษดิน หรือแบคทีเรียต่าง ๆ อาจโดนแผล จนนำไปสู่อาการติดเชื้อได้ ทางที่ดีหลังจากเล่นเสร็จควรอาบน้ำสระผมล้างตัวให้สะอาด และหากมีแผลก็รีบทายาทำแผลให้เรียบร้อย
เห็นแบบนี้แล้ว หนุ่ม ๆ ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงแบบนี้ก็ควรระวังเอาไว้ด้วย เพราะถ้ามัวแต่ห่วงออกกำลังให้หุ่นเป๊ะ รูปร่างเฟิร์ม แต่ดันเป็นโรคผิวหนังขึ้นมา รับรองว่า กล้ามมัดใหญ่ ซิกแพคแน่น ๆ ก็ไม่ช่วยให้ดูหล่อหรือทำให้สาว ๆ หลงได้นะครับ
คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อน ๆ ได้ที่นี่ 
