เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
สิ่งที่เรารู้กันมาตลอดว่า มีผู้หญิงหลายต่อหลายคนจำต้องแสร้งทำเป็นถึงจุดสุดยอดในขณะมีเซ็กส์กับคนรัก เพื่อให้ผู้ชายของเธอไม่ต้องรู้สึกแย่ว่าทำหน้าที่บนเตียงบกพร่อง หรือสูญเสียความมั่นใจในการบรรเลงเพลงรักของตนเองไป ฟังแล้วก็รู้สึกเห็นอกเห็นใจพวกเธอ แค่สามีลีลาไม่เอาไหนไม่พอ ยังต้องแกล้งทำเป็นแสร้งเพื่อเอาใจคนรักอีกต่างหาก แต่งานเขียนใหม่ชิ้นหนึ่งก็ทำให้ได้รู้ว่า ไม่ใช่ผู้หญิงเท่านั้นที่แกล้งทำเป็นถึงจุดสุดยอด ผู้ชายเราเองก็แสร้งทำเป็นเสร็จสมอารมณ์หมายถึงจุดไคลแมกซ์เมื่อบรรเลงเพลงรักด้วยเช่นกัน และสาเหตุที่ทำเช่นนั้นก็เดิม ๆ คือ แคร์ความรู้สึกของคู่รักนั่นเอง ซึ่งนับเป็นปรากฏการณ์ใหม่ที่เพิ่งพบในกลุ่มคุณผู้ชาย
ในหนังสือ Why Men Fake it: The Totally Unexpected Truth ของ ดร.อับราฮัม มอร์เกนเทเลอร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบปัสสาวะจากมหาวิทยาลัยฮาวาร์ด ได้เผยให้เห็นมุมลับ ๆ อีกด้านของคุณผู้ชาย ซึ่งนับว่าเป็นกลุ่มผู้ชายแสนดีมีความเป็นสุภาพบุรุษถึงขนาดยอมแสร้งทำเป็นถึงจุดไคลแมกซ์ซาบซ่านสะท้านใจ เพื่อให้ฝ่ายหญิงไม่รู้สึกแย่ที่ไม่สามารถพาเขาไปถึงสวรรค์ชั้นเจ็ดได้
ดร.มอร์เกนเทเลอร์ไม่ได้อธิบายเฉพาะเจาะจงไปว่า การแกล้งทำเป็นเสร็จของผู้ชายนั้นเป็นอย่างไร จะสั่นสะท้านแกล้งเสียวซ่านจนตัวเกร็งหรือเปล่า แต่เนื้อหาโดยรวมของหนังสือเน้นให้เห็นการเปลี่ยนแปลงด้านจิตใจ ที่ผู้ชายในยุคปัจจุบันจำนวนไม่น้อยรู้สึกใส่ใจกับสมรรถภาพในความเป็นชายของตัวเองมากขึ้น อย่างการรู้สึกกังวลว่าเจ้าหนูของตัวเองว่าจะแข็งขันพอไหม จะเล่นบทรักได้ดีหรือเปล่า และมีความรู้สึกแคร์คู่รักของตัวเองไม่น้อย ซึ่งความรู้สึกนี้จะเกิดขึ้นกับผู้หญิงที่เป็น "คู่รัก" เท่านั้น หาใช่ "คู่นอน"
คนไข้รายหนึ่งเข้ารักษากับ ดร.มอร์เกนเทเลอร์ด้วยอาการร่างกายท่อนล่างเป็นอัมพาตไร้ความรู้สึกตั้งแต่ช่วงเอวลงไป และดอกเตอร์ได้รักษารวมทั้งสอนวิธีให้เขามีเซ็กส์อีกครั้ง คนไข้รายนี้กลับมาพบหมอใหม่ด้วยความเบิกบานและมั่นใจกว่าเดิม เขารู้สึกว่าได้ความเป็นชายของตัวเองกลับมา แต่หาใช่เพราะว่ากลับมามีความรู้สึกทางเพศอีกครั้ง มันกลับเป็นเพราะเขาสามารถทำให้ภรรยาเต็มอิ่มกับเรื่องบนเตียงได้อีกครั้งต่างหาก
สังคมที่เริ่มเปลี่ยนแปลงไปในช่วง 60 ปีที่ผ่านมา จากความคิดที่ว่าการมอบความสุขให้ผู้ชายคือหน้าที่ของผู้หญิง แต่ในตอนนี้ผู้หญิงกลับกลายเป็นฝ่ายที่คาดหวังให้ผู้ชายมอบความพึงพอใจในบทรักให้กับเธอบ้าง ผู้ชายเองจึงเริ่มกลายเป็นฝ่ายไล่ตาม และเป็นคนที่ต้องมาวิตกกังวลเสียเองว่าสาวคนรักจะรู้สึกดีกับเซ็กส์ที่มีหรือไม่ เขาอยากให้คนรักอิ่มเอมกับความสุขทั้งทางกายและใจ จนกลายเป็นฝ่ายต้องแสร้งทำเสียงซี้ดซ้าดร้องอู้วอ้า ให้ผู้หญิงเข้าใจว่าลีลาท่ารักของเธอเด็ดดวงจนนำพาให้เขาไปเสร็จสมอารมณ์หมายได้ถึงใจ
แหม ยุคสมัยมันเปลี่ยนไปแล้วจริง ๆ ครับ ว่าแต่คุณล่ะ เคยแกล้งทำเป็นถึงจุดสุดยอดกันบ้างหรือเปล่า ?
คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อน ๆ ได้ที่นี่