เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
อุปกรณ์สำคัญสำหรับผู้ที่ออกกำลังกายโดยการวิ่งเป็นประจำ อุปกรณ์ที่เป็นต้องมีและขาดไม่ได้เลยก็คือ รองเท้าวิ่ง เพื่อรองรับแรงกระแทกและป้องกันอาการบาดเจ็บต่าง ๆ โดยเฉพาะเท้าที่ต้องรับภาระหนักที่สุด นอกจากนี้ยังควรหมั่นสังเกตลักษณะของรองเท้าด้วยว่าถึงเวลาที่ควรจะเปลี่ยนแล้วหรือยัง เพราะหากพื้นรองเท้าหลุดหรือมีส่วนใดส่วนนึงชำรุด ก็อาจทำให้ได้รับบาดเจ็บได้ โดยสามารถสังเกตได้จากลักษณะต่อไปนี้
พื้นของรองเท้ากีฬาวิ่งแบ่งออกเป็น 3 ชั้นคือ ชั้นใน ชั้นกลาง และชั้นนอก โดยส่วนสำคัญที่สุดและหมั่นเช็กสภาพเป็นประจำก็คือ พื้นรองเท้าชั้นกลางหรือบริเวณที่เป็นฟองน้ำนิ่ม ๆ อยู่ระหว่างหน้าพื้นกับด้านล่างสุดของพื้น เพราะเป็นชั้นที่ช่วยรับน้ำหนักตัวทั้งหมด เพื่อกระจายแรงกระแทกไปยังส่วนอื่น ดังนั้นถ้าหากเกิดการสึกกร่อนหรือเสียหายแสดงว่าถึงเวลาที่จะต้องเปลี่ยนคู่ใหม่แล้วล่ะ
2. อาการบาดเจ็บ
รองเท้ากีฬาที่อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานนั้น จะไม่สร้างความเจ็บปวดหรืออาการใด ๆ ให้กับผู้สวมใส่ ฉะนั้นหากรู้สึกปวดบริเวณหน้าแข้ง เข่า มีรอยฟกช้ำตรงส้นเท้า หรือได้รับบาดเจ็บบริเวณข้อต่อที่หัวไหล่ และมีอาการอื่น ๆ ตามมาหลังจากออกวิ่ง ทั้ง ๆ ที่วิ่งตามปกติ นี่เป็นสัญญาณที่บอกว่าควรจะเปลี่ยนรองเท้าใหม่ได้แล้ว
3. ระยะทางในการวิ่ง
นอกจากการเช็กสภาพของรองเท้า รวมทั้งอาการบาดเจ็บของร่างกายแล้ว พบว่าไม่มีความเปลี่ยนแปลงใด ๆ ก็ควรจะเปลี่ยนไปใช้รองเท้าวิ่งคู่ใหม่อยู่ดี หากใส่มานานหลายปีแล้ว หรือถ้าหากนับรวมระยะทางวิ่งแล้วได้ราว 563 กิโลเมตรซึ่งเท่ากับ 70 กิโลเมตรต่อสัปดาห์ เพื่อความสบายในการสวมใส่ และสุขภาพเท้าของตัวเอง
4. สภาพของพื้นผิวในการวิ่ง
ปัจจัยที่มีผลต่อสภาพการใช้งานของรองเท้าไม่ได้ขึ้นอยู่กับน้ำหนักตัว หรือการใช้งานเพียงอย่างเดียว แต่ขึ้นอยู่กับลักษณะของพื้นผิวบนทางวิ่งด้วย ฉะนั้นหากวิ่งบนพื้นผิวที่มีความขรุขระมากอาจต้องเปลี่ยนรองเท้าเร็วกว่าคนอื่น ๆ รวมไปถึงความมากน้อยของน้ำหนักตัว หากน้ำหนักตัวไม่มากรองเท้ากีฬาอาจจะใช้งานได้นานกว่าคนที่มีน้ำหนักตัวเยอะ
เนื่องจากวัสดุรองเท้าวิ่งของแต่ละแบรนด์ และการใช้งานของแต่ละคนแตกต่างกัน ฉะนั้นจึงไม่อาจระบุได้ว่ารองเท้ากีฬาแต่ละคู่มีระยะการใช้งานนานเท่าไหร่ แต่ทั้งนี้ทุกคนสามารถสังเกตได้จากลักษณะของรองเท้าที่เปลี่ยนไป ไม่ว่าจะเป็นพื้นรองเท้า ส้น หรือหนังหุ้ม หากมีร่องรอยฉีกขาด หรือสภาพแย่เกินกว่าที่จะซ่อมแซมได้ ควรเปลี่ยนรองเท้าคู่ใหม่ เพื่อสุขภาพเท้าของตัวเองดีกว่าครับ
