.jpg "ลูกผู้ชายยอมได้ไง พอเสียทีกับการถูกปั่นหัว")
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
เวลาดูหนังแล้วเห็นคนถูกรังแก หรือถูกหลอกใช้เพื่อหวังผลประโยชน์จากคนที่ไม่หวังดี แล้วมันน่าหงุดหงิดใจจริง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเห็นว่าคนคนนั้นต้องเป็นเบ๊ถูกโขกสับ หรือไม่ก็ถูกหลอกใช้เฉย ๆ พอหมดประโยชน์ก็ผลักไสไล่ส่ง มันคงจะดีถ้าคนหัวอ่อนพวกนี้จะลุกขึ้นมาต่อต้าน ไม่ให้ตัวเองต้องตกเป็นเหยื่อที่ถูกชักนำให้ต้องทำโน่นทำนี่ หรือให้เป็นในสิ่งที่ไม่ต้องการ เอาล่ะ หากใครรู้ตัวว่าชีวิตตัวเองก็ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ต่างกัน และไม่อยากจะทนอยู่แบบนี้อีกต่อไป มาดูสิว่าคุณควรต้องทำอย่างไรบ้าง...
1. รู้คุณค่าของตัวเองสเต็ปแรกสุด คุณจำเป็นที่จะต้องเรียนรู้คุณค่าของตัวเอง การมีอยู่ของคุณไม่ได้ด้อยค่าไปกว่าใคร ๆ และแน่นอนว่า ไม่ได้ด้อยไปกว่าคนพวกนั้นด้วย เชื่อมั่นว่าตัวเองมีพลัง และจะสามารถเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ได้ เพราะเรื่องแบบนี้จะอาศัยใครไปไม่ได้ นอกจากตัวเอง
2. เปลี่ยนแปลงตัวเอง คุณอาจมีคุณสมบัติบางอย่างที่ให้คนอื่นเขามองว่าคุณเป็นพวกหัวอ่อน ถูกชักจูงง่าย จึงทำให้คุณตกเป็นเหยื่ออยู่ร่ำไป ดังนั้น คุณจำเป็นจะต้องวิเคราะห์ตัวเองอย่างละเอียด และกำจัดจุดอ่อนนั้นในตัวคุณออกไปซะ
.jpg "ลูกผู้ชายยอมได้ไง พอเสียทีกับการถูกปั่นหัว")
3. หาที่ปรึกษา การเปลี่ยนแปลงต้องทำโดยตัวคุณเอง แต่ในบางเวลาคุณก็ต้องการที่ปรึกษาที่ดี บางทีอาจเป็นคนในครอบครัวหรือเพื่อนสนิท พวกเขาสามารถให้คำแนะนำคุณได้ และทำให้คุณอุ่นใจที่รู้ว่ายังไงก็มีคนที่คอยยืนอยู่ข้างคุณเสมอ
4. พูดในสิ่งที่คิด การพูดในสิ่งที่ตัวเองคิด เป็นหนทางที่ดีที่จะทำให้คนพวกนั้นเห็นว่าคุณไม่ได้มีคุณสมบัติของคนที่จะถูกหลอกใช้ได้ง่าย ๆ คุณจะไม่ยอมนิ่งบื้อไม่พูดไม่จา ให้คนเหล่านั้นคิดว่าเขาสามารถรังแกคนไม่มีชีวิตจิตใจอีกต่อไป (โดยพื้นฐานคนที่รังแกผู้อื่น จะเล็งรังแกคนที่อ่อนแอกว่า หรือคนที่ดู "มีความเป็นคน" น้อยกว่า หรือต่างไปจากตัวเอง ตัวอย่างเช่น เด็กที่มีความผิดปกติ เรียนรู้ช้า มักถูกเพื่อนแกล้งอยู่เสมอ นี่เป็นสัญชาตญาณส่วนหนึ่งของมนุษย์ ที่ทำให้คนสามารถทำสิ่งไม่ดีได้โดยไม่รู้สึกผิดกับตัวเอง)
5. รู้จักปฏิเสธอย่าเอาแต่พยักหน้า หรือทำตัวเป็นคน "อะไรก็ได้" หากไม่ชอบใจ ไม่เห็นด้วย หรือไม่ต้องการสิ่งใด คุณจำเป็นต้องบอกปฏิเสธไป เป็นการป้องกันการถูกหลอกใช้ประโยชน์ได้เป็นอย่างดี
6. ไม่จำเป็นต้องหาสมัครพรรคพวก คุณไม่จำเป็นต้องมองซ้ายมองขวา เพื่อหาคนที่จะคิดเหมือนหรือว่าเห็นด้วยกับคุณ หากรู้สึกว่าตัวเองไม่ต้องการก็ไม่จำเป็นที่จะต้องโอนอ่อนผ่อนตามเพื่อให้คนพวกนั้นพอใจ ซึ่งจะทำให้คุณตกเป็นเหยื่ออยู่ร่ำไปแน่นอน
.jpg "ลูกผู้ชายยอมได้ไง พอเสียทีกับการถูกปั่นหัว")
7. สร้างขอบเขตและข้อจำกัด"ทำอันนี้หน่อยสิ" "ทำอันนั้นให้ที" หากมันเป็นเรื่องเล็กที่ไม่เกินกำลังและไม่ทำให้คุณเดือดร้อน ก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายที่คุณจะยินยอมทำให้ แต่ก็ควรจะมีขอบเขตหรือข้อจำกัดกับเรื่องแบบนี้ด้วย ไม่ใช่ว่ายอมทำให้บ่อย ๆ ซึ่งมันอาจลุกลามกลายเป็นเรื่องที่ใหญ่ขึ้น และเกินกำลังความสามารถของคุณ ยิ่งเป็นเรื่องที่ชวนให้คุณใช้เงินเกินตัว ยิ่งควรเลี่ยงให้ไกล
8. จดจำสิ่งที่ผ่านมาเป็นบทเรียน ประสบการณ์ร้าย ๆ ที่เคยเกิดขึ้น อย่าให้มันจบแล้วก็ผ่านเลยไปเฉย ๆ ระลึกถึงมันเอาไว้ในฐานะบทเรียนที่จะสอนคุณไม่ให้เพลี่ยงพล้ำถูกชักนำจูงจมูกอีก อย่างน้อยก็จะพอช่วยให้รู้ตัวได้ว่า หากสถานการณ์เริ่มเข้าเค้าลางเดิม คุณก็ควรจะถอนตัวหรือหลบเลี่ยงสิ่งที่อาจก่อให้เกิดปัญหาตามมาได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ
9. งดสังสรรค์สมาคมกับคนกลุ่มนั้น หากต้องตกอยู่ในวงของคนที่คอยจ้องใช้ประโยชน์จากตัวคุณอยู่บ่อย ๆ คุณจะตกอยู่ในสถานะของเหยื่ออยู่เรื่อยไปไม่มีสิ้นสุด ทางที่ดีควรพาตัวเองหลบเลี่ยงออกมา ไม่ต้องไปข้องแวะกับคนกลุ่มนั้นอีกเป็นดีที่สุด
10. เผชิญหน้า ในบางสถานการณ์ เมื่อไม่สามารถหลบเลี่ยงได้ คุณก็จำเป็นที่จะต้องเผชิญหน้า คุยให้รู้ แสดงให้เห็นไปเลย ว่าคุณจะไม่ยอมตกเป็นลิ่วล้อหรือเป็นของตาย ให้คนพวกนั้นหลอกใช้ได้ตามใจอีกต่อไป
ทั้งหมดทั้งมวลนี้ จะเกิดขึ้นและส่งผลจริง ๆ ได้ ต้องเริ่มมาจากการที่คุณรู้สึกเคารพและเห็นคุณค่าของตัวเอง ยามใดที่คุณต้องตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ เหนือสิ่งอื่นใดขอให้พูดย้ำกับตัวเองอย่างหนักแน่นว่า คุณจะไม่ยอมตกเป็นเหยื่อหรือถูกใครหลอกใช้แน่นอน แล้วพลังที่จะทำให้คุณลุกขึ้นสู้ได้ก็จะตามมา เพราะยังไงแล้ว...ลูกผู้ชายอย่างคุณ ต้องไม่ยอมให้ใครมาปั่นหัวได้ง่าย ๆ นะ!
