แนะนำแท็บเล็ต 2024 รุ่นไหนดี เรารวบรวมมาให้แล้ว มีทั้งรุ่นราคาประหยัดจนถึงรุ่นระดับเรือธง สำหรับใช้ให้ความบันเทิงก็ได้ หรือใช้ทำงานก็ดี
หากเพื่อน ๆ คนไหนกำลังมองหาแท็บเล็ตสักเครื่อง สำหรับไว้ใช้ทำงานต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการวาดรูป ตัดต่อ ทำงานกราฟิก หรือใช้เพื่อความบันเทิงอย่างดูหนัง เล่นเกม อยากรู้ว่ามีรุ่นไหนยี่ห้อใดให้เลือกซื้อบ้าง วันนี้เราก็ได้รวบรวมแท็บเล็ต 2024 สารพัดรุ่นที่กำลังจำหน่ายในช่วงปีนี้มาแนะนำกัน ส่วนจะมีรุ่นไหนบ้างนั้นลองตามไปดูกันเลย
แท็บเล็ต 2024 รุ่นไหนดี ?
1. HUAWEI MatePad Air
ภาพจาก : huawei.com
แท็บเล็ตสเปกระดับเรือธงจาก HUAWEI ที่มีดีไซน์บางเบา โดยมาพร้อมหน้าจอ FullView Display ขนาด 11.5 นิ้ว ความละเอียด 2800 x 1840 พิกเซล รองรับ 144Hz ที่เสริมด้วยความแรงของชิปประมวลผล Snapdragon 888 รองรับ 4G LTE และ Wi-Fi 6 ช่วยให้ใช้งานหรือเล่นเกมได้ลื่นไหล แรม 8GB ความจุ 256GB กล้องหลัง 13MP กล้องหน้า 8MP แบตเตอรี่ 8,300mAh รองรับชาร์จเร็ว 40W มีลำโพง 4 ตัว ระบบเสียง Histen 8.0 กับไมโครโฟน 4 ตัว และรันระบบปฏิบัติการ HarmonyOS 3.1 โดยจะมี Smart Magnetic Keyboard ให้มาพร้อมเครื่องด้วย
-
ราคา 22,990 บาท
2. Honor Pad X9
ภาพจาก : hihonor.com
แท็บเล็ต Honor หน้าจอ FullView ขนาด 11.5 นิ้ว ความละเอียด 2K รองรับ 120Hz ใช้ชิปประมวลผล Snapdragon 685 รองรับ 4G LTE แรม 4GB พร้อมฟีเจอร์ขยายแรมเพิ่มอีก 3GB ความจุ 128GB ลงแอปฯ และเก็บข้อมูลได้เยอะ กล้องหลัง 5MP กล้องหน้า 5MP แบตเตอรี่ 7250mAh มีลำโพงเซอร์ราวด์ 6 ตัว และรันระบบปฏิบัติการ Android 13 ครอบทับด้วย MagicOS 7.1
-
ราคา 7,499 บาท
3. Huawei MatePad Pro 13.2
ภาพจาก : huawei.com
แท็บเล็ต Huawei รุ่นท็อป ที่มาพร้อมหน้าจอ Flexible OLED ขนาด 13.2 นิ้ว ความละเอียด 2880 x 1920 พิกเซล ใช้ชิปประมวลผลแรงระดับเรือธง Kirin 9000W แรม 12GB ความจุ 512GB กล้องหลังคู่ 13MP กล้องหน้า 16MP แบตเตอรี่ 5050mAh รองรับชาร์จเร็ว HUAWEI SuperCharge 66W มีระบบการตั้งค่าอาร์เรย์ของลําโพงแบบหลายไดรเวอร์และสนามเสียงสเตอริโอ รันระบบปฏิบัติการ HarmonyOS 4 รองรับการใช้งานร่วมกับปากกา M-Pencil (รุ่นที่ 3) ที่รองรับระดับการตรวจจับแรงกดมากกว่า 10,000 ระดับ แต่ต้องซื้อแยกต่างหาก
-
ราคา 39,990 บาท
4. Samsung Galaxy Tab A9 Series
ภาพจาก : samsung.com
แท็บเล็ตซีรีส์ A จากซัมซุง ที่มีสเปกจัดอยู่ในระดับกลาง โดยตัวท็อปอย่าง Galaxy Tab A9+ จะมีหน้าจอขนาด 11 นิ้ว ความละเอียด FHD+ ใช้ชิปประมวลผล Snapdragon 695 แรม 8GB ความจุ 128GB กล้องหลัง 8MP กล้องหน้า 5MP แบตเตอรี่ 7040mAh และรันระบบปฏิบัติการ Android 13 ครอบทับด้วย One UI 5.1
-
Galaxy Tab A9 LTE 4GB/64GB ราคา 6,990 บาท
-
Galaxy Tab A9+ Wi-Fi 8GB/128GB ราคา 8,990 บาท
-
Galaxy Tab A9+ 5G 8GB/128GB ราคา 10,990 บาท
5. OPPO Pad 2
ภาพจาก : oppo.com
แท็บเล็ตระดับเรือธงจาก OPPO ที่มาพร้อมหน้าจอขนาด 11.61 นิ้ว ความละเอียด 2800 x 2000 พิกเซล รองรับ 144Hz ใช้ชิปประมวลผล Dimensity 9000 รองรับ Wi-Fi 6 แรม 8GB ความจุ 256GB กล้องหลัง 13MP กล้องหน้า 8MP แบตเตอรี่ 9510mAh รองรับชาร์จเร็ว 67W SUPERVOOC รับชมความบันเทิงได้อรรถรสด้วย Dolby Vision และ Dolby Atmos โดยมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 13 ครอบทับด้วย ColorOS 13.1
-
ราคา 24,990 บาท
6. HUAWEI MatePad 11 PaperMatte Edition
ภาพจาก : huawei.com
แท็บเล็ตสเปกแรงจาก HUAWEI ที่มีหน้าจอแบบ PaperMatte Display ช่วยลดแสงสะท้อน ขนาด 11 นิ้ว ความละเอียด 2560 x 1600 พิกเซล รองรับ 120Hz ใช้ชิปประมวลผล Snapdragon 870 รองรับ Wi-Fi 6 แรม 8GB ความจุ 128GB กล้องหลัง 13MP กล้องหน้า 8MP แบตเตอรี่ 7250mAh รองรับชาร์จเร็ว 45W มีลําโพง 4 ตัว ระบบเสียง Histen 8.0 และรันระบบปฏิบัติการ HarmonyOS 3.1 โดยจะมีปากกา M-Pencil (รุ่นที่ 2) ให้มาในกล่องด้วย
-
ราคา 15,990 บาท
7. Samsung Galaxy Tab S9 FE Series
ภาพจาก : samsung.com
แท็บเล็ตสเปกระดับเรือธงที่เป็นรุ่นรองจาก Galaxy Tab S9 Series โดยตัวท็อปอย่าง Galaxy Tab S9 FE+ จะมีหน้าจอขนาด 12.4 นิ้ว ความละเอียด 2560 x 1600 พิกเซล รองรับ Refresh Rate 90Hz แสดงภาพได้ลื่นไหล ใช้ชิปประมวลผล Exynos 1380 แรม 8GB ความจุ 128GB กล้องหลังคู่ 8MP กล้องหน้า 12MP แบตเตอรี่ 10090mAh รองรับชาร์จเร็ว 45W มีคุณสมบัติกันน้ำ IP68 และมีปากกา S-Pen ให้มาพร้อมเครื่อง
-
Galaxy Tab S9 FE Wi-Fi ราคา 16,990 บาท
-
Galaxy Tab S9 FE 5G ราคา 19,990 บาท
-
Galaxy Tab S9 FE+ Wi-Fi ราคา 23,900 บาท
-
Galaxy Tab S9 FE+ 5G ราคา 27,900 บาท
8. Lenovo Tab P12
ภาพจาก : lenovo.com
แท็บเล็ต Lenovo หน้าจอขนาด 12.7 นิ้ว ความละเอียดระดับ 3K 2944 x 1840 พิกเซล แสดงภาพได้ละเอียดคมชัด ใช้ชิปประมวลผล Dimensity 7050 แรม 8GB ความจุ 256GB สามารถใส่ microSD เพิ่มความจุได้สูงสุด 1TB กล้องหลัง 8MP กล้องหน้า 13MP แบตเตอรี่ 10200mAh รองรับชาร์จเร็ว 30W และรันระบบปฏิบัติการ Android 13 ครอบทับด้วย ZUI 15 โดยจะมีคีย์บอร์ดและปากกาให้มาพร้อมกับตัวเครื่อง
-
ราคา 15,990 บาท
9. Redmi Pad SE
ภาพจาก : mi.com
แท็บเล็ตราคาประหยัดที่ตัวเครื่องเป็นยูนิบอดี้อะลูมิเนียมอัลลอย มาพร้อมหน้าจอถนอมสายตาขนาด 11 นิ้ว ความละเอียด FHD+ รองรับ Refresh Rate 90Hz แสดงภาพได้ลื่นไหล ใช้ชิปประมวลผล Snapdragon 680 แรม 6GB ความจุ 128GB รองรับการใส่ microSD เพิ่มได้สูงสุด 1TB กล้องหลัง 8MP กล้องหน้า 5MP แบตเตอรี่ 8000mAh มีลำโพง 4 ตัว ระบบเสียง Dolby Atmos และรันระบบปฏิบัติการ Android 13 ครอบทับด้วย MIUI Pad 14
- ราคา 5,999 บาท
10. Samsung Galaxy Tab S9 Series
ภาพจาก : samsung.com
แท็บเล็ตเรือธงจาก Samsung โดยรุ่นท็อปอย่าง Galaxy Tab S9 Ultra จะมาพร้อมหน้าจอ Dynamic AMOLED 2X ขนาด 14.6 นิ้ว รองรับ HDR10+ และ Refresh Rate 120Hz เพื่อการแสดงผลที่สีสดและไหลลื่น ใช้ชิปประมวลผล Snapdragon 8 Gen 2 รองรับ 5G ทำให้เล่นเกมได้อย่างมีประสิทธิภาพและช่วยประหยัดพลังงาน กล้องหลังคู่ Main 13MP + Ultrawide 8MP กล้องหน้าคู่ Main 12MP + Ultrawide 12MP มีคุณสมบัติกันน้ำกันฝุ่น IP68 แบตเตอรี่ 11,200mAh โดยจะมีปากกา S Pen ให้มาในกล่องด้วย
-
Galaxy Tab S9 ราคาเริ่มต้น 25,900 บาท
-
Galaxy Tab S9+ ราคาเริ่มต้น 32,900 บาท
-
Galaxy Tab S9 Ultra 5G ราคาเริ่มต้น 46,900 บาท
วิธีเลือกซื้อแท็บเล็ต
ในการจะเลือกซื้อแท็บเล็ตมาใช้งานสักเครื่องนั้นก็มีสิ่งที่ควรพิจารณาหลายอย่างด้วยกัน เพื่อให้ได้รุ่นและยี่ห้อที่ดีมีคุณภาพ เหมาะสมกับลักษณะการใช้งาน โดยมีหลักวิธีเลือกซื้อดังต่อไปนี้
1. ยี่ห้อ
บางคนอาจจะมียี่ห้อแท็บเล็ตในใจที่ชื่นชอบเป็นการส่วนตัวอยู่แล้ว ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ก็สามารถเจาะจงเลือกซื้อรุ่นของแบรนด์นั้น ๆ ได้เลย หรือถ้าใครยังไม่มีอาจพิจารณาจากชื่อเสียงของแต่ละแบรนด์ รวมถึงการรับประกันและบริการหลังการขายร่วมด้วย หรือถ้าคุณเป็นผู้ใช้ iOS ก็คงต้องเลือกซื้อแต่เฉพาะ iPad เท่านั้น
2. สเปก
ให้พิจารณาดูว่าต้องการซื้อมาใช้งานอะไรบ้าง ถ้าใช้งานทั่วไปก็อาจไม่จำเป็นต้องซื้อรุ่นแพงสเปกแรงมาก โดยเลือกรุ่นประหยัดราคาหลักพันก็เพียงพอแล้ว แต่หากจะเน้นเล่นเกมหรือทำงานด้านกราฟิกก็อาจเลือกรุ่นที่มีซีพียูแรง ๆ แรมเยอะ ๆ แบตเตอรี่อึด ๆ หน่อย นอกจากนี้สเปกอื่น ๆ ก็เลือกตามที่ชอบเลย เช่น หน้าจอใหญ่ กล้องหน้า-กล้องหลัง รวมทั้งฟีเจอร์เสริมอย่างการสแกนลายนิ้วมือ-ใบหน้า รองรับปากกาสไตลัส และลูกเล่นอื่น ๆ
3. ดีไซน์
ถัดจากสเปกก็มาดูที่ดีไซน์หน้าตาตัวเครื่องกันต่อว่าสวยถูกใจแค่ไหน ขนาดและรูปทรงตัวเครื่องเป็นแบบที่ชอบหรือไม่ รวมทั้งสีสันตัวเครื่องที่แต่ละรุ่นก็จะมีให้เลือกแตกต่างกันไป แต่หากเป็นรุ่นที่มีหน้าจอขนาดใหญ่จะทำให้ตัวเครื่องใหญ่ตามไปด้วย ซึ่งอาจทำให้พกพาได้ลำบากกว่ารุ่นที่มีหน้าจอเล็กกะทัดรัด
4. ราคา
แท็บเล็ตรุ่นที่สเปกสูง ๆ ก็มักจะมีราคาที่สูงตามไปด้วย ซึ่งถ้าหากคุณมีงบที่ค่อนข้างจำกัดก็คงเลือกรุ่นที่มีสเปกและคุณสมบัติเพียงพอกับลักษณะการใช้งาน หรืออาจตัดสินใจเพิ่มเงินอีกหน่อยถ้ารุ่นที่มีสเปกตามต้องการแพงเกินกว่างบที่ตั้งไว้ แต่ยังอยู่ในระดับที่รับไหว นอกจากนี้ยังสามารถหาซื้อเครื่องมือสองเป็นอีกทางเลือกหนึ่งได้
ทั้งนี้ ราคาของแท็บเล็ตแต่ละรุ่นอาจแตกต่างจากราคาที่ได้ระบุไว้ ขึ้นอยู่กับแต่ละร้านค้าตัวแทนจำหน่ายและโปรโมชั่นต่าง ๆ เพราะฉะนั้นขอแนะนำให้เพื่อน ๆ ตรวจสอบราคาอีกครั้งก่อนตัดสินใจซื้อกันด้วยนะครับ
บทความเกี่ยวข้องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : samsung.com, huawei.com, oppo.com, lenovo.com, hihonor.com, mi.com
