แนะนำ Smartwatch 2024 รุ่นไหนดี รวมสมาร์ตวอตช์ยี่ห้อต่าง ๆ ที่มีให้เลือกตั้งแต่ราคาหลักพันไปจนถึงหลักหมื่น ทั้งสายแฟชั่นและสายออกกำลังกาย
Smartwatch (สมาร์ตวอตช์) อุปกรณ์ Gadget แบบสวมใส่ที่เป็นได้มากกว่านาฬิกาข้อมือ เพราะนอกจากจะใช้ดูเวลาแล้วยังสามารถใช้เชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือ พร้อมทั้งมีฟีเจอร์ลูกเล่นต่าง ๆ ที่ใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันได้มากมาย โดยเฉพาะฟีเจอร์ด้านสุขภาพและฟิตเนสต่าง ๆ ที่จะช่วยอัปเกรดคุณภาพชีวิตให้ดียิ่งขึ้น สำหรับใครที่กำลังมองหาสมาร์ตวอตช์ไว้ใช้สักรุ่น วันนี้เราก็ได้คัดเลือกรุ่นใหม่ ๆ ที่น่าสนใจในปี 2024 มาให้แล้ว จะมีรุ่นไหนบ้าง ลองตามไปดูกันเลย
Smartwatch รุ่นไหนดี ปี 2024
1. Apple Watch Series 10
Smartwatch Apple รุ่นล่าสุดที่มีดีไซน์บางที่สุดและหน้าจอใหญ่ที่สุดเมื่อเทียบกับ Apple Watch ทุกรุ่น สามารถดูข้อมูลเชิงลึกด้านสุขภาพที่สำคัญผ่านแอปฯ สัญญาณชีพ พร้อมเซ็นเซอร์ใหม่ใช้วัดความลึกและอุณหภูมิในน้ำสำหรับการผจญภัยทางน้ำ นอกจากนี้ยังสามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้เร็วกว่ารุ่นก่อน ๆ โดยชาร์จได้ 80% ภายใน 30 นาที กับวงแหวนกิจกรรมที่ปรับแต่งให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ได้
-
รุ่นอะลูมิเนียม ราคาเริ่มต้น 14,900 บาท
-
รุ่นไทเทเนียม ราคาเริ่มต้น 25,900 บาท
2. Samsung Galaxy Watch7
Smartwatch Samsung ที่มาพร้อม Galaxy AI และชิปประมวลผลตัวใหม่ขนาด 3 นาโนเมตร รองรับการค้นหาเส้นทางด้วย GPS แบบความถี่คู่ ฟีเจอร์ติดตามอัตราการเต้นของหัวใจ การออกกำลังกาย และการนอนหลับ ด้วยเซ็นเซอร์ BioActive โดย Galaxy AI จะให้ข้อมูลเชิงลึกพร้อม Energy Score เพื่อช่วยในการติดตามสุขภาพ
-
ราคาเริ่มต้น 7,630 บาท
3. vivo Watch 3
Smartwatch vivo ดีไซน์ใหม่หลากหลายสไตล์ ให้ลุคที่สดใสและทันสมัย โดยจะใช้ระบบปฏิบัติการ BlueOS ที่พัฒนาขึ้นเอง เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการออกกำลังกายหรือท่องเที่ยว แบตเตอรี่สามารถใช้งานได้ยาวนานสูงสุด 16 วัน พร้อมฟังก์ชันการติดตามสุขภาพครบวงจรที่ชาญฉลาดและแม่นยำ
-
ราคาเริ่มต้น 6,499 บาท
4. Xiaomi Watch S3
Smartwatch Xiaomi ที่มีดีไซน์ขอบจอแบบอเนกประสงค์ สามารถปรับแต่งได้ มีหน้าจอ AMOLED ขนาดใหญ่ 1.43 นิ้ว รองรับ 150+ โหมดกีฬา, GNSS ย่านความถี่คู่ L1+L5 ในตัว พร้อมการติดตามข้อมูลสุขภาพรอบด้านที่อัปเกรดใหม่ แบตเตอรี่ใช้ได้นานสุด 15 วัน และรองรับการโทร. ผ่านการเชื่อมต่อ Bluetooth
-
ราคา 4,890 บาท
5. HUAWEI WATCH GT 5
Smartwatch HUAWEI ดีไซน์เฉียบคม เหมาะสำหรับใส่วิ่งและปั่นจักรยาน พร้อมผู้ช่วยด้านสุขภาวะทางอารมณ์ และระบบ TruSense ของ HUAWEI ที่จะช่วยติดตามสุขภาพอย่างรวดเร็ว แม่นยำ และครอบคลุม มีอายุการใช้งานแบตเตอรี่นานสูงสุด 2 สัปดาห์ รวมทั้งรองรับการใช้งานร่วมกับแอปฯ Huawei Health
-
ราคาเริ่มต้น 6,990 บาท
5. Garmin vívoactive 5
Smartwatch Garmin หน้าจอ AMOLED ขนาด 1.2 นิ้ว มาพร้อมฟีเจอร์ติดตามค่า Body Battery ที่ช่วยให้รู้ว่ากิจกรรมใดทำให้พลังงานร่างกายลดลงหรือเพิ่มขึ้นตลอดทั้งกลางวันและกลางคืน การแสดงข้อมูลสุขภาพเชิงลึก รวมทั้งฟีเจอร์ Garmin Coach และโหมดกีฬามากกว่า 30 กิจกรรม บวกกับฟีเจอร์ติดตามการนอนหลับพร้อมให้คำแนะนำในการนอนหลับ มีโหมดการออกกำลังกายในตัวสำหรับผู้ใช้งานวีลแชร์ พร้อมระบบติดตามการผลัก แบตเตอรี่ใช้ได้นานสูงสุด 11 วัน
-
ราคา 10,990 บาท
6. Amazfit Active
Smartwatch Amazfit ที่มีหน้าจอ AMOLED ขนาด 1.75 นิ้ว ความละเอียด HD มาพร้อมฟีเจอร์ Readiness ที่ช่วยบอกได้ว่ากิจกรรมใดส่งผลต่อสุขภาพจิตและสุขภาพกายบ้าง และ Zepp Coach ทำหน้าที่เป็นเทรนเนอร์ AI ส่วนตัว มีระบบนำทางที่แม่นยำด้วยดาวเทียม 5 ตัว นอกจากนี้ยังสามารถเชื่อมต่อกับมือถือผ่านบลูทูธเพื่อใช้สนทนาหรือฟังเพลงได้ แบตเตอรี่สามารถใช้ได้นาน 2 สัปดาห์ ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง
-
ราคา 8,990 บาท
7. OPPO Watch X
Smartwatch OPPO หน้าปัดกระจกคริสตัลแซฟไฟร์ แข็งแรงทนทาน ชิปเซต Snapdragon W5 Gen 1 อายุแบตเตอรี่นานถึง 12 วัน และรันระบบปฏิบัติการ Wear OS รองรับแอปฯ และบัญชี Google แสดงข้อมูลการออกกำลังกายแบบเรียลไทม์ 3 ประเภท สรุปการออกกำลังกายด้วยภาพ มี GPS ความถี่คู่ที่แม่นยำ พร้อมฟังก์ชันวิเคราะห์ท่าทางการวิ่ง มีเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ 8 ช่อง และฟีเจอร์ติดตามการนอนหลับ
-
ราคา 8,990 บาท
สมาร์ตวอตช์ เลือกซื้อยังไงดี
สำหรับใครที่กำลังตัดสินใจจะซื้อสมาร์ตวอตช์ แต่ไม่รู้ว่าจะต้องเลือกอย่างไร เรามีวิธีเลือกสมาร์ตวอตช์มาแนะนำกัน ดังนี้
1. ดีไซน์
ควรเลือกดีไซน์ที่ชอบและเหมาะกับตัวเอง โดยในปัจจุบันมีสมาร์ตวอตช์ออกมาให้เลือกหลากหลายดีไซน์ ทั้งแบบเรียบหรูดูแพง แบบคลาสสิกสามารถใส่ได้ทุกวัน และแบบสีสันสดใสถูกใจสายแฟชั่น อีกทั้งบางรุ่นยังสามารถใส่เคสกันกระแทกหรือเปลี่ยนสายได้ตามความชอบ
2. ฟังก์ชันการใช้งาน
สมาร์ตวอตช์แต่ละรุ่นมีฟังก์ชันการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับการใช้งานของแต่ละคนด้วย แต่โดยส่วนใหญ่แล้วสมาร์ตวอตช์เกือบทุกรุ่นจะมีฟังก์ชันพื้นฐานที่คล้ายกันคือ สามารถวัดอัตราการเต้นของหัวใจขณะออกกำลังกาย แคลอรีที่ถูกเผาผลาญออกไป และแสดงจำนวนก้าวเดินในแต่ละวัน
3. ราคา
ราคาของสมาร์ตวอตช์แต่ละรุ่นส่วนใหญ่จะขึ้นอยู่กับฟังก์ชันการใช้งาน ยิ่งฟังก์ชันเยอะและทันสมัยก็ยิ่งทำให้ราคาสูงตามไปด้วย รวมทั้งยี่ห้อและดีไซน์ก็มีผลต่อราคาด้วยเช่นกัน เพราะฉะนั้นจึงควรเลือกสมาร์ตวอตช์ที่เหมาะกับงบและการใช้งานของตัวเองมากที่สุด เพราะนอกจากจะได้สมาร์ตวอตช์ที่ตอบโจทย์การใช้งานแล้วยังช่วยเซฟเงินในกระเป๋าด้วย
4. คุณภาพ
สุดท้ายควรคำนึงถึงคุณภาพของสินค้า เพราะคนส่วนใหญ่จะเน้นใส่ออกกำลังกาย ซึ่งต้องเจอทั้งเหงื่อ น้ำ ฝุ่น และแรงกระแทก ดังนั้น ควรเลือกสมาร์ตวอตช์ที่ใช้วัสดุแข็งแรงทนทาน กันน้ำ-กันฝุ่นได้ดี สวมใส่สบาย พร้อมลุยไปกับคุณในทุกกิจกรรม
ทั้งนี้ เนื่องจากสมาร์ตวอตช์บางรุ่น บางยี่ห้อ อาจไม่สามารถเชื่อมต่อหรือใช้งานร่วมกับโทรศัพท์มือถือบางยี่ห้อได้ หรืออาจใช้งานได้แต่ไม่รองรับในบางฟีเจอร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่เป็นการใช้งานข้ามระบบปฏิบัติการ เช่น การนำ Apple Watch ไปใช้กับมือถือ Android หรือการใช้ iPhone กับสมาร์ตวอตช์ยี่ห้ออื่น ๆ เพราะฉะนั้นก็อย่าลืมเช็กข้อมูลกันให้ดีก่อนตัดสินใจซื้อมาใช้ด้วยนะครับ
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : apple.com, samsung.com, garmin.com, amazfit.com, huawei.com, mi.com, oppo.com, vivo.com