แนะนำ Smartwatch 2024 รุ่นไหนดี รวมสมาร์ตวอตช์ยี่ห้อต่าง ๆ ที่มีให้เลือกตั้งแต่ราคาหลักพันไปจนถึงหลักหมื่น ทั้งสายแฟชั่นและสายออกกำลังกาย
Smartwatch (สมาร์ตวอตช์) อุปกรณ์ Gadget แบบสวมใส่ที่เป็นได้มากกว่านาฬิกาข้อมือ เพราะนอกจากจะใช้ดูเวลาแล้วยังสามารถใช้เชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือ พร้อมทั้งมีฟีเจอร์ลูกเล่นต่าง ๆ ที่ใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันได้มากมาย โดยเฉพาะฟีเจอร์ด้านสุขภาพและฟิตเนสต่าง ๆ ที่จะช่วยอัปเกรดคุณภาพชีวิตให้ดียิ่งขึ้น สำหรับใครที่กำลังมองหาสมาร์ตวอตช์ไว้ใช้สักรุ่น วันนี้เราก็ได้คัดเลือกรุ่นใหม่ ๆ ที่น่าสนใจในปี 2024 มาให้แล้ว จะมีรุ่นไหนบ้าง ลองตามไปดูกันเลย
Smartwatch รุ่นไหนดี ปี 2024
1. Apple Watch Series 9
Smartwatch Apple รุ่นล่าสุด ที่ใช้ชิปตัวใหม่แรงกว่าเดิมอย่าง S9 พร้อมทั้งเพิ่มการรองรับคำสั่งด้วยการแตะ 2 ครั้ง มีหน้าจอที่สว่างกว่ารุ่นก่อน ๆ อีกทั้งยังมีฟีเจอร์ด้านสุขภาพ การปั่นจักรยานและการเดินเขา สามารถค้นหาตำแหน่งพิกัดของ iPhone และอื่น ๆ อีกมากมาย โดยใช้ระบบปฏิบัติการ watchOS 10 นอกจากนี้ยังเป็น Apple Watch รุ่นแรกที่สามารถจับคู่สายและตัวเรือนแบบต่าง ๆ ที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอนได้อีกด้วย
-
รุ่นอะลูมิเนียม ราคาเริ่มต้น 15,900 บาท
-
รุ่นสเตนเลสสตีล ราคาเริ่มต้น 27,900 บาท
2. Samsung Galaxy Watch6
Smartwatch Samsung ที่มาพร้อมหน้าจอ Super AMOLED ขนาดใหญ่ 1.3 นิ้ว กระจกคริสตัลแซฟไฟร์ป้องกันรอยขีดข่วน สามารถปรับแต่งหน้าปัดนาฬิกาได้ด้วยสีสัน รูปภาพ หรือการแสดงข้อมูลต่าง ๆ ตัวเรือนค่อนข้างบาง สามารถเปลี่ยนสายนาฬิกาข้อมือได้ง่ายในคลิกเดียว พร้อมสายให้เลือกเปลี่ยนได้หลายสไตล์ มีฟีเจอร์ติดตามการนอนหลับ รวมทั้งฟีเจอร์ด้านสุขภาพและฟิตเนส แบตเตอรี่ใช้ได้นาน 40 ชั่วโมง
-
รุ่น Bluetooth ราคาเริ่มต้น 8,990 บาท
-
รุ่น LTE ราคาเริ่มต้น 10,990 บาท
3. Xiaomi Watch 2 Pro
Smartwatch Xiaomi หน้าปัดจอ AMOLED 1.43 นิ้ว พร้อมฟีเจอร์ Always-on-Display ใช้ชิป Snapdragon W5+ Gen 1 เร็วและประหยัดพลังงาน มีฟังก์ชันวัดอัตราการเต้นของหัวใจ, SpO₂, การนอนหลับ รวมทั้งฟีเจอร์การติดตามสุขภาพและการออกกำลังกายอื่น ๆ มี GNSS ย่านความถี่คู่ 5 ระบบ ติดตามการวิ่งได้แม่นยำ รองรับการเชื่อมต่อเครือข่าย LTE และรันระบบปฏิบัติการ Wear OS รองรับแอปฯ จาก Google
-
ราคา 8,490 บาท
4. HUAWEI WATCH GT 4
Smartwatch HUAWEI หน้าจอ AMOLED ดีไซน์เป็นเอกลักษณ์จากรูปทรงเรขาคณิต มาพร้อมโค้ชออกกำลังกายอัจฉริยะและระบบจัดการแคลอรีรูปแบบใหม่ รวมทั้งฟีเจอร์อื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นการจัดการสุขภาพอย่างการตรวจจับอัตราการเต้นของหัวใจ, SpO2, การนอนหลับ และความเครียด ด้วย TruSeen 5.5+ แบตเตอรี่ใช้ได้นาน 2 สัปดาห์ รองรับการเชื่อมต่อกับทั้ง iOS และ Android ผ่านบลูทูธ สามารถใช้รับสายโทรศัพท์ ดูประวัติการโทร. และอื่น ๆ ได้
-
ราคาเริ่มต้น 6,990 บาท
5. Garmin vívoactive 5
Smartwatch Garmin หน้าจอ AMOLED ขนาด 1.2 นิ้ว มาพร้อมฟีเจอร์ติดตามค่า Body Battery ที่ช่วยให้รู้ว่ากิจกรรมใดที่ทำให้พลังงานร่างกายลดลงหรือเพิ่มขึ้นตลอดทั้งกลางวันและกลางคืน การแสดงข้อมูลสุขภาพเชิงลึก รวมทั้งฟีเจอร์ Garmin Coach และโหมดกีฬามากกว่า 30 กิจกรรม บวกกับฟีเจอร์ติดตามการนอนหลับพร้อมให้คำแนะนำในการนอนหลับ มีโหมดการออกกำลังกายในตัวสำหรับผู้ใช้งานวีลแชร์ พร้อมระบบติดตามการผลัก แบตเตอรี่ใช้ได้นานสูงสุด 11 วัน
-
ราคา 10,990 บาท
6. Fitbit Versa 4
สมาร์ตวอตช์สายฟิตเนสดีไซน์บางเบา มีหน้าจอขนาดใหญ่ มาพร้อมฟีเจอร์ Daily Readiness ช่วยวิเคราะห์สภาพร่างกายเพื่อจัดรูปแบบการออกกำลังที่เหมาะสม มีโหมดการออกกำลังกายมากกว่า 40 โหมด พร้อม GPS รองรับการใช้งานร่วมกับแอปฯ ของ Google และอื่น ๆ สามารถตรวจจับอัตราการเต้นของหัวใจ วัดระดับออกซิเจนในเลือด และตรวจจับการนอนหลับ สามารถกันน้ำได้ลึก 50 เมตร แบตเตอรี่ใช้ได้นานกว่า 6 วัน
-
ราคา 7,390 บาท
7. Amazfit Active
Smartwatch Amazfit ที่มีหน้าจอ AMOLED ขนาด 1.75 นิ้ว ความละเอียด HD มาพร้อมฟีเจอร์ Readiness ที่ช่วยบอกได้ว่ากิจกรรมใดที่ส่งผลต่อสุขภาพจิตและสุขภาพกายบ้าง และ Zepp Coach ทำหน้าที่เป็นเทรนเนอร์ AI ส่วนตัว มีระบบนำทางที่แม่นยำด้วยดาวเทียม 5 ตัว นอกจากนี้ยังสามารถเชื่อมต่อกับมือถือผ่านบลูทูธเพื่อใช้สนทนาหรือฟังเพลงได้ แบตเตอรี่สามารถใช้ได้นาน 2 สัปดาห์ ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง
-
ราคา 3,790 บาท
8. OPPO Watch X
Smartwatch OPPO หน้าปัดกระจกคริสตัลแซฟไฟร์ แข็งแรงทนทาน ชิปเซต Snapdragon W5 Gen 1 อายุแบตเตอรี่นานถึง 12 วัน และรันระบบปฏิบัติการ Wear OS รองรับแอปฯ และบัญชี Google แสดงข้อมูลการออกกำลังกายแบบเรียลไทม์ 3 ประเภท สรุปการออกกำลังกายด้วยภาพ มี GPS ความถี่คู่ที่แม่นยำ พร้อมฟังก์ชันวิเคราะห์ท่าทางการวิ่ง มีเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ 8 ช่อง และฟีเจอร์ติดตามการนอนหลับ
-
ราคา 11,990 บาท
สมาร์ตวอตช์ เลือกซื้อยังไงดี
สำหรับใครที่กำลังตัดสินใจจะซื้อสมาร์ตวอตช์ แต่ไม่รู้ว่าจะต้องเลือกอย่างไร เรามีวิธีเลือกสมาร์ตวอตช์มาแนะนำกัน ดังนี้
1. ดีไซน์
ควรเลือกดีไซน์ที่ชอบและเหมาะกับตัวเอง โดยในปัจจุบันมีสมาร์ตวอตช์ออกมาให้เลือกหลากหลายดีไซน์ ทั้งแบบเรียบหรูดูแพง แบบคลาสสิกสามารถใส่ได้ทุกวัน และแบบสีสันสดใสถูกใจสายแฟชั่น อีกทั้งบางรุ่นยังสามารถใส่เคสกันกระแทกหรือเปลี่ยนสายได้ตามความชอบ
2. ฟังก์ชันการใช้งาน
สมาร์ตวอตช์แต่ละรุ่นมีฟังก์ชันการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับการใช้งานของแต่ละคนด้วย แต่โดยส่วนใหญ่แล้วสมาร์ตวอตช์เกือบทุกรุ่นจะมีฟังก์ชันพื้นฐานที่คล้ายกันคือ สามารถวัดอัตราการเต้นของหัวใจขณะออกกำลังกาย แคลอรีที่ถูกเผาผลาญออกไป และแสดงจำนวนก้าวเดินในแต่ละวัน
3. ราคา
ราคาของสมาร์ตวอตช์แต่ละรุ่นส่วนใหญ่จะขึ้นอยู่กับฟังก์ชันการใช้งาน ยิ่งฟังก์ชันเยอะและทันสมัยก็ยิ่งทำให้ราคาสูงตามไปด้วย รวมทั้งยี่ห้อและดีไซน์ก็มีผลต่อราคาด้วยเช่นกัน เพราะฉะนั้นจึงควรเลือกสมาร์ตวอตช์ที่เหมาะกับงบและการใช้งานของตัวเองมากที่สุด เพราะนอกจากจะได้สมาร์ตวอตช์ที่ตอบโจทย์การใช้งานแล้วยังช่วยเซฟเงินในกระเป๋าด้วย
4. คุณภาพ
สุดท้ายควรคำนึงถึงคุณภาพของสินค้า เพราะคนส่วนใหญ่จะเน้นใส่ออกกำลังกาย ซึ่งต้องเจอทั้งเหงื่อ น้ำ ฝุ่น และแรงกระแทก ดังนั้น ควรเลือกสมาร์ตวอตช์ที่ใช้วัสดุแข็งแรงทนทาน กันน้ำ-กันฝุ่นได้ดี สวมใส่สบาย พร้อมลุยไปกับคุณในทุกกิจกรรม
ทั้งนี้ เนื่องจากสมาร์ตวอตช์บางรุ่น บางยี่ห้อ อาจไม่สามารถเชื่อมต่อหรือใช้งานร่วมกับโทรศัพท์มือถือบางยี่ห้อได้ หรืออาจใช้งานได้แต่ไม่รองรับในบางฟีเจอร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่เป็นการใช้งานข้ามระบบปฏิบัติการ เช่น การนำ Apple Watch ไปใช้กับมือถือ Android หรือการใช้ iPhone กับสมาร์ตวอตช์ยี่ห้ออื่น ๆ เพราะฉะนั้นก็อย่าลืมเช็กข้อมูลกันให้ดีก่อนตัดสินใจซื้อมาใช้ด้วยนะครับ
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : apple.com, samsung.com, garmin.com, amazfit.com, huawei.com, mi.com, fitbit.com, oppo.com