10 ข้อควรพิจารณาสำหรับช่างภาพมือใหม่ที่กำลังมองหาเลนส์กล้องดี ๆ มาใช้ ว่าควรเลือกเลนส์แบบไหนถึงจะเหมาะกับการถ่ายภาพของตัวเองมากที่สุด
ต้องการเลนส์แบบใด
วิธีที่ดีที่สุดในการตอบคำถามนี้ก็คือทำรายการสิ่งที่รบกวนหรือเป็นปัญหาเมื่อถ่ายภาพ เช่นหากความเร็วชัตเตอร์ต่ำจนเป็นอุปสรรค์ในการถ่ายภาพสิ่งที่ต้องการคือ รูรับแสงที่กว้างขึ้นหรือการทำงานลดการสั่นไหวของภาพ หากไม่สามารถใส่สิ่งที่ต้องการทั้งหมดลงในภาพได้ เลนส์ทางยาวโฟกัสที่กว้างขึ้นคือสิ่งที่ต้องการ แต่หากต้องการขนาดวัตถุที่ใหญ่ขึ้นในภาพจะต้องการเลนส์เทลโฟโตที่ยาวขึ้น
หรืออีกวิธีคือพิจารณาว่าชอบถ่ายภาพอะไรที่สุด หากชอบถ่ายภาพนกก็เลือกเลนส์เทเลซูมหรือเทเลโฟโตที่มีการทำงานลดการสั่นไหวของภาพ หากชอบถ่ายภาพสถาปัตยกรรม หรือภาพสตรีท เลนส์ทิสต์แอนด์ซิฟต์หรือเลนส์มุมกว้างทางยาวโฟกัสเดี่ยวที่มีดิสทอร์ชั่นน้อยจะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ ถ้าความเร็วชัตเตอร์ต่ำจากเลนส์คิดเป็นสิ่งที่สร้างปัญหาก็ควรเลือกเลนส์ซูมที่ไวแสงขึ้น
เลนส์เดี่ยวหรือเลนส์ซูม
เลนส์ทางยาวโฟกัสเดี่ยวจะมีดิสทอร์ชั่นน้อยกว่าเลนส์ซูมที่ช่วงทางยาวโฟกัสเท่ากัน นอกจากนี้ความคมชัดของเลนส์ซูมจะเปลี่ยนไปตามทางยาวโฟกัสแต่ละช่วง ดังนั้นขึ้นอยู่กับช่วงทางยาวโฟกัสที่มักใช้มากที่สุด เพราะคุณจะได้รับคุณภาพของภาพจากเลนส์เทเลโฟโตทางยาวโฟกัสเดี่ยวที่ดีกว่าเลนส์ซูม ลองตรวจสอบ EXF data หากพบว่ามักถ่ายภาพที่ช่วงทางยาวโฟกัสมากที่สุด เลนส์ทางยาวโฟกัสเดี่ยวที่ช่วงนั้นอาจเป็นคำตอบที่ดี หากคิดว่าเลนส์ซูมมีประโยชน์กว่าเนื่องจากสามารถภาพถ่ายจากช่วงทางยาวโฟกัสที่หลากหลายได้ ควรจำไว้ว่าเลนส์ซูมไม่ใช่เครื่องมือในการจัดองค์ประกอบภาพ ควรมั่นใจว่าเมื่อถ่ายภาพการใช้ทางยาวโฟกัสใดของเลนส์ซูมก็เพราะลักษณะของฉากหลังและมุมรับภาพของเลนส์เป็นสิ่งที่จะช่วยถ่ายทอดเรื่องราวในภาพ โดยหากสิ่งนี้เป็นวิธีถ่ายภาพที่ทำอยู่ การอัพเกรดเป็นเลนส์ซูมที่ดีขึ้นจะเป็นวิธีที่ดี
รูรับแสงเดี่ยวหรือไม่
รูรับแสงกว้างสุดคงที่จะเป็นประโยชน์เมื่อถ่ายภาพที่ช่วงทางยาวโฟกัสยาวสุดของเลนส์ซูม อย่างไรก็ตามประโยชน์นี้มาพร้อมกับราคาที่สูงขึ้น เลนส์ที่มีรูรับแสงกว้างสุดคงที่ F4 จะมีราคาที่ต่ำกว่าเลนส์รูรับแสงคงที่ F2.8 และก็มีให้เลือกมากขึ้น เนื่องทั้ง Canon และ Nikon ต่างก็ทำเลนส์ลักษณะนี้ออกมาเพื่อเป็นทางเลือกที่ถูกลงสำหรับกล้องฟูลเฟรม หากไม่ค่อยพอใจกับรูรับแสง F3.5-5.6 ของเลนส์ซูมที่ติดมากับกล้อง แต่ขณะเดียวกันก็มีงบจำกัด ลองมองหาเลนส์ F2.8-4 จากผู้ผลิตเลนส์อิสระหรือเลนส์รูรับแสง F4 คงที่ดู
เลนส์คิตไม่เพียงพอต่อความต้องการ
เมื่อใช้เซ็นเซอร์ขนาด APS-C เลนส์ 18 มม. จะให้พื้นที่ของภาพเท่ากับเลนส์ 28 มม. ของกล้องฟูลเฟรม เลนส์ 55 มม. จะเทียบเท่ากับประมาณ 85 มม. โดยเลนส์ตัวที่ 2 สำหรับนักถ่ายภาพในปัจจุบันมักจะเป็นช่วง 55-200 มม. เพื่อขยายทางยาวโฟกัสของเลนส์ให้ครอบคลุมมากขึ้น หรือเลนส์ 50 มม. ไวแสงที่เหมาะสำหรับถ่ายภาพพอร์เทรตบนกล้อง DSLR ที่ใช้เซ็นเซอร์ APS-C อย่างไรก็ตามเลนส์ซูมมุมกว้างหรือเลนส์พิเศษอย่างเลนส์มาโครหรือเลนส์เบบี้ก็ยังเป็นอีกทางเลือกที่ดีในการถ่ายทอดภาพที่ต้องการ
ควรซื้อเลนส์จากผู้ผลิตอิสระหรือไม่
เลนส์จากผู้ผลิตอิสระคือเลนส์ที่ผลิตโดยผู้ผลิตรายอื่นที่ไม่ใช่บริษัทเดียวกับที่ผลิตกล้อง ซึ่งนักถ่ายภาพอาจพบผู้ผลิตเลนส์ราคาถูกที่ควรหลีกเลี่ยง แต่ผู้ผลิตเลนส์อิสระอย่าง Sigma, Tamron, Tokina และ Zeiss ผลิตเลนส์ได้อย่างยอดเยี่ยมและเป็นทางเลือกที่รับประกันได้ในคุณภาพ เลนส์ 50 มม. F1.4 ของ Sigma เป็นหนึ่งในเลนส์มาตรฐานที่มีความคมที่สุด และเลนส์ 18-35 มม. F1.8 ก็เป็นเลนส์ที่มีความไวแสงที่สุดในช่วงซูมพอ ๆ กัน ขณะที่ Tamron เป็นรายเดียวที่ใส่การทำงานลดการสั่นไหวของภาพไว้ในเลนส์ 24-70 มม. F2.8 ให้เลือกใช้ในปัจจุบัน นอกจากนี้ยังมีเลนส์ซูมที่มีช่วงซูมกว้างมากเป็นทางเลือกอีกด้วย ขณะที่ Tokina แม้จะมีเลนส์ไม่มากใน แต่เลนส์ 12-28 มม. F4 เป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยมในในการขยายมุมรับภาพให้กว้างขึ้นกับกล้อง APS-C ส่วน Zeiss 85 มม. F1.4 เป็นเลนส์ที่มีคุณภาพยอดเยี่ยม ดังนั้นนักถ่ายภาพจึงมีทางเลือกมากมาย เพื่อเลือกให้ตรงกับที่ต้องการนอกเหนือไปจากเลนส์จากผู้ผลิตรายเดียวกับกล้องที่ใช้อยู่
ต้องการการทำงานลดการสั่นไหวของภาพหรือไม่
โดยทางเทคนิคแล้วไม่มีใครต้องใช้การทำงานลดการสั่นไหวของภาพหากใช้ขาตั้งกล้อง แต่ด้วยการทำงานนี้จะช่วยให้สามารถใช้มือถือกล้องถ่ายภาพ ด้วยความเร็วชัตเตอร์ต่ำกว่าปกติได้สูงสุดถึง 4 สตอปในเลนส์รุ่นใหม่ ๆ ซึ่งหมายความว่าหากต้องถ่ายภาพที่ความเร็วชัตเตอร์ 1/400 วินาทีเพื่อให้ภาพมีความคมชัด นักถ่ายภาพจะสามารถถ่ายภาพที่ 1/25 วินาทีแทนได้ ซึ่งนี่คือกรณีที่ใช้ประโยชน์จากการทำงานนี้สูงสุด แต่จริง ๆ แล้วการช่วยให้ใช้ความเร็วชัตเตอร์ต่ำกว่าปกติ 1 สตอปก็เป็นสิ่งที่มีประโยชน์แล้ว นอกจากนี้จะสามารถเห็นการลดการสั่นไหวของภาพได้ขณะกำลังดูภาพในช่องมองซึ่งจะทำให้ภาพในช่องมองดูนิ่งขึ้น
ควรซื้อเลนส์รุ่นเก่าหรือเลนส์มือสองหรือไม่
แม้ว่าเลนส์รุ่นเก่าที่นำมาใช้ร่วมกับกล้องผ่านอแดปเตอร์จะให้ภาพที่มีลักษณะเฉพาะตามที่ต้องการได้ แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องยอมรับด้วยก็คือ ความคมชัดที่ลดลง จากการนำเลนส์ระบบหนึ่งมาใช้กับอีกระบบหนึ่ง เลนส์มือสองอาจมีข้อบกพร่องหรือความเสียหายได้ แต่หากเลนส์นั้นถูกดูแลอย่างดีและตรวจสอบการใช้งานก่อนซื้ออย่างดีแล้ว ก็จะเป็นทางเลือกที่น่าพอใจ อย่างไรก็ตามสิ่งที่ควรคำนึงถึงก็คือเลนส์รุ่นใหม่ ๆ จะมีโค้ดเลนส์ที่ลดอาการแฟลร์ได้ดีกว่ารวมไปถึงการควบคุมความคลาดสีและดิสทอร์ชั่นด้วย
สามารถทดสอบเลนส์ก่อนซื้อได้หรือไม่
ตามปกติร้านจำหน่ายเลนส์จะยอมให้ผู้ใช้นำกล้องไปเพื่อติดเลนส์และลองถ่ายภาพดูได้ แต่หากต้องการที่จะลองใช้เลนส์รุ่นนั้นก่อนอย่างจริงจังเพื่อที่จะดูสิ่งที่ได้จากเลนส์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเลนส์ที่มีราคาแพง อาจลองใช้วิธีเช่าเลนส์จากร้านที่มีให้เช่ามาลองใช้
เลนส์ขนาดใหญ่เกินไปหรือไม่
ต่อคำตอบนี้นักถ่ายภาพต้องถามตัวเองว่าจะสามารถแบกเลนส์ที่มีขนาดใหญ่หรือมีน้ำหนักมากไปกับตัวเอง เมื่อออกไปถ่ายภาพได้หรือไม่ พร้อมที่จะเปลี่ยนกระเป๋ากล้องให้ใหญ่ขึ้นหรือไม่หากจำเป็น มีสิ่งที่รองรับอย่างขาตั้งกล้องที่สามารถรับน้ำหนักได้หรือไม่ หากมีคำตอบว่าไม่ในคำถามใดคำถามหนึ่ง ก็อาจจะต้องเลือกเลนส์ที่มีขนาดเล็กลงมา
อุปกรณ์เสริมใดที่จำเป็น
ฟิลเตอร์โปรเท็กทีฟหรือฟิลเตอร์ UV เป็นสิ่งหนึ่งที่สามารถป้องกันเลนส์จากสิ่งที่มีความแข็งหรือคนไม่ให้กระทบหน้าเลนส์ได้ ดังนั้นจึงเป็นสิ่งที่ควรมี นอกจากนี้ก็อาจจะต้องมีผ้าสำหรับเช็ดเลนส์รวมไปถึงอุปกรณ์ทำความสะอาดต่าง ๆ เช่น Lens Pen ส่วน Blower หรือที่เป่าลมจะมีประโยชน์ในสถานการณ์ที่ฝุ่นมาก นอกจากสิ่งเหล่านี้แล้วกระเป๋าใส่ที่ดีก็เป็นสิ่งจำเป็น นอกจากนี้อุปกรณ์เสริมอื่น ๆ ที่ควรจะมีใช้ร่วมกับเลนส์ก็คือ Extention Tube ที่ช่วยให้โฟกัสได้ใกล้ขึ้นโดยไม่ต้องใช้เลนส์มาโครและฟิสเตอร์เซอรคิวล่าร์โพลาไรซ์ที่ช่วยลดแสงสะท้อน แต่อย่างไรก็ตามสองสิ่งหลังนี้อาจจะซื้อเพิ่มในภายหลังก็ได้
ที่มา หนังสือFOTOINFO ISSUE 117 ธันวาคม 2557
ต้องการเลนส์แบบใดวิธีที่ดีที่สุดในการตอบคำถามนี้ก็คือทำรายการสิ่งที่รบกวนหรือเป็นปัญหาเมื่อถ่ายภาพ เช่นหากความเร็วชัตเตอร์ต่ำจนเป็นอุปสรรค์ในการถ่ายภาพสิ่งที่ต้องการคือ รูรับแสงที่กว้างขึ้นหรือการทำงานลดการสั่นไหวของภาพ หากไม่สามารถใส่สิ่งที่ต้องการทั้งหมดลงในภาพได้ เลนส์ทางยาวโฟกัสที่กว้างขึ้นคือสิ่งที่ต้องการ แต่หากต้องการขนาดวัตถุที่ใหญ่ขึ้นในภาพจะต้องการเลนส์เทลโฟโตที่ยาวขึ้น
หรืออีกวิธีคือพิจารณาว่าชอบถ่ายภาพอะไรที่สุด หากชอบถ่ายภาพนกก็เลือกเลนส์เทเลซูมหรือเทเลโฟโตที่มีการทำงานลดการสั่นไหวของภาพ หากชอบถ่ายภาพสถาปัตยกรรม หรือภาพสตรีท เลนส์ทิสต์แอนด์ซิฟต์หรือเลนส์มุมกว้างทางยาวโฟกัสเดี่ยวที่มีดิสทอร์ชั่นน้อยจะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ ถ้าความเร็วชัตเตอร์ต่ำจากเลนส์คิดเป็นสิ่งที่สร้างปัญหาก็ควรเลือกเลนส์ซูมที่ไวแสงขึ้น
เลนส์เดี่ยวหรือเลนส์ซูม เลนส์ทางยาวโฟกัสเดี่ยวจะมีดิสทอร์ชั่นน้อยกว่าเลนส์ซูมที่ช่วงทางยาวโฟกัสเท่ากัน นอกจากนี้ความคมชัดของเลนส์ซูมจะเปลี่ยนไปตามทางยาวโฟกัสแต่ละช่วง ดังนั้นขึ้นอยู่กับช่วงทางยาวโฟกัสที่มักใช้มากที่สุด เพราะคุณจะได้รับคุณภาพของภาพจากเลนส์เทเลโฟโตทางยาวโฟกัสเดี่ยวที่ดีกว่าเลนส์ซูม ลองตรวจสอบ EXF data หากพบว่ามักถ่ายภาพที่ช่วงทางยาวโฟกัสมากที่สุด เลนส์ทางยาวโฟกัสเดี่ยวที่ช่วงนั้นอาจเป็นคำตอบที่ดี หากคิดว่าเลนส์ซูมมีประโยชน์กว่าเนื่องจากสามารถภาพถ่ายจากช่วงทางยาวโฟกัสที่หลากหลายได้ ควรจำไว้ว่าเลนส์ซูมไม่ใช่เครื่องมือในการจัดองค์ประกอบภาพ ควรมั่นใจว่าเมื่อถ่ายภาพการใช้ทางยาวโฟกัสใดของเลนส์ซูมก็เพราะลักษณะของฉากหลังและมุมรับภาพของเลนส์เป็นสิ่งที่จะช่วยถ่ายทอดเรื่องราวในภาพ โดยหากสิ่งนี้เป็นวิธีถ่ายภาพที่ทำอยู่ การอัพเกรดเป็นเลนส์ซูมที่ดีขึ้นจะเป็นวิธีที่ดี
รูรับแสงเดี่ยวหรือไม่รูรับแสงกว้างสุดคงที่จะเป็นประโยชน์เมื่อถ่ายภาพที่ช่วงทางยาวโฟกัสยาวสุดของเลนส์ซูม อย่างไรก็ตามประโยชน์นี้มาพร้อมกับราคาที่สูงขึ้น เลนส์ที่มีรูรับแสงกว้างสุดคงที่ F4 จะมีราคาที่ต่ำกว่าเลนส์รูรับแสงคงที่ F2.8 และก็มีให้เลือกมากขึ้น เนื่องทั้ง Canon และ Nikon ต่างก็ทำเลนส์ลักษณะนี้ออกมาเพื่อเป็นทางเลือกที่ถูกลงสำหรับกล้องฟูลเฟรม หากไม่ค่อยพอใจกับรูรับแสง F3.5-5.6 ของเลนส์ซูมที่ติดมากับกล้อง แต่ขณะเดียวกันก็มีงบจำกัด ลองมองหาเลนส์ F2.8-4 จากผู้ผลิตเลนส์อิสระหรือเลนส์รูรับแสง F4 คงที่ดู
เลนส์คิตไม่เพียงพอต่อความต้องการเมื่อใช้เซ็นเซอร์ขนาด APS-C เลนส์ 18 มม. จะให้พื้นที่ของภาพเท่ากับเลนส์ 28 มม. ของกล้องฟูลเฟรม เลนส์ 55 มม. จะเทียบเท่ากับประมาณ 85 มม. โดยเลนส์ตัวที่ 2 สำหรับนักถ่ายภาพในปัจจุบันมักจะเป็นช่วง 55-200 มม. เพื่อขยายทางยาวโฟกัสของเลนส์ให้ครอบคลุมมากขึ้น หรือเลนส์ 50 มม. ไวแสงที่เหมาะสำหรับถ่ายภาพพอร์เทรตบนกล้อง DSLR ที่ใช้เซ็นเซอร์ APS-C อย่างไรก็ตามเลนส์ซูมมุมกว้างหรือเลนส์พิเศษอย่างเลนส์มาโครหรือเลนส์เบบี้ก็ยังเป็นอีกทางเลือกที่ดีในการถ่ายทอดภาพที่ต้องการ
ควรซื้อเลนส์จากผู้ผลิตอิสระหรือไม่เลนส์จากผู้ผลิตอิสระคือเลนส์ที่ผลิตโดยผู้ผลิตรายอื่นที่ไม่ใช่บริษัทเดียวกับที่ผลิตกล้อง ซึ่งนักถ่ายภาพอาจพบผู้ผลิตเลนส์ราคาถูกที่ควรหลีกเลี่ยง แต่ผู้ผลิตเลนส์อิสระอย่าง Sigma, Tamron, Tokina และ Zeiss ผลิตเลนส์ได้อย่างยอดเยี่ยมและเป็นทางเลือกที่รับประกันได้ในคุณภาพ เลนส์ 50 มม. F1.4 ของ Sigma เป็นหนึ่งในเลนส์มาตรฐานที่มีความคมที่สุด และเลนส์ 18-35 มม. F1.8 ก็เป็นเลนส์ที่มีความไวแสงที่สุดในช่วงซูมพอ ๆ กัน ขณะที่ Tamron เป็นรายเดียวที่ใส่การทำงานลดการสั่นไหวของภาพไว้ในเลนส์ 24-70 มม. F2.8 ให้เลือกใช้ในปัจจุบัน นอกจากนี้ยังมีเลนส์ซูมที่มีช่วงซูมกว้างมากเป็นทางเลือกอีกด้วย ขณะที่ Tokina แม้จะมีเลนส์ไม่มากใน แต่เลนส์ 12-28 มม. F4 เป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยมในในการขยายมุมรับภาพให้กว้างขึ้นกับกล้อง APS-C ส่วน Zeiss 85 มม. F1.4 เป็นเลนส์ที่มีคุณภาพยอดเยี่ยม ดังนั้นนักถ่ายภาพจึงมีทางเลือกมากมาย เพื่อเลือกให้ตรงกับที่ต้องการนอกเหนือไปจากเลนส์จากผู้ผลิตรายเดียวกับกล้องที่ใช้อยู่
ต้องการการทำงานลดการสั่นไหวของภาพหรือไม่โดยทางเทคนิคแล้วไม่มีใครต้องใช้การทำงานลดการสั่นไหวของภาพหากใช้ขาตั้งกล้อง แต่ด้วยการทำงานนี้จะช่วยให้สามารถใช้มือถือกล้องถ่ายภาพ ด้วยความเร็วชัตเตอร์ต่ำกว่าปกติได้สูงสุดถึง 4 สตอปในเลนส์รุ่นใหม่ ๆ ซึ่งหมายความว่าหากต้องถ่ายภาพที่ความเร็วชัตเตอร์ 1/400 วินาทีเพื่อให้ภาพมีความคมชัด นักถ่ายภาพจะสามารถถ่ายภาพที่ 1/25 วินาทีแทนได้ ซึ่งนี่คือกรณีที่ใช้ประโยชน์จากการทำงานนี้สูงสุด แต่จริง ๆ แล้วการช่วยให้ใช้ความเร็วชัตเตอร์ต่ำกว่าปกติ 1 สตอปก็เป็นสิ่งที่มีประโยชน์แล้ว นอกจากนี้จะสามารถเห็นการลดการสั่นไหวของภาพได้ขณะกำลังดูภาพในช่องมองซึ่งจะทำให้ภาพในช่องมองดูนิ่งขึ้น
ควรซื้อเลนส์รุ่นเก่าหรือเลนส์มือสองหรือไม่แม้ว่าเลนส์รุ่นเก่าที่นำมาใช้ร่วมกับกล้องผ่านอแดปเตอร์จะให้ภาพที่มีลักษณะเฉพาะตามที่ต้องการได้ แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องยอมรับด้วยก็คือ ความคมชัดที่ลดลง จากการนำเลนส์ระบบหนึ่งมาใช้กับอีกระบบหนึ่ง เลนส์มือสองอาจมีข้อบกพร่องหรือความเสียหายได้ แต่หากเลนส์นั้นถูกดูแลอย่างดีและตรวจสอบการใช้งานก่อนซื้ออย่างดีแล้ว ก็จะเป็นทางเลือกที่น่าพอใจ อย่างไรก็ตามสิ่งที่ควรคำนึงถึงก็คือเลนส์รุ่นใหม่ ๆ จะมีโค้ดเลนส์ที่ลดอาการแฟลร์ได้ดีกว่ารวมไปถึงการควบคุมความคลาดสีและดิสทอร์ชั่นด้วย
สามารถทดสอบเลนส์ก่อนซื้อได้หรือไม่ตามปกติร้านจำหน่ายเลนส์จะยอมให้ผู้ใช้นำกล้องไปเพื่อติดเลนส์และลองถ่ายภาพดูได้ แต่หากต้องการที่จะลองใช้เลนส์รุ่นนั้นก่อนอย่างจริงจังเพื่อที่จะดูสิ่งที่ได้จากเลนส์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเลนส์ที่มีราคาแพง อาจลองใช้วิธีเช่าเลนส์จากร้านที่มีให้เช่ามาลองใช้
เลนส์ขนาดใหญ่เกินไปหรือไม่ต่อคำตอบนี้นักถ่ายภาพต้องถามตัวเองว่าจะสามารถแบกเลนส์ที่มีขนาดใหญ่หรือมีน้ำหนักมากไปกับตัวเอง เมื่อออกไปถ่ายภาพได้หรือไม่ พร้อมที่จะเปลี่ยนกระเป๋ากล้องให้ใหญ่ขึ้นหรือไม่หากจำเป็น มีสิ่งที่รองรับอย่างขาตั้งกล้องที่สามารถรับน้ำหนักได้หรือไม่ หากมีคำตอบว่าไม่ในคำถามใดคำถามหนึ่ง ก็อาจจะต้องเลือกเลนส์ที่มีขนาดเล็กลงมา
อุปกรณ์เสริมใดที่จำเป็นฟิลเตอร์โปรเท็กทีฟหรือฟิลเตอร์ UV เป็นสิ่งหนึ่งที่สามารถป้องกันเลนส์จากสิ่งที่มีความแข็งหรือคนไม่ให้กระทบหน้าเลนส์ได้ ดังนั้นจึงเป็นสิ่งที่ควรมี นอกจากนี้ก็อาจจะต้องมีผ้าสำหรับเช็ดเลนส์รวมไปถึงอุปกรณ์ทำความสะอาดต่าง ๆ เช่น Lens Pen ส่วน Blower หรือที่เป่าลมจะมีประโยชน์ในสถานการณ์ที่ฝุ่นมาก นอกจากสิ่งเหล่านี้แล้วกระเป๋าใส่ที่ดีก็เป็นสิ่งจำเป็น นอกจากนี้อุปกรณ์เสริมอื่น ๆ ที่ควรจะมีใช้ร่วมกับเลนส์ก็คือ Extention Tube ที่ช่วยให้โฟกัสได้ใกล้ขึ้นโดยไม่ต้องใช้เลนส์มาโครและฟิสเตอร์เซอรคิวล่าร์โพลาไรซ์ที่ช่วยลดแสงสะท้อน แต่อย่างไรก็ตามสองสิ่งหลังนี้อาจจะซื้อเพิ่มในภายหลังก็ได้
ที่มา หนังสือFOTOINFO ISSUE 117 ธันวาคม 2557
