ข้อเสียที่ผู้ชายติดมือถือควรรู้
ข้อเสียของการติดมือถือที่อาจทำลายชีวิตคุณได้ และเหตุผลที่ไม่ควรเป็นหนึ่งในคนที่อยู่ในสังคมก้มหน้า
เดี๋ยวนี้ไม่ว่าจะมองไปทางไหนเราก็มักจะเห็นคนก้มหน้าก้มตาเล่นโทรศัพท์มือถือกันทั้งนั้น จากที่เคยนั่งนิ่ง ๆ อยู่เฉย ๆ ได้ แต่เดี๋ยวนี้ว่างเมื่อไรเป็นต้องหยิบมือถือขึ้นมาทันที ไม่เว้นแม้กระทั่งตอนขับรถ ซึ่งบางครั้งหลายคนก็ให้ความสำคัญมากเกินไปจนทำให้เกิดผลเสียตามมาหลายอย่าง และเปลี่ยนชีวิตคุณให้แย่ลงกว่าเดิมโดยไม่รู้ตัว วันนี้เราจะมาบอกให้ทราบว่าข้อเสียของการติดมือถือมากเกินไปมีอะไรบ้าง
ทำลายความสัมพันธ์
นี่คือหนึ่งในหลาย ๆ เหตุผลที่ทำให้สาวคนรักเอือมระอากับคุณได้ เพราะเมื่อไรที่อยู่ด้วยกันคุณก็มักเอาแต่ก้มหน้าก้มตาเล่นเฟซบุ๊ก อินสตาแกรม ทวิตเตอร์ หรือเล่นเกมโดยไม่สนใจเธอเลยสักนิด จนทำให้ฝ่ายหญิงรู้สึกว่าตัวเองไม่มีตัวตน ไม่มีความสำคัญเท่ากับเพื่อนในโลกโซเชี่ยลของคุณ หากไม่รีบวางโทรศัพท์แล้วเงยหน้ามาสนใจคนที่อยู่ตรงหน้า ระวังเงยหน้าขึ้นมาแล้วไม่เจอเธออีกตลอดไปนะครับ
เป็นอุปสรรคต่อการออกกำลัง
ถึงคุณจะอ้างว่าใช้แอพพลิเคชั่นบนมือถือเพื่อเช็กสถิติการออกกำลังของตัวเอง เอาไว้ดูคลิปท่าออกกำลัง หรือดูหนังเพื่อความเพลิดเพลินก็ตาม แต่เชื่อเถอะว่ามันคือตัวขัดขวางการออกกำลังเลยล่ะ ลองนึกดูดี ๆ สิครับว่าขณะที่เล่นมือถือ คุณต้องเพ่งสายตา สมองต้องคิดต้องจดจ่ออยู่กับหน้าจอ มันทำให้เสียสมาธิขนาดไหน แทนที่จะโฟกัสไปกับการออกกำลังให้เต็มที่ แนะนำว่าให้ออกไปวิ่งออกกำลังกลางแจ้งหรือไม่ก็ว่ายน้ำซะเลย จะได้ไม่ต้องสนใจมือถืออีก
อาการของหนุ่ม ๆ ที่ติดมือถือ ทำให้คนเหล่านี้มักมีอาการมโนไปเองอยู่บ่อยครั้งว่าได้ยินเสียงโทรศัพท์มือถือดังหรือสั่นเตือน ทั้งที่จริง ๆ แล้วไม่มีคนโทรเข้าหรือมีข้อความเข้ามาเลยสักนิด แต่ก็ยังจะหยิบมือถือขึ้นมาดูบ่อย ๆ
พึ่งพาเทคโนโลยีมากไป
ความล้ำสมัยเทคโนโลยีมันก็ดีอยู่หรอกในเรื่องของความสะดวกสบายและความรวดเร็วในการติดต่อสื่อสาร ทว่าเทคโนโลยีก็เปรียบเสมือนดาบสองคมที่ทำให้คนเคยตัว ไม่ค้นคว้าหาข้อมูลหรือทำอะไรด้วยตัวเอง เอะอะก็จิ้ม ๆ ค้นจากมือถือเลย ใช้จดบันทึกช่วยจำ จนทำให้สมองไม่ได้ทำงาน เอาง่าย ๆ ครับว่าเดี๋ยวนี้คุณจำเบอร์โทรศัพท์กันได้มากน้อยแค่ไหน
แม้กระทั่งเด็กเล็ก ๆ ที่ดูท่าทางไม่ประสีประสา แต่พอจับสมาร์ทโฟนปุ๊บกลับใช้งานได้อย่างคล่องแคล่ว เผลอ ๆ เก่งกว่าผู้ใหญ่อย่างเราซะอีก ทว่าจะดีกว่าไหม ถ้าให้พวกเขาทำกิจกรรมที่มีประโยชน์อื่น ๆ หรือออกไปวิ่งเล่นกับเพื่อน ๆ นอกบ้าน แล้วควบคุมการใช้เวลากับสมาร์ทโฟนให้เหมาะสม
เล่นมือถือไปทำอย่างอื่นไปด้วย
หากจะมองว่าเป็นเรื่องปกติที่ใคร ๆ ก็ทำกันมันก็ไม่ผิดหรอกครับ ทว่าบางครั้งการเล่นมือถือไปด้วยทำอย่างอื่นไปด้วย เช่น เดินข้ามถนน ขับรถ เดินซื้อของ กลับเป็นปัญหาต่อส่วนรวมเช่นกันนะ ยกตัวอย่างเรื่องข้ามถนนหรือขับรถ มันจะทำให้คุณเสียสมาธิจนทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ หรือกรณีเดินซื้อของในห้าง ขณะที่คุณก้ม ๆ เงย ๆ เล่นมือถือไปเลือกของไป ก็อาจเกะกะคนอื่นเอาได้ แทนที่จะซื้อของให้เสร็จ ๆ
มันเกี่ยวข้องยังไงกับอาการติดมือถือน่ะเหรอครับ ? งั้นลองสังเกตคนที่ชอบเล่นโทรศัพท์บ่อย ๆ ดูสิ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ทำอะไร ว่างเมื่อไรเป็นต้องหยิบขึ้นมาเล่น จนบางครั้งหาโทรศัพท์ไม่เจอ จำไม่ได้วางทิ้งไว้ตรงไหนหรือเปล่า เพราะดันหยิบมาเล่นเกือบทุกที่ไป สุดท้ายก็วิตกจริต คิดว่าทำหาย แต่จริง ๆ แล้วก็อาจอยู่แถว ๆ นั้นนั่นแหละ
ติดเซลฟี่งอมแงม
ถ้าไม่ติดคุยโทรศัพท์ ติดแชท ก็ต้องบ้าถ่ายเซลฟี่แน่นอน ไม่ว่าจะไปที่ไหน ทำอะไรก็ต้องคว้ามือถือขึ้นมาเก็กหน้าถ่ายรูปเสมอ ซึ่งบางครั้งคุณอาจไม่รู้ตัวว่าคนอื่น ๆ เขามองอยู่พลางนึกในใจแบบขำ ๆ ว่า "เป็นไรมากป่ะ ?" ถึงความจริงมันจะเป็นสิทธิ์ของคุณ แต่เราว่าเพลา ๆ ลงบ้างก็ดีนะ
หนุ่ม ๆ บางคนเวลามีอะไรเกิดขึ้นชีวิต มักจะโพสต์ข้อความ ลงรูป หรือเช็กอินเพื่อป่าวประกาศให้คนได้รับรู้ ซึ่งจริง ๆ พฤติกรรมแบบนี้ก็อาจส่งผลเสียต่อตัวคุณเองได้ เช่น โพสต์ข้อความว่าเหงา อยู่บ้านคนเดียว แถมเช็กอินโลเคชั่นให้เสร็จสรรพ ระวังจะเป็นการชี้ช่องให้โจรมาปล้นโดยไม่รู้ตัวนะเออ
ขัดจังหวะกิจกรรมบนเตียง
ในขณะที่แฟนสาวของคุณอาบน้ำ ฉีดน้ำหอม เลือกใส่ชั้นในตัวโปรดที่คุณชอบมาเตรียมออดอ้อนคุณอย่างเต็มที่ แต่พอกำลังเข้าฉากเลิฟซีนโทรศัพท์ของคุณก็มีสายหรือแชทจากเพื่อนมา แล้วคุณก็ดันรับและตั้งใจจะคุยแบบจริงจังซะด้วย บอกเลยว่าพฤติกรรมแบบนี้ทำให้คุณไม่ได้แอ้มเธอแล้วล่ะ
ทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมานี้ คือสิ่งที่อยากเตือนให้คุณผู้ชายที่ติดมือถือซะเหลือเกินได้รับรู้และตระหนักถึงข้อเสียของมัน ซึ่งงานนี้ก็ไม่ได้จะบอกว่าห้ามใช้ไปเลย เพราะคงเป็นไปไม่ได้ แต่เราอยากให้คุณควบคุมการใช้งานและช่วงเวลาให้เหมาะสมก็เท่านั้นเองครับ ;)