ขอขอบคุณภาพประกอบจาก bellhelmets
อุปกรณ์สำคัญสำหรับการปั่นจักรยาน นอกจากการเลือกจักรยานคู่ใจแล้ว อุปกรณ์อีกชิ้นหนึ่งที่จำเป็นก็คือ หมวกกันน็อก นั่นเอง โดยจากผลการสำรวจของหน่วยงานประกันภัยของกรมทางหลวงสหรัฐฯ รายงานว่า หมวกจักรยานมีส่วนลดอาการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุจนถึงขั้นเสียชีวิตได้มากถึง 85 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว รู้แบบนี้ นักปั่นทั้งหลายก็คงต้องหาหมวกมาใช้งานกันแล้ว แต่ถ้ายังไม่รู้จะเริ่มอย่างไร กระปุกดอทคอมก็นำเคล็ดลับในการเลือกหมวกจักรยานมาฝากกันแล้วครับ
เลือกประเภทของหมวกตามการใช้งาน
หมวกจักรยานเองได้รับการออกแบบมาให้ใช้ตามประเภทการใช้งานด้วย ซึ่งหลัก ๆ จะแบ่งออกเป็น 3 แบบ ดังนี้
ขนาดนั้นสำคัญมาก
หลังจากเลือกประเภทได้ตามรูปแบบการใช้งานแล้ว ประเด็นต่อมาที่ควรดูก็คือเรื่องขนาดของหมวกที่ควรเลือกให้เหมาะ ควรวัดขนาดศีรษะด้วยสายวัดในตำแหน่งหน้าผากเหนือคิ้วขึ้นไปประมาณ 2 เซนติเมตร เมื่อได้ตัวเลขแล้วก็สามารถเลือกไซส์ซึ่งผู้ผลิตส่วนใหญ่มักจะยึดค่ามาตรฐานตามนี้เลยครับ
XS: เล็กกว่า 51 เซนติเมตร
S: 51-55 เซนติเมตร
M: 55-59 เซนติเมตร
L: 59-63 เซนติเมตร
XL: มากกว่า 63 เซนติเมตร
Free Size ผู้ชาย: 54-61 เซนติเมตร
Free Size ผู้หญิง: 50-57 เซนติเมตร
ทั้งนี้ แม้ว่าจะเลือกไซส์จากตัวเลขที่เหมาะสมแล้ว คุณก็ควรลองสวมดูจริง ๆ พร้อมกับใช้นิ้วคลำสำรวจรอบ ๆ หมวก ซึ่งถ้าหมวกพอดี มันก็แนบชิดติดหัวตลอดทั้งใบและไม่ขยับไปไม่แม้จะโยกศีรษะ
สิ่งที่ต้องคำนึงในการเลือกหมวก
หมวกจักรยานไม่ได้มีหน้าที่เพียงแค่ปกป้องศีรษะของเราจากการกระแทกเท่านั้น แต่ยังทำหน้าที่ช่วยเพิ่มความสามารถในการขี่จักรยานของเราด้วย ซึ่งคุณสมบัติของหมวกที่นักปั่นจำเป็นต้องรู้เพื่อให้เลือกหมวกได้อย่างเหมาะกับที่ต้องการทั้งคุณภาพและราคาก็มีดังนี้
น้ำหนัก ถือว่ามีส่วนอย่างยิ่งในการเสริมความสามารถในการขี่ ควรเลือกหมวกที่มีน้ำหนักเบาสักหน่อยซึ่งจะสวมใส่ได้สบายกว่า แต่ทั้งนี้ ราคาของหมวกก็จะเพิ่มขึ้นตามน้ำหนักที่ลดลงด้วย
ช่องระบายอากาศ มีหน้าที่ช่วยให้ลมผ่านภายในหมวกและช่วยเรื่องอากาศพลศาสตร์ ทำให้ศีรษะไม่อับชื้นและทำความเร็วได้ดีขึ้น ควรเลือกหมวกที่มีช่องระบายอากาศเห็นเด่นชัด ไม่มีชิ้นส่วนบังช่องลม จะช่วยให้การใช้งานสะดวกมากขึ้น การออกแบบส่วนนี้ก็มีส่วนทำให้หมวกราคาสูงขึ้นเช่นกัน
แว่นกันลม หมวกบางรุ่นมีแว่นกันลมติดมาให้ด้วย ยิ่งคุณสมบัติของแว่นยอดเยี่ยมเท่าไร ราคาของหมวกก็จะยิ่งสูงขึ้นเท่านั้น แต่ถ้าหากคุณไม่ใช่นักปั่นความเร็วสูง การสวมแว่นกันแดดธรรมดาก็เพียงพอแล้ว
สายล็อก หมวกแทบทุกรุ่นจะมีสายคล้องเพื่อรัดหมวกให้อยู่กับศีรษะของเรา ซึ่งแต่ละยี่ห้อก็มีเทคโนโลยีที่แตกต่างกันไป ควรเลือกระบบล็อกที่แน่นหนา แข็งแรง ปรับระดับได้ มีครบทั้งสายรัดคางและรอบศีรษะ จะช่วยให้การสวมใส่สบายและปลอดภัยมากขึ้น
การสวมใส่หมวกจักรยานให้ถูกวิธี
คลิป How To Properly Fit a Bicycle Helmet โพสต์โดยคุณ Art\'s Cyclery สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม
การสวมหมวกจักรยานให้ถูกวิธีจะช่วยเพิ่มลดการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุได้มากขึ้น ซึ่งมีวิธีดังนี้
1. สวมหมวกลงไปบนศีรษะ ให้ด้านหน้าของหมวกไม่เชิดขึ้นด้านบน โดยขอบล่างของหมวกควรปิดพื้นที่หน้าผากเกือบทั้งหมดและเหนือพื้นที่เหนือคิวประมาณ 1 เซนติเมตร
2. ล็อกสายรัดตรงคางให้เรียบร้อย แต่ไม่ควรรัดแน่นเกินไป เพราะจะทำให้หายใจลำบาก
3. ปรับระดับของหมวกที่กลไกด้านหลังหมวก ให้รัดติดกับศีรษะพอดี จะช่วยให้การเคลื่อนไหวคล่องตัวยิ่งขึ้น
ควรเปลี่ยนหมวกจักรยานเมื่อไร ?
หมวกจักรยานก็เหมือนของอื่น ๆ ที่ต้องเปลี่ยนเมื่อถึงเวลาอันควร ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
1. เมื่อใช้งานหมวก 5 ปีขึ้นไป เนื่องจากโฟมกันกระแทกอาจเสื่อมสภาพจนไม่สามารถซับแรงกระแทกได้อีก
2. เมื่อหมวกผ่านการกระแทก เพราะโฟมกันกระแทกจะหมดประสิทธิภาพในการดูดซับแรงทันที
ข้อควรระวังในการใช้หมวกจักรยาน
1. การทำความสะอาดหมวกควรใช้เพียงแค่ฟองน้ำกับสบู่ทั่ว ๆ ไปเท่านั้น เนื่องจากสารเคมีอย่างอื่นอาจทำให้หมวกเสียหายได้
2. ไม่ควรเก็บหมวกในที่ที่มีความร้อนสูง เช่น กลางแดดหรือภายในรถ เพราะจะทำให้โฟมเกิดการพองตัวและหมดประสิทธิภาพทันที
เป็นอย่างไรบ้างสำหรับเคล็ดลับการเลือกและใช้งานหมวกจักรยานที่กระปุกดอทคอมนำมาฝากกันในวันนี้ หวังว่าจะช่วยให้นักปั่นทั้งหลายเลือกหมวกได้ตรงใจและใช้งานได้ปลอดภัยกันมากขึ้นแล้วนะครับ