เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
เมื่อวันที่ 9 เมษายนที่ผ่านมา สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า มาร์ค ซักเกอร์เบิร์ก ผู้ก่อตั้งเฟซบุ๊ก เครือข่ายสังคมออนไลน์อันดับหนึ่งของโลก ได้ทุ่มทุนกว่า 3 หมื่นล้านบาท ซื้อกิจการอินสตาแกรม (Instagram) แอพพลิเคชั่นภาพถ่ายยอดนิยมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
รายงานระบุว่า มาร์ค ซักเกอร์เบิร์ก ซีอีโอเฟซบุ๊กวัย 27 ปี ได้เปิดเผยว่า ทางเฟซบุ๊กจะซื้อกิจการแอพพลิเคชั่นอินสตาแกรมไว้ทั้งหมดในเดือนหน้านี้ และนี่ถือเป็นก้าวที่สำคัญสำหรับเฟซบุ๊ก เนื่องจากเป็นครั้งแรกที่เฟซบุ๊กเข้าซื้อกิจการแอพพลิเคชั่นที่มีผู้ใช้จำนวนมากกว่า 30 ล้านคนทั่วโลก แต่การซื้อกิจการในครั้งนี้ จะไม่ส่งผลต่อรูปแบบการใช้งานของอินสตาแกรมแต่อย่างใด ทั้งในเรื่องของการโพสต์รูปภาพและการแชร์รูปภาพผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์อื่น ๆ โดยเฟซบุ๊กจะปล่อยให้อินสตาแกรมทำงานอย่างอิสระ และคงฟีเจอร์ต่าง ๆ ของอินสตาแกรมไว้ ซึ่งถ้าหากผู้ใช้อินสตาแกรมไม่ต้องการแชร์รูปภาพจากอินสตาแกรมลงในเฟซบุ๊ก ก็สามารถตั้งค่าได้
สำหรับ อินสตาแกรม นั้น เป็นแอพพลิเคชั่นบนแฟลตฟอร์ม iOS ที่ได้รับความนิยมสูงมาก และมีผู้ใช้เทียบเท่ากับเครือข่ายสังคมออนไลน์อื่น ๆ อย่างเฟซบุ๊ก ยูทูบ และทวิตเตอร์เลยทีเดียว ด้วยคุณสมบัติที่ให้ผู้ใช้ได้แต่งภาพ แสงสี และเงาต่าง ๆ ก่อนจะโพสต์แชร์ให้คนอื่นเห็น ทำให้อินสตาแกรมเป็นแอพพลิเคชั่นที่มีเอกลักษณ์ แถมยังใช้งานง่ายอีกด้วย
ส่วนผู้ก่อตั้งอินสตาแกรม ผู้ได้รับแจ็กพ็อตสามหมื่นล้านบาทจากเฟซบุ๊กนั้น ก็คือสองหนุ่มวัย 26 ปี นามว่า เควิน ซิสตรอม และไมค์ ครีกเกอร์ โดยทั้งสองคนได้ร่วมกันสร้างและเปิดตัวแอพพลิเคชั่นอินสตาแกรมออกมาเมื่อเดือนตุลาคม 2010 และมันก็ได้รับความนิยมเกินคาด ก็นับว่าอินสตาแกรมนั้นเป็นแอพพลิเคชั่นที่เติบโตเร็วมาก มีผู้ใช้แตะ 30 ล้านคนภายในระยะเวลาเพียง 15 เดือนเท่านั้น
ทั้งนี้ หลังจากที่มีข่าวว่าเฟซบุ๊กกำลังจะซื้อกิจการของอินสตาแกรมนั้น ทางด้านนายเควิน ซิสตรอม ก็ได้ออกมาเปิดเผยผ่านบล็อกในอินสตาแกรมว่า
"ผมกับไมค์ได้ร่วมกันสร้างอินสตาแกรมเมื่อ 2 ปีที่แล้ว เพื่อให้อินสตาแกรมเป็นช่องทางหนึ่งในการแชร์ภาพถ่ายในลักษณะเดียวกับเครือข่ายสังคมออนไลน์ และไม่น่าเชื่อว่ามันได้รับกระแสตอบรับจากคนทั่วโลกเป็นอย่างดี แต่วันนี้ ทางอินสตาแกรมขอประกาศว่า อินสตาแกรมจะกลายเป็นของเฟซบุ๊กแล้ว โดยตลอดเวลาที่ผ่านมา เราได้มองเห็นการเติบโตของอินสตาแกรมที่เราไม่เคยคิดมาก่อน และนั่นเกิดขึ้นจากทีมงานที่มีความสามารถ รวมถึงการสนับสนุนและแลกเปลี่ยนความเห็นในแอพพลิเคชั่นที่คล้ายกับเฟซบุ๊กแห่งนี้ แต่แอพพลิเคชั่นอินสตาแกรมไม่อาจไปไหนได้ไกลกว่านี้ เราจึงขอร่วมงานกับเฟซบุ๊ก เพื่อพัฒนาอินสตาแกรมให้กลายเป็นเครือข่ายสังคมออนไลน์อีกแห่ง โดยเราจะเพิ่มคุณสมบัติให้อินสตาแกรมน่าใช้และดียิ่งขึ้นไปอีก อย่างไรก็ดี แอพพลิเคชั่นอินสตาแกรมยังคงคุณสมบัติเดิมที่คุณชื่นชอบเอาไว้ ผู้ใช้อินสตาแกรมทุกคนก็ยังมีเพื่อนในอินสตาแกรมกลุ่มเดิม จำนวนเท่าเดิม และคุณก็ยังสามารถแชร์ภาพถ่ายไปยังเครือข่ายสังคมออนไลน์อื่น ๆ ได้เหมือนเดิม เรียกว่ายังคงใช้งานอินสตาแกรมได้เหมือนเดิมทุกอย่าง ตอนนี้ เราตื่นเต้นมากที่ได้ร่วมงานกับเฟซบุ๊กและตื่นเต้นที่จะได้พัฒนาอินสตาแกรมให้ดีขึ้น เพื่อผู้ใช้งานทุก ๆ คน"
