รักแร้เหม็น ปัญหากลิ่นตัวที่ผู้ชายไม่ควรมองข้าม ใครมีปัญหารักแร้มีกลิ่นไม่พึงประสงค์ ต้องการวิธีรักษากลิ่นตัว ควรทำอย่างไรบ้าง หาคำตอบได้ที่นี่
รักแร้เหม็น หนึ่งในปัญหายอดฮิตของผู้ชายที่หลายคนอาจจะไม่ค่อยได้ใส่ใจกัน แต่ความจริงแล้วมันเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งโดยทั่วไปแล้วผู้ชายมักมีปัญหารักแร้เหม็นมากกว่าผู้หญิง เพราะว่าผู้ชายมีต่อมเหงื่อที่มากกว่าและใหญ่กว่า ส่งผลให้มีเหงื่อออกมากกว่าจนกลายเป็นปัญหากลิ่นเต่าแรง แต่ทุกปัญหาย่อมมีทางแก้ วันนี้เราก็เลยจะมาแนะนำถึงวิธีแก้ปัญหารักแร้เหม็น จะต้องทำยังไงบ้าง ไปดูกันเลย
รักแร้เหม็น เกิดจากอะไร ?
ปัญหารักแร้เหม็นนั้นสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วคนที่มีกลิ่นตัวแรงมักมาจากกลิ่นรักแร้ เนื่องจากเป็นจุดซ่อนเร้นที่สามารถเกิดความอับชื้นและหมักหมมของเหงื่อและเชื้อแบคทีเรียได้มากกว่าส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย โดยสาเหตุที่ทำให้รักแร้มีกลิ่นเหม็นได้นั้น มีดังนี้
-
มีเหงื่อออกมาก หรือภาวะร่างกายหลั่งเหงื่อมากผิดปกติ
-
ไม่รักษาความสะอาด เชื้อแบคทีเรียที่หมักหมม
-
ภาวะอ้วน น้ำหนักเกินมาตรฐาน
-
รับประทานอาหารรสจัด อาหารกลิ่นแรง
-
การดื่มแอลกอฮอล์
-
การใช้ยาบางชนิด เช่น ยารักษาโรคซึมเศร้า
-
โรคบางชนิด เช่น โรคเบาหวาน โรคตับ หรือโรคไต
วิธีแก้ปัญหารักแร้เหม็น
1. อาบน้ำทุกวัน
ควรอาบน้ำเป็นประจำทุกวันอย่างน้อยวันละ 1-2 ครั้ง โดยเฉพาะคนที่มีเหงื่อออกมาก ควรอาบน้ำให้บ่อยกว่าปกติ ทำความสะอาดบริเวณรักแร้ให้สะอาด และอาจหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์อาบน้ำที่มีส่วนผสมของสบู่ (Soap Free) เนื่องจากสบู่นั้นมีส่วนประกอบที่ทำให้ผิวหนังมีค่า pH สูงขึ้น ทำให้ผิวหนังมีสภาพเป็นด่างและเกิดแบคทีเรียมากขึ้นกว่าเดิม
2. เล็มขนรักแร้ออกบ้าง
สำหรับใครที่มีขนรักแร้หนาและเยอะเกินไป อาจเล็มออกบ้าง เพื่อช่วยให้เหงื่อสามารถระเหยได้ไวขึ้น แต่ไม่ควรโกนขนจนเกลี้ยง เพราะขนรักแร้สามารถช่วยดูดซับความชื้นเพื่อลดความอับชื้นและการหมักหมมได้
3. ใช้โรลออนดับกลิ่น
หนึ่งในวิธีที่ง่ายที่สุดสำหรับดับกลิ่นใต้วงแขนก็คือการใช้โรลออนระงับกลิ่นเหงื่อ ซึ่งจะช่วยลดการเกิดเหงื่อ ลดการเกิดแบคทีเรียหมักหมม โดยให้ใช้ทุกวันในตอนเช้า หรืออาจใช้ซ้ำอีกครั้งหลังผ่านกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออกมาก เช่น หลังออกกำลังกายหรือทำงานกลางแจ้ง
4. เลือกน้ำหอมให้ถูกกลิ่น
ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับอาบน้ำและระงับกลิ่นกายให้ไปทางเดียวกับกลิ่นน้ำหอมที่ใช้ อย่าให้กลิ่นตีกันจนมั่ว เพราะนอกจากจะไม่หอมแล้วยังทำให้คนรอบข้างเวียนหัวอีกด้วย หรือถ้าอยากเน้นง่ายก็อาจเลือกใช้ผลิตภัณฑ์แบบไร้กลิ่นไปเลยก็ได้เช่นกัน
5. สวมเสื้อหลวม ๆ ซักบ่อย ๆ
การสวมเสื้อผ้ารัดแน่นเกินไป จะทำให้เหงื่อออกง่ายมากกว่าปกติ ทำให้เกิดความอับชื้นและแบคทีเรียจนเกิดกลิ่น จึงควรเลือกใส่เสื้อผ้าให้หลวมขึ้นอีกหน่อย และควรซักบ่อย ๆ ไม่ใส่ซ้ำหลายวัน เพราะเสื้อที่ดูดซับเหงื่อไว้จะเกิดการหมักหมมได้
อย่างไรก็ตาม ถ้าหากทำตามวิธีดังกล่าวแล้วยังมีปัญหาเรื่องกลิ่นรักแร้อยู่ ไม่ดีขึ้นเลย ก็อาจมีสาเหตุมาจากการใช้ยาบางชนิด หรือป่วยเป็นโรคบางอย่าง จึงควรพบแพทย์เพื่อปรึกษาหาทางรักษากันต่อไป