Mechanical Keyboard คืออะไร สวิตช์แต่ละสีมีความแตกต่างกันอย่างไร เลือกซื้อยังไงให้เหมาะกับคุณ
หาพูดถึงการแบ่งประเภทของคีย์บอร์ดคอมพิวเตอร์แล้ว นอกจากการแบ่งตามลักษณะการเชื่อมต่อ เช่น คีย์บอร์ดมีสายกับคีย์บอร์ดไร้สาย ก็ยังสามารถแบ่งตามลักษณะของโครงสร้างภายในได้อีกเช่นกัน ซึ่งก็คือคีย์บอร์ดพื้นฐานที่ใช้กันทั่วไปหรือเรียกว่า Membrane Keyboard กับ Mechanical Keyboard ที่หลายคนอาจจะเคยเห็นผ่านตากันมาบ้าง แต่ก็ยังไม่ค่อยรู้จักว่ามันต่างจากคีย์บอร์ดทั่วไปยังไง และในวันนี้เราจะพาไปทำความรู้จักกัน
Mechanical Keyboard คืออะไร ?
Mechanical Keyboard (คีย์บอร์ด Mechanical) คือคีย์บอร์ดอีกประเภทหนึ่ง ซึ่งแตกต่างจากคีย์บอร์ด Membrane ที่ใต้ปุ่มจะเป็นยาง (Rubber Dome) มีต้นทุนในการผลิตที่ต่ำกว่า และมีราคาเพียงหลักร้อยบาทเท่านั้น ส่วน Mechanical Keyboard จะมีราคาสูงกว่าและมักถูกออกแบบมาสำหรับเน้นใช้เล่นเกมเป็นส่วนใหญ่ โครงสร้างใต้ปุ่มจะเป็นกลไกสวิตช์แบบสปริง มีความทนทานสูง และมีความแม่นยำในการตอบสนองสูง นอกจากนี้ตัวปุ่ม (Key Cap) ยังสามารถถอดออกง่ายกว่าคีย์บอร์ดปุ่มยาง ทำให้สามารถถอดเปลี่ยนหรือทำความสะอาดได้สะดวก และมักมีฟังก์ชั่น Anti-Ghosting ที่ทำให้สามารถกดได้พร้อมกันหลายปุ่ม เพื่อให้สามารถใช้เล่นเกมต่าง ๆ ได้ไม่สะดุด
Mechanical Keyboard มีกี่แบบ ?
สวิตช์หรือรูปแบบปุ่มของ Mechanical Keyboard นั้นจะมีแบ่งออกเป็นหลายสีซึ่งมีกลไกการทำงานที่แตกต่างกัน โดยแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ คือ Linear Switch และ Tactile Switch
1. Linear Switch
มีรูปแบบการกดคล้ายกับคีย์บอร์ดปุ่มยางคือกดแบบจังหวะเดียว มีแรงต้านในการกดคงที่ เสียงในการกดค่อนข้างเงียบมาก เช่น Red Switch และ Black Switch เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ชอบเสียงดังรบกวนขณะกดคีย์บอร์ด
2. Tactile Switch
มีจังหวะในการกดแบบ 2 จังหวะ ด้วยแรงต้านที่ต่างกัน โดยในจังหวะแรกจะมีแรงต้านน้อย ปุ่มจะยังไม่มีการตอบสนอง และปุ่มจะเริ่มทำงานในการกดจังหวะที่ 2 ซึ่งมีแรงต้านที่มากกว่า มีเสียงในการกดดังกว่า Linear Switch เช่น Blue Switch และ Brown Switch ซึ่งหลายคนจะชอบเสียงกดดังคลิกของสวิตช์ประเภทนี้ เพราะให้อรรถรสมากกว่า
ความแตกต่างของสวิตช์แต่ละสี
หากอ้างอิงจากสวิตช์ของ Cherry MX ที่ถูกใช้ในคีย์บอร์ดหลายยี่ห้อมากที่สุด จะมีหลัก ๆ 4 สี ได้แก่ Red, Black, Blue และ Brown Switch ซึ่งมีความแตกต่างกันดังนี้
Red
Switch
สวิตช์แบบ Linear Switch ที่มีแรงต้านน้อยมาก ใช้แรงกดเพียง 45 cN
เหมาะแก่การพิมพ์สัมผัสหรือเล่นเกมที่ต้องกดปุ่มรัว ๆ ไม่ต้องออกแรงมาก
เสียงขณะเงียบมาก แต่ก็อาจเกิดการกดโดยไม่ได้ตั้งใจได้สำหรับคนนิ้วหนัก
Black Switch
สวิตช์แบบ Linear Switch ที่เสียงเงียบเหมือนกับ Red Switch
แต่มีแรงต้านมากกว่า ใช้แรงกด 60 cN เหมาะสำหรับคนนิ้วหนัก
ใช้ในการเล่นเกมได้ดี เพราะลดโอกาสการกดปุ่มโดยไม่ได้ตั้งใจ
แต่ถ้าใช้ในการพิมพ์งานนาน ๆ อาจรู้สึกเมื่อยนิ้วได้
Blue
Switch
Blue
Switch
สวิตช์แบบ Tactile Switch ที่ใช้การกดแบบ 2 จังหวะ ใช้แรงกด 60 cN
หลายคนนิยมใช้ในการเล่นเกม เพราะให้ความรู้สึกในการกดที่ดีกว่า แม่นยำ
ไม่เผลอกดโดยไม่ได้ตั้งใจ และเมื่อกดปุ่มจะมีเสียงดัง "คลิก"
ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของหลาย ๆ คน
เพราะทำให้รู้สึกพิมพ์สนุกคล้ายกับเครื่องพิมพ์ดีด
แต่เสียงที่ดังอาจสร้างความรำคาญให้กับคนรอบข้างได้
Brown
Switch
สวิตช์แบบ Tactile Switch ที่ไม่มีเสียงดัง "คลิก" เหมือนอย่าง Blue
Switch และใช้แรงกด 55 cN ซึ่งน้อยกว่า Blue Switch อยู่เล็กน้อย
เหมาะสำหรับคนชอบปุ่มกดแบบ 2 จังหวะ แต่ไม่ชอบเสียงดังแบบ Blue Switch
นอกจากนี้ผู้ผลิตคีย์บอร์ดบางยี่ห้อก็อาจพัฒนาสวิตช์ของตัวเองโดยเฉพาะ ซึ่งอาจมีลักษณะและจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไป อย่างไรก็ตามการเลือกสวิตช์ของ Mechanical Keyboard นั้นไม่มีคำตอบตายตัวว่าควรเลือกสีไหน
เพราะสุดท้ายแล้วก็ขึ้นอยู่กับความชอบและความถนัดของแต่ละบุคคล
บทความเกี่ยวกับคีย์บอร์ดอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
- Mechanical Keyboard ราคาถูก 2023 สำหรับเกมเมอร์งบน้อย
- คีย์บอร์ดยี่ห้อไหนดี 2023 มีรุ่นไหนน่าสนใจบ้าง
- คีย์บอร์ดไร้สายยี่ห้อไหนดี 2023 ใช้ง่าย ไม่มีสายเกะกะ
- คีย์บอร์ดพิมพ์ไม่ได้ แก้ยังไงดี ?
- ปุ่มบนคีย์บอร์ด ทำไมถึงไม่เรียงตามตัวอักษร ABC ? เรื่องนี้มีที่มา
- คีย์บอร์ดยี่ห้อไหนดี 2023 มีรุ่นไหนน่าสนใจบ้าง
- คีย์บอร์ดไร้สายยี่ห้อไหนดี 2023 ใช้ง่าย ไม่มีสายเกะกะ
- คีย์บอร์ดพิมพ์ไม่ได้ แก้ยังไงดี ?
- ปุ่มบนคีย์บอร์ด ทำไมถึงไม่เรียงตามตัวอักษร ABC ? เรื่องนี้มีที่มา
ขอบคุณข้อมูลจาก cherrymx.de