ย้อนตำนานเครื่องเล่นเกม PlayStation จากจุดเริ่มต้นจนถึงปัจจุบัน มากกว่า 20 ปีแห่งการเป็นสถานีการละเล่น PlayStation ตั้งแต่ PS1 จนถึง PS5 มีวิวัฒนาการมาอย่างไรบ้าง
ใครที่เติบโตมากับเกมยุค 90s เชื่อว่าคงจะไม่มีใครที่ไม่รู้จักเครื่องเกมที่มีชื่อว่า PlayStation ของ
Sony อย่างแน่นอน โดย PlayStation
นั้นถือเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับวงการเกมคอนโซลอย่างยาวนานรองจาก Nintendo
ได้เลยทีเดียว ซึ่งนับตั้งแต่เปิดตัวรุ่นแรกในปี 1994
จนถึงปัจจุบันนี้ก็มากกว่า 20 ปีแล้ว
และในวันนี้เราจะมาร่วมย้อนอดีตระลึกถึง PlayStation
ตั้งแต่ยุคแรกจนถึงปัจจุบันกันว่ามีออกมาแล้วทั้งหมดกี่รุ่น
และมีพัฒนาการอยางไรบ้าง
1. PlayStation
PlayStation รุ่นแรกเริ่มวางจำหน่ายในปลายปี 1994 ที่ญี่ปุ่น ก่อนที่จะวางจำหน่ายในประเทศอื่น ๆ ช่วงปลายปี 1995 ราคาเปิดตัว 39,800 เยน เล่นเกมผ่านแผ่น CD สามารถเล่นแผ่นเพลง CD Audio ได้ เป็นเครื่องที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในยุคนั้น ทำยอดขายทั่วโลกได้มากกว่าเครื่องอื่นในยุคนั้นอย่าง Nintendo 64 ของ Nintendo และ Sega Saturn ของ Sega โดยในปี 2000 ได้มีการออกรุ่นขนาดเล็กกะทัดรัดมาในชื่อ PSone
2. PlayStation 2
PlayStation ยุคที่สองที่สานต่อความสำเร็จจากยุคก่อนหน้า เริ่มวางจำหน่ายในปี 2000 ที่ราคา 39,800 เยน เล่นเกมผ่านแผ่น DVD โดยมีเกมบางส่วนที่ยังเป็น CD อยู่ สามารถเล่นเกมของ PS1 และแผ่น DVD ภาพยนตร์ได้ ตัวเครื่องถูกดีไซน์มาให้สามารถวางเครื่องในแนวตั้งได้ PS2 ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องเกมที่มียอดขายสูงสุดในยุคนั้น แต่ยังเป็นเครื่องเกมที่มียอดขายสูงที่สุดตลอดกาลอีกด้วย โดยในปี 2004 ได้มีการออกเครื่องรุ่ม Slim บางเฉียบ พร้อมทั้งเปลี่ยนถาดใส่แผ่นเป็นแบบฝาปิดแทน
3. PlayStation Portable
PlayStation Portable หรือ PSP เป็นเครื่องเกมพกพาเครื่องแรกของ Sony เริ่มวางจำหน่ายในช่วงปลายปี 2004 ที่ราคา 19,800 เยน มาพร้อมหน้าจอ Widescreen TFT LCD ขนาด 4.3 นิ้ว ความละเอียด 480 x 272 พิกเซล เล่นเกมผ่านแผ่น UMD และสามารถดาวน์โหลดเกมจาก PlayStation Store ลงใน Memory Stick PRO Duo ได้ ซึ่งมีเกมของ PS1 ให้โหลดมาเล่นด้วย ถึงแม้ว่าจะมียอดขายไม่มากเท่า Nintendo DS แต่ก็ถือว่าได้รับความนิยมพอสมควร โดยหลังจากนั้นก็ได้มีการออกรุ่นใหม่ที่ตัวเครื่องบางเบากว่าเดิมและสามารถต่อภาพออกทีวีจอใหญ่ได้ รวมทั้ง PSP Go ซึ่งเป็นรุ่นที่ไม่มีช่องใส่แผ่น UMD ต้องโหลดเกมจาก PS Store เท่านั้น
4. PlayStation 3
PlayStation ที่เปิดตัวด้วยราคาแพงที่สุด เริ่มต้นที่ 49,980 เยน แบ่งออกเป็นหลายรุ่นตามขนาดความจุฮาร์ดดิสก์ เป็นยุคที่เริ่มรองรับการเล่นเกมออนไลน์เต็มรูปแบบ เล่นเกมผ่านแผ่น Blu-ray กราฟิกระดับ HD โดยสามารถเล่นแผ่นเกมของ PS1 และ PS2 ได้ แต่มีเฉพาะรุ่น 20/60/80GB เท่านั้นที่สามารถเล่นแผ่น PS2 ได้ และสามารถดาวน์โหลดเกมจาก PS Store ได้ ในช่วงแรกของการวางจำหน่ายมียอดขายที่ไม่ค่อยดีนัก แต่ก็มีกลุ่มคนดูหนังนิยมซื้อมาเล่นแผ่น Blu-ray กันอยู่พอสมควร แม้ในอีกไม่กี่ปีต่อมาจะสามารถขายได้มากขึ้น แต่ก็ยังมียอดขายตามหลัง Xbox 360 อยู่เล็กน้อย โดยในปี 2009 และ 2012 ได้มีการออกรุ่น Slim และ Super Slim มาตามลำดับ
5. PlayStation Vita
เครื่องเกมพกพายุคที่ 2 ของ Sony เริ่มวางจำหน่ายในช่วงปลายปี 2011 ที่ราคาเริ่มต้น 24,980 เยน เปลี่ยนจากการเล่นเกมผ่านแผ่น UMD ไปใช้ PS Vita Card แทน สามารถเล่นเกมของ PS1 และ PSP ได้ด้วยการดาวน์โหลดจาก PS Store ตัวเครื่องมาพร้อมหน้าจอ OLED แบบทัชสกรีนขนาด 5 นิ้ว ความละเอียด 960 x 544 พิกเซล พร้อมทัชแพดหลังเครื่องสำหรับเพิ่มลูกเล่นในการควบคุมเกม PS Vita จัดว่าเป็น PlayStation ที่ขายได้น้อยที่สุด ถึงแม้ว่าจะได้รับความนิยมในญี่ปุ่นอยู่บ้าง แต่สำหรับตลาดทั่วโลกแล้วถือว่าซบเซาเป็นอย่างมาก โดยในปี 2013 ได้มีการออกรุ่นใหม่มาอีกหนึ่งรุ่น ตัวเครื่องเบาบางกว่าเดิม แบตฯ อึดขึ้น แต่หน้าจอเปลี่ยนไปใช้ LCD แทน รวมทั้ง PlayStation TV ซึ่งเป็นรุ่นสำหรับต่อเล่นกับทีวีโดยเฉพาะ
คอนโซลยุคที่ 4 ของ PlayStation ที่เริ่มวางจำหน่ายในช่วงปลายปี 2013 ที่ราคา 38,980 เยน อัพเกรดกราฟิกสู่ระดับ Full HD โดยยังคงใช้แผ่น Blu-ray อยู่เช่นเดิม แต่ไม่สามารถเล่นเกมของ PlayStation ยุคก่อนหน้าได้เลย รองรับการเชื่อมต่อกับบริการโซเชียลต่าง ๆ สามารถแคปภาพและอัดคลิปวิดีโอได้ในตัว รวมทั้งการสตรีมมิ่งเกมแบบสด ๆ ได้รับความนิยมไปทั่วโลกและมียอดขายที่ค่อนข้างน่าพึงพอใจ โดยในช่วงปลายปี 2016 ได้มีการออกรุ่น Slim บางเบากว่าเดิม พร้อมทั้งรุ่น Pro ที่อัพเกรดสเปคให้แรงขึ้น เฟรมเรตลื่นขึ้น รองรับความละเอียดระดับ 4K HDR นอกจากนี้ก็ยังมีอุปกรณ์เสริมล้ำ ๆ อย่าง PlayStation VR อีกด้วย
7. PlayStation 5
7. PlayStation 5
คอนโซลยุคแรกที่เปิดตัวมาโดยแบ่งออกเป็น 2 รุ่น ได้แก่ รุ่นปกติที่จะมาพร้อมช่องใส่แผ่น Ultra HD Blu-ray กับรุ่น Digital Edition ที่ไม่มีช่องใส่แผ่น สำหรับเล่นเกมแบบ Digital Download เท่านั้น ใช้ GPU รองรับเทคโนโลยี Ray-tracing ใช้หน่วยความจำแบบ SSD โดยเกมแบบแผ่น Ultra HD Blu-ray จะมีความจุสูงสุด 100GB รองรับการเล่นเกมของ PlayStation 4 พร้อมจอยแบบใหม่ DualSense ที่มี Haptic Feedback ซึ่งเป็นเหมือนระบบสั่นแบบใหม่ และปุ่ม Trigger อย่าง L2/R2 ที่เป็นแบบ Adaptive รวมทั้งลูกเล่นใหม่ล้ำ ๆ อีกมากมาย
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก PlayStation, Wikipedia
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก PlayStation, Wikipedia