
ปฏิเสธไม่ได้จริง ๆ ว่า น้ำหอมผู้ชาย คือสิ่งที่หนุ่ม ๆ ขาดไม่ได้เมื่อต้องออกจากบ้าน ซึ่งนอกจากจะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้ตัวเองแล้ว น้ำหอม ยังทำให้คนที่ได้กลิ่นอยากอยู่ใกล้ โดยเฉพาะสาว ๆ ที่อาจหลงเสน่ห์คุณเพียงเพราะได้กลิ่นหอมเมื่อเดินผ่านก็เป็นได้ และวันนี้เราจึงมีน้ำหอมผู้ชายใหม่ ๆ จาก fashionbeans มาแนะนำกันด้วย


ภาพจาก fragrantica
แม้ชื่อของน้ำหอมรุ่นนี้อาจยังไม่คุ้นหูเท่าไร แต่ขอบอกเลยว่าน้ำหอมจากแบรนด์ Carven ตัวนี้ กลิ่นหอมสดชื่นจริง ๆ ด้วยกลิ่นหอมอ่อน ๆ จากมินต์ เลมอน ต้นเบิร์ช และเกรปฟรุต ผสานกับความหอมของลาเวนเดอร์ ขิง กระวาน ซีดาร์ และไม้ ผลลัพธ์ที่ได้คือความหอมที่ลงตัว โดยขนาด 50 มล. สนนราคาจำหน่ายอยู่ที่ 50 ปอนด์ (หรือประมาณ 2,525 บาท)


ภาพจาก calvinklein
น้ำหอมจาก Calvin Klein รุ่น ck1 เคยทำเอาหนุ่ม ๆ ติดอกติดใจในความหอมกันมาแล้วทั่วบ้านทั่วเมือง คราวนี้ Calvin Klein กลับมาอีกครั้งกับรุ่น ck2 ที่น่าจะเตรียมฮิตได้อีกครั้ง ด้วยกลิ่นหอมที่เกิดจากส่วนผสมของ กลิ่นไม้และดอกไม้นานาชนิด เชื่อเหลือเกินว่า ck2 น่าจะได้ชื่อว่าเป็นน้ำหอมผู้ชายตัวท็อปประจำปีนี้แน่นอน สนนราคาขายอยู่ที่ 39 ปอนด์ (หรือประมาณ 1,970 บาท) สำหรับขนาด 50 มล.


ภาพจาก fashionbeans
Paul Smith เตรียมปล่อยน้ำหอมลิมิเต็ด อิดิชั่น รุ่นนี้ออกมาในเดือนกุมภาพันธ์นี้แล้ว ซึ่งเป็นน้ำหอมที่เหมาะกับใช้ในช่วงหน้าร้อนมาก ๆ ด้วยความหอมที่เกิดจากส่วนผสมอย่าง ลูกจันทน์ พริกไทยดำ ผักชี ผสานกับกลิ่นความสดชื่นจากเกรปฟรุตและมะเฟือง โดยเตรียมวางจำหน่ายแล้วในราคา 26 ปอนด์ (หรือประมาณ 1,315 บาท) สำหรับขนาด 100 มล.


ภาพจาก harrods
หนุ่ม ๆ บางคนอาจยังไม่รู้ว่า เฟอร์รารี่ ก็ผลิตน้ำหอมเจ๋ง ๆ ออกวางขายด้วยเช่นกัน แถมยังให้กลิ่นออกแมน ๆ สมชายชาตรีด้วย โดดเด่นเตะจมูกด้วยกลิ่นหอมจากไม้แคชเมียร์ น้ำมันหอมระเหย และลูกจันทน์ สนนราคาจำหน่ายที่ 170 ปอนด์ (หรือประมาณ 8,590 บาท) สำหรับขนาด 100 มล.


ภาพจาก beckham-fragrances
เห็นชื่อแบรนด์ เดวิด เบ็คแฮม แล้ว บางคนคงคิดว่าแพงแน่ ไม่ซื้อหรอก แต่ช้าก่อน ! เพราะน้ำหอมรุ่น Aqua Classic ตัวนี้ นอกจากจะมีกลิ่นหอมที่ชวนให้หลงใหลแล้ว ราคาจำหน่ายยังสบายกระเป๋าด้วย โดยขนาด 40 มล. นั้นขายแค่ 20 ปอนด์ (หรือประมาณ 1,010 บาท) เท่านั้น เมื่อเทียบกับความหอมแล้วถือว่าคุ้มค่าแน่นอน


ภาพจาก fashionflash
ชื่อแบรนด์ Byredo อาจไม่คุ้นหูเท่าไร แต่นี่คือน้ำหอมที่อยากให้เปิดจมูกสูดดมชื่นชมความหอมของมันก่อน เพราะกลิ่นหอมของซีดาร์วูด จะชวนให้คุณระลึกถึงกลิ่นดินสอไม้เวลาถูกเหลา บวกกับกลิ่นหอมของดอกกุหลาบและกลิ่นหญ้าแฝกจากเฮติ ผลลัพธ์ที่ได้คือน้ำหอมที่ผู้ชายหลายคนฝันถึง เตรียมวางจำหน่ายในราคา 90 ปอนด์ (หรือประมาณ 4,540 บาท) สำหรับขนาด 30 มล.


ภาพจาก perfumemaster
คุณผู้ชายที่ชอบน้ำหอมกลิ่นอ่อน ๆ และให้ความรู้สึกสดชื่นไปตลอดทั้งวัน คงต้องเทใจให้น้ำหอมจาก Montblanc รุ่นนี้แล้วล่ะ ด้วยความหอมของกลิ่นอโรมาจากเกรปฟรุต ลาเวนเดอร์ และกลิ่นสดชื่นแบบน้ำทะเล จึงทำให้คุณหลงใหลในความหอมของมันได้ไม่ยาก สนนราคาอยู่ที่ 39 ปอนด์ (หรือประมาณ 4,550 บาท) สำหรับขนาด 50 มล.


ภาพจาก jomalone
สุดยอดน้ำหอมจาก Jo Malone ก็มีน้ำหอมผู้ชายอย่าง Orris & Sandalwood ที่น่าสนใจเช่นกัน โดดเด่นด้วยกลิ่นออร์ริสซึ่งมาจากต้น Iris pallida ผสานความหอมได้อย่างลงตัวกับกลิ่นของไม้และดอกไม้นานาชนิด กลิ่นพาวเดอร์รี่ รวมถึงกลิ่นไม้จันทน์และแอมเบอร์ วางขายแล้วในราคา 105 ปอนด์ (หรือประมาณ 5,305 บาท) สำหรับขนาด 100 มล.


ภาพจาก fashionbeans
แบรนด์เสื้อผ้าชื่อดัง Barbour ปล่อยน้ำหอมตัวแรกออกมาตีตลาดแข่งกับเจ้าอื่นเช่นกัน โดยมีส่วนผสมของเกรปฟรุต พริกไทยดำ ไม้จันทน์ และต้น Tonka bean จนออกมาเป็นกลิ่นน้ำหอมละมุนจมูกแบบนี้ สนนราคาอยู่ที่ 36 ปอนด์ (หรือประมาณ 1,820 บาท) สำหรับขนาด 50 มล.
เอาเป็นว่าใครที่กำลังเล็ง ๆ น้ำหอมขวดใหม่อยู่ละก็ ลองนำตัวเลือกข้างบนไปพิจารณากันได้เลย รับรองว่าเด็ดทุกตัว แต่ข้อสำคัญคือ อย่าลืมเทสต์กลิ่นก่อนซื้อและเช็กราคาหน้าร้านอีกทีนะ จะได้ได้น้ำหอมที่ถูกใจที่สุดมาใช้ยังไงล่ะครับ
*หมายเหตุ : ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง กรุณาตรวจสอบกับทางร้านอีกครั้ง
ข้อมูลจาก fashionbeans