วิธีทำความสะอาดน้องชาย เพื่อป้องกันและแก้ปัญหาน้องชายมีกลิ่น มาดูวิธีทำความสะอาดอวัยวะเพศชายที่ถูกต้องกันว่าต้องทำอย่างไรบ้าง
ความสะอาดของน้องชายนั้นเป็นสิ่งที่ผู้ชายทุกคนไม่ควรมองข้าม เพราะถ้าหากขาดการดูแลความสะอาดแล้ว ก็อาจเกิดปัญหาหลาย ๆ อย่างตามมา โดยเฉพาะการเกิดกลิ่นเหม็นที่ส่งผลต่อความมั่นใจของหนุ่ม ๆ เป็นอย่างมาก ซึ่งในบางคนก็เกิดความสงสัยว่าทำไมอาบน้ำเป็นประจำแต่น้องชายก็ยังมีกลิ่น แต่ความจริงแล้วอาจเป็นเพราะว่าคุณทำความสะอาดน้องชายไม่ถูกต้องนั่นเอง วันนี้เราจึงรวบรวมวิธีดูแลความสะอาดอวัยวะเพศชายอย่างถูกต้อง มาฝากกันครับ
สาเหตุที่ทำให้น้องชายมีกลิ่นเหม็น
ก่อนที่เราจะไปพูดถึงวิธีการทำความสะอาดน้องชาย
ก็ควรรู้ถึงสาเหตุกันก่อนว่าทำไมน้องชายถึงมีกลิ่นเหม็น
ซึ่งก็สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุดังต่อไปนี้
- ไม่ค่อยอาบน้ำ ไม่ค่อยหมั่นล้างทำความสะอาดอวัยวะเพศ
- สภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าว ทำให้เหงื่อออกมาก จนเกิดความอับชื้นใต้ร่มผ้า
- เชื้อแบคทีเรียและสิ่งสกปรกหมักหมมใต้หนังหุ้มปลาย ในคนที่ไม่เคยผ่านการขริบ
- ขนบริเวณน้องชายหนาและรกเกินไป ทำให้เกิดความอับชื้นและหมักหมม
- ใส่กางเกงชั้นในตัวเดิมซ้ำ ไม่ค่อยซักกางเกงชั้นใน หรือใส่กางเกงชั้นในที่เปียกชื้น
- เป็นเชื้อรา เกิดการอักเสบ หรือการเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ต่าง ๆ
1. เลือกซื้อสบู่สูตรเฉพาะสำหรับน้องชาย
ควรเลือกใช้สบู่สูตรสำหรับทำความสะอาดน้องชาย โดยที่มีส่วนผสมของมอยส์เจอไรเซอร์กับแอนตี้แบคทีเรีย ซึ่งช่วยขจัดคราบสกปรกและลดกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้ดี พร้อมทั้งช่วยไม่ให้เกิดอาการระคายเคืองที่อวัยวะเพศ
2. เช็กอวัยวะเพศว่ามีคราบสกปรกไหม
ก่อนที่จะอาบน้ำทุกครั้ง ควรดูให้แน่ใจว่ามีสิ่งสกปรกใด ๆ ที่อวัยวะเพศหรือไม่ สำหรับหนุ่ม ๆ ที่ไม่ได้ขริบหนังหุ้มปลาย ต้องเช็กว่ามีขี้เปียกหมักหมมใต้หนังหุ้มปลายหรือไม่ เพราะหากมีขี้เปียกสะสมจะทำให้น้องชายมีกลิ่นเหม็น และมีโอกาสเสี่ยงที่จะเป็นโรคมะเร็งองคชาตด้วย
ควรเลือกใช้สบู่สูตรสำหรับทำความสะอาดน้องชาย โดยที่มีส่วนผสมของมอยส์เจอไรเซอร์กับแอนตี้แบคทีเรีย ซึ่งช่วยขจัดคราบสกปรกและลดกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้ดี พร้อมทั้งช่วยไม่ให้เกิดอาการระคายเคืองที่อวัยวะเพศ
2. เช็กอวัยวะเพศว่ามีคราบสกปรกไหม
ก่อนที่จะอาบน้ำทุกครั้ง ควรดูให้แน่ใจว่ามีสิ่งสกปรกใด ๆ ที่อวัยวะเพศหรือไม่ สำหรับหนุ่ม ๆ ที่ไม่ได้ขริบหนังหุ้มปลาย ต้องเช็กว่ามีขี้เปียกหมักหมมใต้หนังหุ้มปลายหรือไม่ เพราะหากมีขี้เปียกสะสมจะทำให้น้องชายมีกลิ่นเหม็น และมีโอกาสเสี่ยงที่จะเป็นโรคมะเร็งองคชาตด้วย
3. อาบน้ำด้วยน้ำอุ่น
หากหนุ่ม ๆ ต้องการจะชำระล้างน้องชายให้สะอาดหมดจดละก็ ควรอาบน้ำด้วยน้ำอุ่น เพราะน้ำอุ่นมีคุณสมบัติที่จะช่วยให้สิ่งสกปรกต่าง ๆ หลุดออกได้ง่ายขึ้นนั่นเอง
หากหนุ่ม ๆ ต้องการจะชำระล้างน้องชายให้สะอาดหมดจดละก็ ควรอาบน้ำด้วยน้ำอุ่น เพราะน้ำอุ่นมีคุณสมบัติที่จะช่วยให้สิ่งสกปรกต่าง ๆ หลุดออกได้ง่ายขึ้นนั่นเอง
4. จัดการทำความสะอาดให้เรียบร้อย
เปิดน้ำอุ่นและตีสบู่ในมือให้เป็นฟองนุ่ม ๆ แล้วเริ่มทำความสะอาดตั้งแต่โคนไปจนถึงปลายอวัยวะเพศ สำหรับผู้ชายที่ไม่ได้ขริบหนังหุ้มปลาย ก็ให้ปลิ้นหนังส่วนนั้นขึ้น เพื่อขจัดคราบขี้เปียกด้วย ไม่เพียงเท่านี้ ควรถูสบู่บริเวณง่ามขาด้วย เพราะเป็นจุดที่มีเหงื่อและสิ่งสกปรกเยอะ จากนั้นใช้ผ้าขนหนูนุ่ม ๆ เช็ดน้องชายให้แห้งสนิทก่อนสวมชั้นใน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความชื้นสะสม ซึ่งเป็นที่มาของกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ได้
การเล็มขนที่อยู่บริเวณอวัยวะเพศให้สั้นจะช่วยลดกลิ่นเหม็นและอาการระคายเคืองได้ เพราะขนบริเวณดังกล่าวเป็นแหล่งสะสมของเหงื่อ เซลล์ผิวที่ตายแล้ว และเชื้อแบคทีเรีย นอกจากนี้ควรเลี่ยงการโกนอย่างเด็ดขาด เนื่องจากอาจทำให้คันและมีขนคุดอักเสบได้
6. ทำความสะอาดน้องชายก่อนและหลังมีเซ็กส์
ก่อนที่จะปฏิบัติกิจ ควรทำความสะอาดน้องชายให้เรียบร้อย ก็จะช่วยลดความเสี่ยงที่คู่รักจะติดเชื้อโรคทางเพศสัมพันธ์ได้ แล้วหลังจากที่เสร็จกิจเรียบร้อย ให้ชำระล้างอวัยวะเพศด้วยเช่นกันเพื่อสุขอนามัยที่ดี รวมถึงทำความสะอาดหลังจากการช่วยตัวเองด้วย
7. ให้น้องชายได้สูดอากาศบ้าง
เนื่องจากอวัยวะเพศของผู้ชายถูกสวมทับด้วยชั้นในและกางเกงตลอดทั้งวัน นอกจากจะมีเหงื่อสะสมแล้ว ยังก่อให้เกิดเชื้อราบริเวณโดยรอบได้ ถ้าเป็นไปได้ควรปล่อยน้องชายเป็นอิสระอย่างน้อยวันละ 2-3 ชั่วโมง ขณะอยู่บ้าน เพื่อระบายความอับชื้นนั่นเอง ไม่ก็นอนโดยไม่ใส่ชั้นในก็ได้
การเลือกใส่ชั้นในที่ทำจากผ้าเนื้อบางจะช่วยระบายความร้อนและลดเหงื่อได้ดีกว่าการใส่ชั้นในหนา ๆ ซึ่งเป็นสาเหตุของอาการระคายเคืองที่ง่ามขาและอวัยวะเพศนั่นเอง
9. รักษาความสะอาดกางเกงชั้นใน
กางเกงชั้นในเป็นสิ่งที่ห่อหุ้มอวัยวะเพศตลอดทั้งวัน ซึ่งอาจก่อให้เกิดสิ่งสกปรกสะสม ดังนั้นควรเปลี่ยนกางเกงชั้นในทุกวัน ไม่ใส่ซ้ำ หรือกลับนอกกลับใน และควรซักกางเกงชั้นในให้สะอาดอยู่เสมอ ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้นาน เพราะอาจมีเชื้อราได้
เมื่อได้ทราบอย่างนี้แล้ว ใครที่รู้สึกตะหงิด ๆ ว่าน้องชายไม่สะอาดเท่าที่ควร หรือมีกลิ่นเหม็นอับ รู้สึกไม่ค่อยมั่นใจ ก็ลองนำวิธีเหล่านี้ไปใช้กันดูได้เลย เพื่อที่จะได้มีน้องชายที่สะอาดไร้กลิ่นยังไงล่ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก boldsky.com, complex.com, thehealthsite.com