เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก รายการครอบครัวข่าว 3
พบศพ กิตติพงษ์ สายพรม รองนายกเทศมนตรี ต.นาครัว อ.แม่ทะ จ.ลำปาง ข้างถนนสายลำปาง-แจ้ห่ม หลังกิ๊กร้านเสริมสวยฆ่าทุบหัว อ้างต้องการเอาทรัพย์สินไปใช้หนี้คนรักเก่า
วันนี้ (30 กรกฎาคม 2557) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่พบศพถูกฆ่าตายอยู่ข้ างถนนสายลำปาง-แจ้ห่ม ช่วงหลัก กม.ที่ 39-40 เขตบ้านสาป่าก่อ หมู่ 5 ต.บ้านสา อ.แจ้ห่ม ซึ่งศพดังกล่าวถูกห่อพันด้วยผ้ าห่มผืนใหญ่สีชมพู 2 ชั้น มัดด้วยเชือกอย่างแน่นหนา ทราบชื่อผู้ตายคือ นายกิตติพงษ์ สายพรม อายุ 61 ปี เป็นรองนายกเทศมนตรี ต.นาครัว อ.แม่ทะ จ.ลำปาง ถูกตีด้วยของแข็งเข้าที่ศีรษะด้ านหลังอย่างแรงจนกะโหลกยุบ ส่วนทรัพย์สินอื่น ๆ ทั้งนาฬิกาข้อมือ แหวนเพชร และเงินสดของผู้ตายจำนวนหนึ่งยั งคงอยู่ แต่รถปิกอัพอีซูซุ 4 ประตู สีดำ ทะเบียน กท 5338 ลำปาง และโทรศัพท์มือถือของผู้ตายได้ หายไป
ทั้งนี้ นางจินดา สายพรม อายุ 59 ปี ภรรยาของนายกิตติพงษ์ พร้อมญาติ ๆ ที่มาดูศพ และกำลังอยู่ในอาการโศกเศร้าเสี ยใจ เล่าว่า เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม สามีได้ขับรถยนต์กระบะออกจากบ้ านไปประชุมที่ศาลากลางจังหวัด แล้วขาดการติดต่อไป ซึ่งตนสงสัยว่าสามีจะแอบไปพบหญิ งสาวคนหนึ่งที่เปิดร้านเสริ มสวยใน อ.แจ้ห่ม จึงเกรงว่าสามีจะเกิดอันตราย เพราะทราบมาว่าหญิงคนดังกล่าวมี เจ้าของอยู่แล้ว เลยไปแจ้งความเอาไว้ กระทั่งมาพบว่าสามีถูกฆ่าตายแล้ วดังกล่าว
หลังจากทราบเบาะแสแล้ว เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบที่ร้ านเสริมสวยต้องสงสัย และได้ควบคุมตัว น.ส.เบญจรัตน์ อรชร หรืออ้อม เจ้าของร้านเสริมสวย อายุ 32 ปี นายมารุต อรชร หรือเจี๊ยบ อายุ 19 ปี และนายพงษ์นิกร ส่งเกศาชาติ อายุ 33 ปี นำตัวมาสอบสวน จนกระทั่งทั้งสองคนเปิดปากรับสารภาพว่าได้ร่วมกันลงมือฆ่านายกิตติพงษ์จริง เพื่อต้องการหาเงินไปใช้หนี้ให้ชายหนุ่มที่เคยคบหาคนเก่า เนื่องจากตนเองติดหนี้อยู่ 1 แสนบาท และได้ถูกตามทวงถามมาโดยตลอด
โดยในวันเกิดเหตุ น.ส.เบญจรัตน์ ได้นัดให้นายกิตติพงษ์มาหาที่ร้านเสริมสวยและชวนพูดคุย พร้อมกับนวดตามร่างกายเพื่อให้ผ่อนคลาย ขณะที่นายกิตติพงษ์กำลังนอนคว่ำหน้าให้นวดอยู่ น.ส.เบญจรัตน์ ก็ได้เรียกให้นายมารุต ญาติผู้น้องเข้ามาและใช้ไม้ตีที่ศีรษะของนายกิตติพงษ์จนเสียชีวิต
จากนั้นได้ช่วยกันใช้ผ้าห่มมามัดห่อศพอย่างแน่นหนาและซุกซ่อนไว้ในบ้าน ก่อนที่ น.ส.เบญจรัตน์จะขับรถยนต์ของผู้ตายออกไปที่หน้าสถาบันพลศึกษา และโทรศัพท์เรียกให้อาจารย์คนหนึ่ง ซึ่งเคยคบหากันมาก่อน ออกมาเอารถคันดังกล่าวไปขาย เพื่อเป็นการใช้หนี้ที่ น.ส.เบญจรัตน์ติดเงินอยู่ 1 แสนบาท โดยอาจารย์คนดังกล่าวก็ได้ขับรถกลับไปส่ง น.ส.เบญจรัตน์ที่แจ้ห่ม ก่อนจะกลับมานำรถไปจอดไว้ในโรงเรียนที่ตนเองสอนอยู่ย่าน ต.บ่อแฮ้ว อ.เมือง จ.ลำปาง พร้อมกับถอดเครื่องเสียงรถยนต์ออกไว้เพื่อจะเตรียมนำรถไปขาย ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจตามมาพบและยึดไว้ได้ในเวลาต่อมา
ด้าน น.ส.เบญจรัตน์ เมื่อได้กลับไปถึงก็ได้ช่วยกันกับนายมารุตยกศพเพื่อจะนำไปทิ้ง แต่ทั้งสองคนยกไม่ไหว จึงได้จ้างนายพงษ์นิกร ส่งเกศาชาติ มาช่วยกันยกศพไปทิ้งไว้ริมถนนสายลำปาง-แจ้ห่ม ดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ร่วมกันซ่อนเร้นอำพรางศพ และนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
,
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก รายการครอบครัวข่าว 3
พบศพ กิตติพงษ์ สายพรม รองนายกเทศมนตรี ต.นาครัว อ.แม่ทะ จ.ลำปาง ข้างถนนสายลำปาง-แจ้ห่ม หลังกิ๊กร้านเสริมสวยฆ่าทุบหัว อ้างต้องการเอาทรัพย์สินไปใช้หนี้คนรักเก่า
วันนี้ (30 กรกฎาคม 2557) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่พบศพถูกฆ่าตายอยู่ข้
ทั้งนี้ นางจินดา สายพรม อายุ 59 ปี ภรรยาของนายกิตติพงษ์ พร้อมญาติ ๆ ที่มาดูศพ และกำลังอยู่ในอาการโศกเศร้าเสี
หลังจากทราบเบาะแสแล้ว เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบที่ร้
โดยในวันเกิดเหตุ น.ส.เบญจรัตน์ ได้นัดให้นายกิตติพงษ์มาหาที่ร้านเสริมสวยและชวนพูดคุย พร้อมกับนวดตามร่างกายเพื่อให้ผ่อนคลาย ขณะที่นายกิตติพงษ์กำลังนอนคว่ำหน้าให้นวดอยู่ น.ส.เบญจรัตน์ ก็ได้เรียกให้นายมารุต ญาติผู้น้องเข้ามาและใช้ไม้ตีที่ศีรษะของนายกิตติพงษ์จนเสียชีวิต
จากนั้นได้ช่วยกันใช้ผ้าห่มมามัดห่อศพอย่างแน่นหนาและซุกซ่อนไว้ในบ้าน ก่อนที่ น.ส.เบญจรัตน์จะขับรถยนต์ของผู้ตายออกไปที่หน้าสถาบันพลศึกษา และโทรศัพท์เรียกให้อาจารย์คนหนึ่ง ซึ่งเคยคบหากันมาก่อน ออกมาเอารถคันดังกล่าวไปขาย เพื่อเป็นการใช้หนี้ที่ น.ส.เบญจรัตน์ติดเงินอยู่ 1 แสนบาท โดยอาจารย์คนดังกล่าวก็ได้ขับรถกลับไปส่ง น.ส.เบญจรัตน์ที่แจ้ห่ม ก่อนจะกลับมานำรถไปจอดไว้ในโรงเรียนที่ตนเองสอนอยู่ย่าน ต.บ่อแฮ้ว อ.เมือง จ.ลำปาง พร้อมกับถอดเครื่องเสียงรถยนต์ออกไว้เพื่อจะเตรียมนำรถไปขาย ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจตามมาพบและยึดไว้ได้ในเวลาต่อมา
ด้าน น.ส.เบญจรัตน์ เมื่อได้กลับไปถึงก็ได้ช่วยกันกับนายมารุตยกศพเพื่อจะนำไปทิ้ง แต่ทั้งสองคนยกไม่ไหว จึงได้จ้างนายพงษ์นิกร ส่งเกศาชาติ มาช่วยกันยกศพไปทิ้งไว้ริมถนนสายลำปาง-แจ้ห่ม ดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ร่วมกันซ่อนเร้นอำพรางศพ และนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
,