เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ในแต่ละวันเรารับประทานอาหารและเครื่องดื่มเข้าไปมากมาย โดยที่ไม่เคยทราบเลยว่าอาหารแต่ละชนิดให้พลังงานไปเท่าไหร่ และการออกกำลังกายแต่ละครั้งจะสามารถเผาผลาญพลังงานได้มากน้อยแค่ไหน ดังนั้นทางแบรนด์ผู้ผลิตอุปกรณ์กีฬาจึงดีไซน์สายรัดและนาฬิกาข้อมือออกมาเป็นตัวช่วย เพื่อให้ผู้ออกกำลังกายทราบว่าควรปรับสมดุลระหว่างการออกกำลังกายและการรับประทานอาหารอย่างไรให้เหมาะสมกับตัวเอง ซึ่งในวันนี้เรานำ 10 อันดับเครื่องวัดเจ๋ง ๆ จากเว็บไซต์ askmen.com มาแนะนำให้รู้จักกันครับ
สายรัดข้อมือที่มาพร้อมกับหน้าจอขนาดเล็ก สำหรับแสดงผลการออกกำลังกายให้กับผู้ใช้ผ่านจอ LED กว่า 100 จุด ที่สามารถปรับระดับความสว่างให้เข้ากับสภาพแวดล้อมได้อัตโนมัติ โดยสายรัดข้อมือพลังงานตัวนี้จะรายงานทั้งจำนวนก้าว เวลา และปริมาณแคลอรีที่ถูกเผาผลาญไป ซึ่งคำนวนจากการเคลื่อนไหวของร่างกายในระหว่างที่กำลังทำกิจกรรมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเดิน วิ่ง หรือเล่นกีฬา นอกจากนี้ผู้ใช้ยังสามารถกำหนดเป้าหมายการออกกำลังแต่ละครั้งได้ด้วยตัวเอง จากปุ่มสีดำเพียงปุ่มเดียว สนนราคาจำหน่ายอยู่ที่ 149 ดอลลาร์สหรัฐหรือประมาณ 4,300 บาท
เครื่องวัดที่ออกแบบโดยโค้ชและผู้เชี่ยวชาญในด้านการออกกำลังกาย ซึ่งสามารถวิเคราะห์ข้อมูลต่าง ๆ ได้อย่างละเอียดครบถ้วน จากระบบเซ็นเซอร์ที่ใช้ตรวจจับอัตราการเต้นของหัวใจ หลังจากนั้นตัวเครื่องก็จะส่งรายละเอียดไปยังเครื่องมือสื่อสารผ่านสัญญาณบลูทูธ แล้วหน้าจอก็แสดงผลออกมาให้ผู้ใช้ทราบ เพียงแค่นำสายรัดพร้อมกับตัววัดดังกล่าวคาดไว้ที่หน้าอก ทั้งนี้ผู้ใช้สามารถย้อนกลับไปดูข้อมูลเก่า ๆ เพื่อทำการเปรียบเทียบความเปลี่ยนแปลงได้อีกด้วย โดยวางขายอยู่ที่ชิ้นละ 80 ดอลลาร์สหรัฐหรือประมาณ 2,300 บาท
3. Suunto Ambit 2 S
นาฬิกาสไตล์สปอร์ตที่เหมาะเจาะกับผู้ที่ชื่นชอบการออกกำลังกายมาก ๆ เพราะนอกจากจะมีน้ำหนักเบาแล้ว ตัวเรือนยังถูกปรับให้บางกว่านาฬิการุ่น Suunto Ambit 2 เพื่อความสะดวกต่อการใช้งานมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังสามารถตรวจจับอัตราการเต้นของหัวใจ ระยะทาง และความเร็วเฉลี่ย โดยแสดงผ่านหน้าจอสีดำขนาดใหญ่ซึ่งง่ายต่อการมองเห็นด้วย ราคาของนาฬิกาอยู่ที่ 450 ดอลลาร์สหรัฐหรือประมาณ 13,000 บาท
4. Jawbone UP
สำหรับคนที่ชอบสายรัดเล็ก ๆ ขนาดกะทัดรัดคงจะถูกอกถูกใจเครื่องวัดอันนี้ไม่น้อย แถมยังมีลูกเล่นที่แพรวพราวไม่แพ้แบรนด์อื่น ๆ เลย ไม่ว่าจะเป็นระบบบลูทูธที่ใช้ในการส่งข้อมูลกับแอพพลิเคชั่นบนโทรศัพท์มือถือ และไมโครโฟนขนาดเล็กที่ซ่อนอยู่ภายใน ซึ่งนอกจากมีโหมดแสดงข้อมูลเกี่ยวกับการออกกำลังกายแล้ว มันยังนำไปใช้กับกิจกรรมอื่น ๆ ระหว่างวันได้ด้วย ไม่ว่าจะกินหรือนอนก็ตาม แถมสามารถใช้ได้ยาวนานถึง 10 วันโดยไม่ต้องชาร์จไฟเพิ่ม มีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 129.99 ดอลลาร์สหรัฐหรือประมาณ 3,700 บาท
5. Motorola MOTOACTV
หากคิดว่าการออกกำลังกายเพียงอย่างเดียวน่าเบื่อเกินไป ก็สามารถเพิ่มสีสันและสร้างความสนุกสนานให้มากขึ้นได้ด้วย Motorola MOTOACTV เครื่องวัดที่มีการนำระบบจีพีเอสและเอ็มพี 3 มารวมเข้าไว้ด้วยกัน ทำให้ผู้ใช้เพลิดเพลินไปกับจังหวะดนตรีได้ตลอดทุกช่วงเวลา อีกทั้งยังแบ่งโหมดตรวจวัดตามประเภทของกีฬามากกว่า 40 ชนิด เช่น วิ่ง ปั่นจักรยาน รวมไปถึงการเล่นกอล์ฟ เป็นต้น สนนราคาขายอยู่ที่ 249.99 ดอลลาร์สหรัฐหรือประมาณ 7,200 บาท
6. 4iiii Sportiiiis
หลายครั้งที่การออกกำลังต้องสะดุดเพราะต้องคอยพลิกข้อมือเพื่อเช็กข้อมูลบนหน้าปัดอยู่บ่อย ๆ ดังนั้นแบรนด์ 4iiii จึงได้ปรับเปลี่ยนดีไซน์เครื่องวัดมาเป็นแบบตัวหนีบเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้มากยิ่งขึ้น โดยการสวมเข้าไปที่ขาของแว่นตา และแสดงผลผ่านแสงสะท้อนจากไฟ LED ที่ปลายก้าน ซึ่งมีทั้งข้อมูลอัตราการเต้นของหัวใจ ค่าความเร็วเฉลี่ย และอื่น ๆ แจ้งให้ทราบ วางจำหน่ายอยู่ที่ราคา 149 ดอลลาร์สหรัฐหรือประมาณ 4,300 บาท
7. NZN Labs Lit
ส่วนคนที่หลงใหลความท้าทายของกีฬาเอ็กซ์ตรีม เช่น มอเตอร์ครอส สโนว์บอร์ด เซิร์ฟ หรืออื่น ๆ ก็น่าจะชื่นชอบเครื่องวัดตัวนี้ด้วยเช่นกัน เพราะนอกจากจะตรวจจับระยะทางของจำนวนก้าวแล้ว ยังสามารถใช้วัดระดับความสูงของการกระโดดได้อีกด้วย แถมยังแสดงผลผ่านหน้าจอระบบ 3 มิติ และมีค่าระดับกันน้ำถึง 100 เมตร สนนราคาจำหน่ายอยู่ที่ 129 ดอลลาร์สหรัฐหรือประมาณ 3,700 บาท
8. Mio Alpha
สิ่งที่น่าสนใจของแก็ดเจ็ตตัวนี้ก็คือ การนำระบบและอุปกรณ์ชนิดเดียวกับที่ใช้กับเครื่องตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจแบบทั่วไปเข้ามาติดตั้งเอาไว้ ซึ่งนอกจากจะแสดงจังหวะการทำงานของระบบหัวใจแล้ว ยังบอกเวลารวมกับจำนวนแคลอรีที่ร่างกายนำมาใช้ด้วย ที่สำคัญดีไซน์ภายนอกก็เก๋และมีสีสันสุดเท่ เหมาะกับผู้ชายสไตล์สปอร์ตมากจริง ๆ โดยออกวางขายในราคา 199 ดอลลาร์สหรัฐหรือประมาณ 5,700 บาท
9. Withings Smart Body Analyzer
เครื่องชั่งน้ำหนักเป็นอุปกรณ์อีกหนึ่งชิ้นที่ผู้ออกกำลังกายจะขาดไปไม่ได้ โดยคุณสมบัติของเครื่องชั่งนอกจากจะช่วยวัดน้ำหนักแล้ว ยังบอกได้ถึงจำนวนมวลกล้ามเนื้อ ปริมาณไขมัน และอัตราการเต้นของหัวใจได้โดยการเชื่อมต่อกับแอพพลิเคชั่นผ่านสัณญาณบลูทูธ และ WiFi ได้ด้วย วางจำหน่ายอยู่ที่ราคา 149.95 ดอลลาร์สหรัฐหรือประมาณ 4,300 บาท
10. Basis Watch
นาฬิกาที่ดีไซน์ขึ้นมาสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการออกกำลังกายโดยเฉพาะ ซึ่งบนหน้าปัดแสดงทั้งตัวเลขที่ได้จากอัตราการเต้นของหัวใจ และจำนวนแคลอรีที่ถูกเผาผลาญไป ผ่านปุ่มแม่เหล็กที่ตรวจจับความร้อนบนผิวหนังในระหว่างที่ทำกิจกรรมช่วงกลางวันและขณะนอนหลับตอนกลางคืนด้วย แถมมีดีไซน์เรียบหรูน่าจับจองเป็นเจ้าของอย่างมาก ราคาขายอยู่ที่ 199 ดอลลาร์สหรัฐหรือประมาณ 5,700 บาทเท่านั้นเอง
ไม่ว่าจะออกกำลังกายหรือเล่นกีฬาที่ชอบต่างก็มีประโยชน์ทั้งนั้น และคงจะดียิ่งกว่าหากมีเครื่องวัดสักเครื่องติดตัวเอาไว้ในระหว่างทำกิจกรรมด้วย เพื่อใช้ตรวจวัดข้อมูลต่าง ๆ ซึ่งนอกจากช่วยให้ทราบจำนวนแคลอรี การระดับการเผาผลาญของร่างกายในแต่ละวันแล้ว ยังเป็นตัวบ่งบอกสุขภาพได้ด้วยว่ามีความผิดปกติหรือไม่ รู้แบบนี้แล้ว ใครชอบแบบไหนก็ลองนำไปพิจารณากันเองเองนะครับ
คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อน ๆ ได้ที่นี่
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก mybasis.com , withings.com , nznlabs.com , 4iiii.com , jawbone.com , suunto.com เเละ nike.com