เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก allthingsd.com
ณ เวลานี้ถ้าพูดถึงบริการเครือข่ายสังคมออนไลน์ (Social Network) แล้ว หลายคนคงนึกถึงเฟซบุ๊ก (Facebook) และทวิตเตอร์ (Twitter) ก่อนเป็นอันดับแรกอย่างแน่นอน เพราะทั้งสองถือว่าเป็นบริการโซเชียลเน็ตเวิร์กที่ฮิตและมีคนใช้กันมากสุดๆ แล้วในขณะนี้ แต่ยังมีอีกบริการหนึ่งที่เพิ่งเปิดให้บริการได้เพียงแค่ 2 ปี ซึ่งกำลังมาแรงและได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ก็คืออินสตาแกรม (Instagram) ที่เป็นบริการโซเชียลที่เน้นการถ่ายภาพ, แต่งภาพ แล้วแชร์ให้คนอื่นเข้ามาดู และสามารถกดไลค์หรือคอมเม้นท์ได้ ซึ่งกำลังฮิตในหมู่คนที่ชอบถ่ายรูป และเหล่าดารามาก ๆ เลยทีเดียว โดยในปัจจุบันอินสตาแกรมได้ถูกเฟซบุ๊กซื้อไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ล่าสุด ทางบริษัท comScore ซึ่งเป็นบริษัทวิเคราะห์ข้อมูลด้านการตลาดของบริษัทด้านไอทีต่าง ๆ ได้รายงานสถิติจำนวนของชาวอเมริกาที่เข้าใช้อินสตาแกรมและทวิตเตอร์ผ่านเว็บและแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟนในช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา (ไม่นับรวมผู้ที่ใช้บนเครื่องคอมพิวเตอร์) โดยในสถิติระบุว่า มีจำนวนผู้ใช้อินสตาแกรมเฉลี่ยต่อวันมากถึง 7.3 ล้านราย ซึ่งแซงหน้าทวิตเตอร์ที่มีผู้ใช้เฉลี่ยต่อวัน 6.9 ล้านรายไปเรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ ยังมีให้ข้อมูลอีกว่าผู้ใช้อินสตาแกรมใช้เวลาอยู่กับมันเฉลี่ยมากถึง 257 นาทีต่อเดือนเลยทีเดียว แต่มีผู้ใช้เวลากับทวิตเตอร์เพียง 170 นาทีต่อเดือนเท่านั้น สำหรับสถิติจำนวนผู้ใช้ต่อเดือนนั้น ทวิตเตอร์มีผู้ใช้ต่อเดือนทั้งหมด 29 ล้านราย ซึ่งยังมากกว่าอินสตาแกรมที่มีผู้ใช้ต่อเดือน 22 ล้านราย
จากสถิติทั้งหมด ทำให้เห็นได้ว่ายอดจำนวนผู้ใช้ทวิตเตอร์นั้นยังคงมากกว่าอินสตาแกรมอยู่พอสมควรเลยทีเดียว แต่ความถี่ของผู้ใช้อินสตาแกรมนั้นมากกว่า ซึ่งอาจมีสาเหตุมาจากอินสตาแกรมมีเนื้อหาทั้งหมดเป็นรูปภาพ จึงมีความดึงดูดให้คนติดตามและชอบเข้ามาดูบ่อย ๆ ทำให้ผู้ใช้ใช้เวลาในการดูรูปอยู่ในอินสตาแกรมพอสมควร แต่ทางด้านทวิตเตอร์นั้นเน้นเนื้อหาที่มีแต่ตัวอักษรล้วน ๆ และลิ้งก์รูปหรือวิดีโอไปที่เว็บอื่นมากกว่า จึงมีความดึงดูดให้คนใช้เวลากับทวิตเตอร์ค่อนข้างน้อย
อย่างไรก็ตาม ทางทวิตเตอร์ก็ไม่นิ่งนอนใจ พยายามหาทางปรับปรุงในด้านนี้อยู่เรื่อย ๆ โดยก่อนหน้านี้ทวิตเตอร์เคยพยายามเข้าซื้ออินสตาแกรมด้วย แต่ก็ไม่สำเร็จ ทำให้อินสตาแกรมตกอยู่ในมือเฟซบุ๊กไป ซึ่งในอนาคตเฟซบุ๊กจะใช้ประโยชน์จากอินสตาแกรมอย่างไร และอินสตาแกรมจะแซงหน้าทวิตเตอร์ไปได้ขนาดไหน คงต้องรอดูกันต่อไปครับ
