หนุ่ม ๆ คนไหนที่รู้ว่าตัวเองมีน้ำหนักค่อนข้างมากแบบเรียกได้ว่าเข้าขั้นอ้วน แล้วคิดไปเองว่ายังไงก็ไม่สามารถลดความอ้วนเพื่อให้มีรูปร่างที่ดูดีเหมือนเมื่อก่อนได้ เลยไม่เริ่มเปลี่ยนตัวเองสักที
ต้องบอกก่อนเลยว่าเราเป็นคนอ้วนแต่เด็กและไม่คิดว่าตัวเองจะลดน้ำหนักได้ด้วย แม้ว่าทางครอบครัวจะบอกให้ลดหลายครั้ง แต่ก็ไม่สนใจ แถมยังเป็นคนที่มีความสุขกับการกินมากอีกต่างหาก ทว่าการเห็นตัวเองในกระจกบ่อย ๆ มีคนทักว่าอ้วนบ้าง ไปไหนก็มีแต่คนถามเรื่องน้ำหนักบ้าง บวกกับโดนเท ยิ่งทำให้รู้สึกหงุดหงิดเข้าไปใหญ่ สิ่งเหล่านี้จึงกลายเป็นจุดเปลี่ยนให้ผมเริ่มลดน้ำหนักอย่างจริงจัง แต่ก่อนที่จะลงมือออกกำลังกาย บอกเลยว่าลองมาหมดแล้ว ทั้งยาลดความอ้วนกับอาหารเสริมที่ว่าดี ก็กลับไม่เห็นผลเท่าที่ควร แม้น้ำหนักจะลดไป 3-4 กิโลกรัม แต่พอหยุดกิน น้ำหนักก็ขึ้นมาเท่าเดิมหรือมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ
ขณะที่วิธีลดน้ำหนักของเรานั้น สิ่งที่ทำเป็นอันดับแรกคือการตั้งเป้าหมายให้รอบเอวลดเหลือ 30 นิ้ว และน้ำหนักเหลือ 70 กิโลกรัม จากนั้นก็งดกินอาหารเย็นไปเลย โดยในช่วงเดือนแรกเป็นอะไรที่ทรมานมาก แต่บอกเลยว่าจริง ๆ แล้ว คนที่อยากลดน้ำหนักควรกินอาหารเบา ๆ เช่น สลัดและผลไม้ ไม่ใช่งดกินมื้อเย็น ซึ่งเราเข้าใจผิดว่าการไม่กินข้าวเย็นจะช่วยลดน้ำหนักได้
ต่อมาก็ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอควบคู่กันไป โดยเข้าฟิตเนสแถวบ้านช่วง 17.00-19.00 น. เป็นประจำ โดยช่วงแรกจะเดินเร็วเป็นหลักประมาณ 30 นาที จึงค่อย ๆ เพิ่มความเร็วและพัฒนาเป็นการวิ่ง จนกลายเป็นเน้นวิ่งมากกว่า แต่ก็ทำสลับกันไป รวมถึงฝึกท่าออกกำลังกายที่เจอบนอินเทอร์เน็ต ถ้าวันไหนเบื่อเข้าฟิตเนส ก็จะชวนเพื่อนไปวิ่งตามสวนสุขภาพ ว่ายน้ำ และตีแบดแทน รวมถึงเข้าคอร์สต่อยมวย ซึ่งเป็นวิธีที่ช่วยเบิร์นได้ดี ส่วนเวทไม่ค่อยเล่นเท่าไร เพราะกลัวยกผิดท่า แต่จริง ๆ แนะนำเลยว่าควรยกเวทด้วย เพื่อให้กล้ามเนื้อกระชับขึ้น
ส่วนในเรื่องการกิน เราหาข้อมูลเกี่ยวกับอาหารลดความอ้วนจากอินเทอร์เน็ตเช่นกัน จากนั้นไม่ว่าจะกินอะไร ก็จะนับแคลอรีไม่ให้เกิน 1,500 แคลอรีต่อวัน เวลาเข้าร้านอาหารตามสั่ง ก็จะเอาข้าวน้อย ๆ ไม่เพิ่มไข่ดาว หรือกินสุกี้ที่เน้นแต่ผัก พอถึงช่วงปิดเทอมก็ลองทำอาหารกินเองบ้าง เพราะเรารู้ว่าควรใส่อะไรลงไป แต่ทำได้ไม่นาน เพราะรสชาติไม่ค่อยโดน ต่อมาก็ลองกินสลัดที่ใส่น้ำสลัดแคลอรีต่ำ จากคนที่ไม่ชอบสลัดเลย แต่ตอนนี้กลายเป็นของโปรดไปซะแล้ว
ไม่เพียงแค่นั้นเรายังเปลี่ยนพฤติกรรมการกินของตัวเอง ห้ามใจไม่กินของจุบจิบ งดอาหารจำพวกแป้ง ของทอด ของมัน ของหวาน อาหารรสเค็ม และน้ำอัดลม รวมถึงพยายามลดอาหารมื้อหนักอย่างบุฟเฟ่ต์ด้วย แต่ไม่ใช่เลิกกินเลยนะ แค่ลดเหลือเดือนละครั้ง เหมือนเป็นการให้รางวัลตัวเอง หรือถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ควรกิน นับตั้งแต่เริ่มลดน้ำหนักจากวันแรกจนเวลาผ่านไป 6 เดือน จากเดิมที่้เคยหนักถึง 116 กิโลกรัม ตอนนี้ลดลงเหลือประมาณ 68 กิโลกรัม สรุปว่าน้ำหนักหายไปเกือบ 50 กิโลกรัมเลยทีเดียว !
ถึงทุกคนที่อยากลดความอ้วน ทุกอย่างมันเริ่มที่ตัวเอง ให้คิดว่าทำเพื่อสุขภาพและอนาคตของเรา ต้องใจแข็งให้มาก ๆ ห้ามยอมแพ้ ต้องสตรองเข้าไว้ครับ เราเชื่อว่าทุกคนทำได้แน่นอน
เห็นอย่างนี้แล้ว ต้องบอกเลยว่าสุดยอดจริง ๆ ที่สามารถลดน้ำหนักไปได้เยอะขนาดนี้ภายในเวลาแค่ครึ่งปี หากเพื่อน ๆ คนไหนที่อยากลดน้ำหนักให้สำเร็จดูบ้าง ก็ลองนำวิธีข้างต้นของหนุ่มรายนี้ไปปรับใช้กันได้เลยครับ :D
ขอบคุณภาพประกอบจาก สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอมหมายเลข 2373580
