เปิดภาพ เจมี่ เรนส์ หนุ่มข้ามเพศถ่ายภาพเซลฟี่ทุกวัน นานร่วม 3 ปี บันทึกการแปลงจากหญิงกลายเป็นชาย หลังเริ่มรับฮอร์โมนเพศชาย
เรียกได้ว่าเป็นชุดภาพแห่งความเปลี่ยนแปลงที่น่าอัศจรรย์เป็นอย่างมาก เมื่อ เจมี่ เรนส์ ชายข้ามเพศวัย 21 ปี ได้ตัดสินใจถ่ายเซลฟี่เพื่อบันทึกภาพการเปลี่ยนแปลงของตัวเอง จากวันที่เป็นหญิงสู่วันที่กลายเป็นชายหลังได้รับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน หรือฮอร์โมนเพศชายในตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา
โดยจากคลิปที่เว็บไซต์ buzzfeed นำมาเปิดเผยเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2558 เราจะได้พบกับภาพของ เจมี่ นับตั้งแต่วันแรกที่เขาเริ่มรับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน ในตอนที่มีอายุ 18 ปี กับการเปลี่ยนแปลงทีละเล็กละน้อย ทั้งลักษณะกล้ามเนื้อ เสียง โครงหน้า เคราบนใบหน้า กระทั่งถึงภาพล่าสุดหลังจากเวลาผ่านไป 3 ปี
เจมี่ เปิดเผยว่า เดิมทีเขาตั้งใจจะถ่ายภาพบันทึกการเปลี่ยนแปลงนี้เพียงปีเดียว แต่พบว่าตัวเองยังไม่มีหนวดเครา เลยตัดสินใจทำมันต่อ กระทั่งเข้าสู่ปีที่ 2 เขาก็เริ่มสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงของตัวเองมากขึ้น ทั้งรูปหน้าที่ยาวขึ้น ไม่มีแก้มนิ่ม ๆ แบบผู้หญิง เสียงของเขาได้เปลี่ยนไปแล้ว และจากนั้นก็เริ่มมีหนวดเคราขึ้นจนได้
เพื่อแสดงให้เห็นความเปลี่ยนแปลงอย่างชัด ๆ เจมี่ยังได้หยิบชุดที่เคยใส่ถ่ายภาพในวันแรก มาสวมแล้วถ่ายภาพซ้ำอีกครั้งเพื่อเปรียบเทียบตัวเองในอดีตกับปัจจุบัน แถมยังได้นำภาพเซลฟี่ 1,400 ภาพมารวมเข้าเป็นคลิปสั้น ๆ เพื่อให้ชาวเน็ตได้ชมกัน ซึ่งคลิปดังกล่าวก็ได้รับความสนใจจากชาวเน็ตเป็นอย่างมาก แถมยังสามารถดึงความสนใจจากโปรดิวเซอร์ของรายการทีวี จนมีการนำคลิปของเขามาออกอากาศในส่วนหนึ่งของสารคดีชายข้ามเพศอีกด้วย
ทั้งนี้เมื่อย้อนถามไปถึงเหตุผลที่เขาเริ่มถ่ายเซลฟี่ เจมี่เผยว่า เขาเริ่มทำมันเพื่อดูว่าฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนจะสามารถเปลี่ยนแปลงใบหน้าของเขาได้มากขนาดไหน หากมีคนเห็นว่ามันเปลี่ยนก็ดี แต่จริง ๆ เขาก็เพียงอยากบันทึกเป็นสารคดีการเปลี่ยนแปลงของตัวเองเท่านั้น จะเห็นได้ว่าในช่วง 6 เดือนเราจะแทบไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงอะไร แต่แล้วมันก็ค่อย ๆ เพิ่มมากขึ้น และเขาก็คิดว่าจะยังถ่ายภาพเซลฟี่ไปเช่นนี้อีกหลายปี
เจมี่ยังเผยว่า ในตอนแรกที่เริ่มใช้ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน เขาไม่ได้คาดหวังหรือจินตนาการนักว่าหน้าของตัวเองจะออกมาเป็นแบบไหน เพราะผลของยาในแต่ละคนมีความแตกต่างกันไป บางคนมีเคราขึ้นตั้งแต่ 6 เดือนแรก ขณะที่บางคนไม่มีเลย อย่างไรก็ตามเขารู้สึกตื่นเต้นทุกครั้งที่เห็นการเปลี่ยนแปลงของตัวเอง และก็รู้สึกชอบในสิ่งที่ตัวเองเป็นในขณะนี้
สำหรับการเปลี่ยนแปลงของเสียง เจมี่เผยว่า มันจะค่อยเป็นค่อยไปใน 6 เดือนแรก ในช่วง 1-2 เดือนหลังใช้ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน มันจะยังไม่เปลี่ยนนัก แต่เสียงจะเริ่มทุ้มลงในเดือนที่ 3 จนเข้าเดือนที่ 4 มันก็ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น และเปลี่ยนไปอย่างสมบูรณ์ในเดือนที่ 6 อย่างไรก็ตามแม้ว่าฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนจะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางด้านเสียงและรูปลักษณ์ภายนอก รวมถึงทำให้เขารู้สึกอ่อนไหวน้อยลง แต่เจมี่ยืนยันว่ามันไม่ได้ส่งผลกระทบต่อตัวตนของเขาแต่อย่างใด
เมื่อถามความรู้สึกของคนรอบข้างในการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ เจมี่เผยว่า ทุกคนในครอบครัวรวมถึงแฟนสาวของเขาให้การสนับสนุนเป็นอย่างดี และพวกเขาก็ตื่นเต้นมากในการเปลี่ยนแปลงที่ผ่านมา แม่ของเขาก็รู้สึกโอเคกับมัน เธอบอกว่านี่คือสิ่งที่เขาควรจะเป็น แม่ไม่ได้รู้สึกเหมือนสูญเสียลูกสาว เพราะเขายังเป็นลูกของเธอ เพียงแค่เปลี่ยนเป็นลูกชายเท่านั้น
ทั้งนี้เพื่อการเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างสมบูรณ์ เจมี่ได้บอกแม่ถึงความต้องการที่แท้จริงของเขาตั้งแต่อายุ 17 ก่อนจะเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์ คลินิกด้านเพศ ตลอดจนใช้ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนภายใต้ความดูแลของแพทย์เอกชน และเข้ารับการผ่าตัดหน้าอกออกหลังเริ่มใช้ฮอร์โมนได้ 6 เดือน อย่างไรก็ตามสำหรับคนที่ต้องการเป็นคนข้ามเพศ หรือคิดจะใช้ฮอร์โมน เขาขอแนะนำว่าสิ่งที่ต้องมีก็คือความอดทน และจะเยี่ยมมากหากสังคมรอบข้าง ครอบครัว และเพื่อน ๆ ให้การสนับสนุน ในตอนแรกมันอาจดูเหมือนนาน แต่เมื่อมันเริ่มแล้วมันก็จะเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว
เจมี่ยังได้เผยอีกว่า ในตอนนี้ทุก ๆ คนมักจะประหลาดใจเสมอเมื่อเขาบอกใคร ๆ ว่าตัวเองเป็นชายข้ามเพศ แม้แต่ตอนไปสมัครงานเมื่อไม่นานมานี้ เจ้าหน้าที่ยังนึกว่าเขาต้องการจะเปลี่ยนจากชายมาเป็นหญิงด้วยซ้ำ
world_id:561727174d265a5d3a8b4588
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Jamie Raines, คุณ Channel 4 สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม
