อดีตเด็กฝรั่งอ้วนฉุ กลายเป็นหนุ่มหล่อหุ่นเป๊ะ
เกริ่นนำโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณเปปเปอร์ สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
แชร์ประสบการณ์การลดน้ำหนักของหนุ่มลูกครึ่ง จากอดีตเด็กอ้วนสู่การเป็นหนุ่มหุ่นดี
ใครที่กำลังท้ออยู่กับการลดน้ำหนักละก็ ลองมาดูเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงของหนุ่มหล่อลูกครึ่งไทย-อังกฤษคนนี้ก่อนดีกว่า เผื่อว่าจะช่วยเป็นกำลังใจและสร้างแรงฮึดให้ลดน้ำหนักได้สำเร็จ ซึ่งประสบการณ์การลดน้ำหนักในวันนี้เป็นเรื่องของ คุณเปปเปอร์ สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม โดยเจ้าตัวได้ตั้งกระทู้ชื่อ HOW: จากเด็กฝรั่งดองสุดอ้วน สู่ความใฝ่ฝันว่าสักวัน "ฉันจะต้องผอม" เอาไว้ เราลองไปดูพร้อม ๆ กันเลยดีกว่าว่า หนุ่มหน้าเข้มคนนี้เขามีเคล็ดลับอะไรบ้าง
ผมมีหลายชื่อ แต่จริง ๆ แล้วชื่อเล่นของผมคือ "เปปเปอร์" หรือเรียกสั้น ๆ ว่า "เปอร์" เป็นลูกครึ่ง ไทย-อังกฤษ ปัจจุบันผมอายุ 18 ปี ย้ายมาอาศัยอยู่ที่ประเทศlสวีเดน เมื่อ 5 ปีที่แล้ว (ปี 2009)
ตั้งแต่เด็กจนโต ผมมีน้ำหนักค่อนข้างที่จะเกินมาตรฐานกว่าเด็กทั่ว ๆ ไป วิเคราะห์ว่าน่าจะเป็นเพราะกรรมพันธุ์ทางฝ่ายพ่อและแม่ของผมนั่นเองเพราะญาติ ๆ ก็ค่อนข้างจ้ำม่ำกันทั้งนั้น แม่ก็อ้วนสมัยสาว ๆ แต่ตอนนี้ผอมแล้ว พ่อของผมก็อ้วนแถมไม่สูงด้วย ผมเกิดมาในรูปร่างลักษณะที่อ้วน พอผมโตมาขึ้นอนุบาลหุ่นก็ปกติขึ้นหน่อย จะมาเริ่มอ้วนมากอีกทีตอนประถมปลาย ชีวิตผมผ่านช่วงอ้วนผอมมา 2-3 ครั้งแล้ว และจะไม่ยอมให้อ้วนแบบที่เคยเป็นมาอีก
มันมีจุดเริ่มต้นจากร้านหมูกะทะสมัย ป.2 ผมเห็นญาติผมนั่งย่างมันหมูกินก็เลยลองทำตาม หลังจากนั้นติดใจไปกินทีไรเป็นต้องตักมันหมูมาไว้ก่อนเลย ความต้องการอยากอาหารเริ่มเพิ่มขึ้นทุกวันจนฉุดไม่อยู่ ช็อกโกแล็ตแพ็คใหญ่ไม่ถึง 2 วันหมด ไอศกรีม, ขนมหวานลอดช่อง, ทับทิมกรอบ, ชาไข่มุก, บวชฟักทอง, น้ำแข็งใส และของหวานกะทิตอนเย็นเป็นต้องซัดทุกวัน ผมยอมรับว่าฟินเป็นที่สุดและไม่มีอะไรให้ความสุขกับผมได้มากไปกว่าการที่ได้ลิ้มรสชาติอาหารและขนมหวานมันไปอีกแล้ว
และแล้วเปอร์ก็เริ่มโตขึ้น ปริมาณการกินก็เพิ่มขึ้นทวีคูณ (รูปข้างบนนี้ตอน ป.6) มีช่วงหนึ่งที่แอบอยากผอมเพราะในห้องมีแต่เพื่อนหุ่นผอม ๆ กันทั้งนั้น ส่วนอีกเหตุผลคือตัวเองก็ดันแอบชอบคน ๆ หนึ่งในห้องด้วย หัวหน้าห้องอย่างเราจ้ำม่ำวิ่งไม่ทันเพื่อนก็อายเขา จากคำดูถูกสบประหม่าสนุกปากของคนรอบกายบางคนก็จุดประกายให้อยากผอมลงบ้าง ตอนนั้นน้ำหนักประมาณ 67 กก. สูง 150-160 ซม. ก็เริ่มจากการกระโดดตบ 100 ครั้ง แบ่งเป็น 2 เซตที่บ้าน แต่ก็ทำได้แค่ 4 วัน เจริญพร ! แล้วก็เฮ้ย ! เลิก ๆ เหนื่อย ๆ อยากเติมพลังก็ไปซื้อขนมช็อกโกแล็ตแท่งมากิน 10-20 แท่ง ปิดท้ายด้วยเต้าหู้นมสดซดระหว่างดึก จนกระทั่งเปอร์ย้ายมาที่สวีเดนเมื่อตอนอายุ 13 ปี จุดเปลี่ยนของชีวิตก็ได้เกิดขึ้น….
เขาว่ากันว่าเด็กไทยส่วนใหญ่ที่ย้ายไปอยู่ต่างประเทศจะเจริญอาหารเพราะ ชีส นม เนย ช็อกโกแล็ต มันถูกต้องแล้วครับ แต่หนึ่งในนั้นไม่ใช่ผมแน่นอน ผมกินหมดชีสเชิสขนมมันนมเนย แต่สุดท้ายก็หยุดไปเพราะไม่ไหวกับมัน เบื่อมากเลย และแล้วเปอร์นึกอะไรขึ้นมาได้ว่าโอเคนะ ในเมื่ออยู่ในวัยกำลังโต ยังไงก็จะสูงขึ้นเรื่อย ๆ อยู่แล้ว งั้นกินเท่าเดิมดีกว่าปล่อยมันสูงไปจะได้ดูผอม 5555 ไม่รู้มีใครคิดแบบเรารึเปล่า และส่วนสูงก็เพิ่มขึ้นจริง ๆ แต่น้ำหนักไม่เปลี่ยนแปลงเลยทั้ง ๆ ที่ไม่ออกกำลัง (แต่พุงยังอยู่เพราะไม่ยอมออกกำลังกายกระชับ) หน้าผมเริ่มซูบซีด เหนื่อยมากทรมานจริง ๆ กับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตัวเองในช่วงเดือนแรก ๆ ก็มีแอบกินเยอะบ้าง
ปี 2011 เปอร์กลับไปประเทศไทยเป็นครั้งแรกหลังจากที่มาสวีเดน เปอร์ตื่นเต้นมากดีใจที่จะได้กินของอร่อย ๆ อีก ซึ่งนาทีแรกที่ก้าวออกมาจากประตูก็มีญาติ ๆ ยืนรอ พวกเค้ามองหาเปอร์ แต่พวกเขาจำเปอร์ไม่ได้ !! เพราะเปอร์ผอมลงมาก รู้สึกแบบเราลบคำสบประหมาดของคนอื่นได้แล้ววววว
แล้วก็กลับมาสวีเดนอีกครั้ง เนื่องจากกลับไปไทยเปอร์ได้ไปเห็นคนเขาแต่งตัวดูดีกันจังเลย มีแฟชั่นในหัวกันทุกคนก็เลยตัดสินใจปฎิวัติตัวเองครั้งใหญ่ อันดับแรกเอาลุคเฉิ่ม ๆ ออก โดยเปลี่ยนจากแว่นเป็นคอนแทคเลนส์เพราะรอยแว่นกดร่องจมูก ตัดผมบ่อยขึ้น ลองทรงผมใหม่ ๆ แอบหัดเซตบ้าง และถอนขนคิ้วเพื่อจัดทรง เนื่องจากเปอร์เป็นคนคิ้วหนามาก
คราวนี้เพื่อน ๆ ชวนเข้ายิม คาร์ดิโอ กินโปรตีน เปอร์เล่นบ้างไม่เล่นบ้าง อยู่ประมาณ 4-6 เดือน อาหารที่ทานก็มีประโยชน์มากขึ้น รู้สึกว่าภูมิใจมากที่วิ่งทุกครั้งเกิน 30 นาที ดีใจมากที่เล่นเวททุกครั้งจนแขนขาลากดินเดินกลับบ้านแทบไม่ไหว เพราะใช้แรงไปหมดจดจริง ๆ ผลออกมาก็รู้สึกสุขภาพดี กระชับ ไม่เหนื่อยระหว่างวัน หลับเร็วขึ้น เปอร์รู้สึกว่าแน่นขึ้นแต่หลังจากนั้นได้ไม่นานก็เลิกเล่นเพราะมีปัจจัยหลาย ๆ อย่างที่เข้ามา...
อาหารด้านบนนี้ไม่ได้เอามาจากไหนเลย เพราะมันคืออาหารที่เปอร์ปรุงแต่งมันขึ้นมาเองกับมือ ส่วนใหญ่จะเน้นโปรตีนและผักเป็นหลัก ส่วนคาร์โบไฮเดรตจะลดเลย และที่สำคัญ น้ำมัน จะหลีกเลี่ยงแต่ก็ไม่ถึงกับหยุดไปเลย
เมนูของเปอร์จะเป็นคนคิดสูตรขึ้นมาระหว่างทำเลย
อกไก่อบ ไม่หนัง ไม่ก้น ไม่มัน
คีนัวดำแทนคาร์โบไฮเดรตบ้างเพราะเป็นธัญพืชที่ให้ไฟเบอร์ค่อนข้างสูง
ผักเขียว ซุปเห็ดหอม
ธัญญาพืชบดรวมทำเป็นเหมือนอาหารเสริมเนสวีต้า ใส่กลิ่นวนิลาบ้าง น้ำตาลบ้างว่ากันไป
วิตามินซีบ้าง แคลเซียมบ้าง น้ำมันปลา น้ำมันตับปลา นม (หลังๆเปลี่ยนเป็นนมถั่วเหลืองเพราะได้ความรู้ใหม่มาว่าผลิตภัณฑ์จากวัวเป็นสาเหตุของการเกิดสิวได้)
*จงจำไว้ว่า ทุกอย่างมีทั้งประโยชน์และก็โทษ ห้ามทานวิตามินมากเกินไป เพราะอาจทำให้ร่างกายผิดปกติได้ครับ ไม่ใช่ทานเยอะแล้วจะเห็นผลเร็ว มันมีค่าปริมาณที่ควรได้รับต่อวัน RDI ลองหาดูนะ)
ใกล้แล้ว!!! ใกล้จะถึงเวลากลับไทยรอบที่ 2 หลังจากที่มาอยู่แล้ว เพราะเปอร์กลับไทยทุก ๆ 2 ปี ณ ช่วงหนึ่งในปี 2013 ก่อนจะปิดเทอม 3 เดือนก็ได้เลิกเล่นยิมไปเลย เพราะมีอะไรหลายอย่างมากและภาพช่วงราว ๆ วาระสุดท้ายในยิมของเปอร์ก็คือภาพข้างบนนี้ วิ่งทุกครั้งเกิน 30 นาที เฉลี่ยนสัปดาห์ละ 3 ครั้ง + ยกเวทมาอย่างมั่วบ้างมีพี่ ๆ ฝรั่งมาช่วยบ้าง แต่...ปัจจุบันนี้หุ่นไม่เป็นอย่างงี้แล้วเพราะไม่ได้เล่น เพราะเรียนค่อนข้างจะหนัก งานก็เยอะมากเลยครับ
จนสุดท้าย!! ท้ายสุด เปอร์ก็กลับมาเป็นหุ่นที่ปกติ มีพุงบ้างแต่มองเผิน ๆ ไม่ได้อ้วน แถมดูผอมไปด้วยซ้ำ ณ ปัจจุบันเปอร์ก็ยังนับแคลอรี่ ไม่ทานไอศกรีม ของหวาน คุ้กกี้เป็นเรื่องเป็นราว แต่จะหันมาทานเนื้อ ผัก และผลไม้แทน
ณ ตอนนี้ทำอะไรบ้าง
ไม่ได้ออกกำลังกาย
ควบคุมอาหาร
ไม่กินจุกจิก ไม่แตะขนมหรือเบเกอรี่ทุกชนิด ยกเว้นโอกาสงานเลี้ยงงานสังสรรค์ ช่วงธรรมดาทานเฉลี่ยสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง
เวลาหิวดึกและทนไม่ไหวจริง ๆ จะดื่มนมถั่วเหลืองชนิดไขมันต่ำมาก 0.8% และไม่มีน้ำตาล 1 แก้ว 70 แคลอรี่เอง เทียบกับแบบมีน้ำตาล 1 แก้วปาเข้าไป 100 แคลอรี่ หรือทานแอปเปิล 1 ผล = 40-60 แคลอรี่
เน้นอาหารที่ให้โปรตีน เช่น เนื้อ เป็นต้น
ลดปริมาณคาร์โบไฮเดรตเช่น ข้าว แป้ง ออกจากมื้ออาหารและสมทบด้วยโปรตีน+ผักแทนส่วนที่เอาออกไป
การประกอบอาหารชนิดผัดจะใส่น้ำมัน 1/2 ช้อนโต๊ะเท่านั้น ไม่ว่าจะผัดเยอะผัดน้อยก็ตาม
ทานเนยถั่วตอนเช้า 1/2 ช้อนโต๊ะกันหิวระหว่างอาหารเที่ยง เพราะมันมีส่วนช่วยทำให้รู้สึกอิ่มถึงจะเป็นไขมันก็เถอะ คอนเฟิร์ม
วิตามินอย่าเยอะไม่ดี
ห้ามอดอาหาร เพราะร่างกายจะเข้าสู่ Save mode การทำงานและระบบการเผาผลาญจะรวน เพราะร่างกายจะตอบสนองอัตโนมัติว่าอาหารไม่ตกถึงท้อง จึงเปลี่ยนเข้าสู่โหมดกักเก็บพลังงาน ยิ่งกินยิ่งเก็บสะสมเอาไว้ในรูปแบบไขมัน เพราะร่างกายกลัวว่าจะไม่มีอะไรมาตกลงท้องอีกจึงเอาแต่เก็บแล้วก็เก็บสะสม ----> ทำให้กระบวนการเผาผลาญในร่างกายทำงานด้อยลง ----> กินไปก็มีแต่จะเก็บและอ้วนภายในที่สุด
ดังนั้น... หันมาทานจาก 3 มื้อ ให้เป็น 6-7 มื้อ โดยระหว่างมื้อใหญ่ให้กินผลไม้ 1 ผล หรือนม 1 แก้ว เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายเกิดการเผาผลาญอยู่ตลอดเวลา ร่างกายคนเวลาอะไรตกถึงท้องก็จะเผาผลาญอัตโนมัติ อันนี้เปอร์ทำตลอด
หลาย ๆ รูปสังเกตได้ว่า คนที่ผอมโดยไม่ออกกำลังกายแก้มจะยุ้ยครับ ดูเปอร์เวลายิ้มแล้วจะบานเลย (ไม่ชอบ) 555
ยังไงเปอร์หวังว่ากระทู้นี้จะเป็นกำลังใจให้กับใครอีกหลาย ๆ คนที่อยากลดน้ำหนักนะครับ เปอร์อ้วน ๆ ผอม ๆ จนชินแล้ว รู้ว่าจะห้ามตัวเองยังไง แต่หากมีโอกาสจะกลับไปเล่นยิมแน่นอนจะเอาให้กล้ามแตกเลยทีเดียว โชคดีนะครับ