
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก fifa, nike เเละ adidas
ขยับเข้ามาใกล้ทุกทีแล้วสำหรับมหกรรมดวลแข้งรายการฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง ศึกฟุตบอลโลกปี 2014 (World Cup 2014) ซึ่งจะจัดขึ้นที่ประเทศบราซิล และเพื่อให้อินกับกระแสบอลโลกที่กำลังมาอยู่ในขณะนี้ กระปุกดอทคอมเลยรวบรวมชุดแข่งของบรรดาทีมที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายมาให้แฟนบอลได้ชม เป็นการอุ่นเครื่องล่วงหน้าก่อนที่การแข่งขันจะเปิดฉากในปีหน้า มาดูกันหน่อยดีกว่าว่าชุดแข่งของชาติใดจะสวยสดงดงามโดนใจคุณกันบ้าง



























ซามูไรสีน้ำเงินเป็นหนึ่งในความภูมิใจของชาวเอเชีย โดยในครั้งนี้ อาดิดาสยังคงเป็นผู้ดูแลชุดแข่งของพวกเขาเช่นเดิม ทีมชาติญี่ปุ่นยังคงใช้เสื้อและกางเกงสีน้ำเงินอันเป็นเอกลักษณ์ของพวกเขา แต่เพิ่มความโดดเด่นด้วยแถบสีฟ้าสะท้อนแสงที่พุ่งออกมาจากสัญลักษณ์ของทีมบนอกซ้าย ปลายแขนเสื้อ และขากางเกงสะดุดตาด้วยสีส้ม นอกจากนี้ ด้านหลังยังเพิ่มความพิเศษด้วยแถบเส้นลายพู่กันสีส้ม เติมเต็มเอกลักษณ์ของชาติได้อย่างลงตัว



แข้งแดนจิงโจ้ได้เผยชุดแข่งขันฟุตบอลโลกของพวกเขาออกมาแล้วเช่นกัน โดยมาในเสื้อสีเหลืองตกแต่งด้วยคอปกและปลายแขนเสื้อสีเขียว พร้อมกางเกงสีเขียว ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศเมื่อปี 1974 ซึ่งถึงแม้พวกเขาจะแพ้แต่ก็สร้างความประทับใจได้ไม่น้อย อีกทั้งในปกเสื้อยังมีข้อความของกัปตันทีมในการแข่งขันครั้งนั้นว่า We Socceroos can do the impossible ซึ่งก็ต้องดูกันต่อไปว่า ทีมออสซี่จะสร้างผลงานอันน่าทึ่งได้หรือไม่



ชุดแข่งใหม่ล่าสุดของทีมโสมขาวออกแบบและใช้เทคโนโลยีจาก ไนกี้ (Nike) โดยยังคงใช้เสื้อสีแดงเป็นหลัก เสริมด้วยแถบแขนสีน้ำเงิน คอปกแนบชิดติดคอ พร้อมด้วยกางเกงสีน้ำเงิน และถุงเท้าสีแดง ซึ่งนักออกแบบได้แรงบันดาลใจมาจาก แทกึก หรือรูปหยินหยางสีแดงและน้ำเงินบนธงชาติ แสดงถึงความสมดุลและกลมกลืนกันอันเป็นเอกลักษณ์ที่พาเกาหลีใต้คว้าชัยชนะในหลาย ๆ การแข่งขันที่ผ่านมา รวมทั้งในคอปกเสื้อยังมีตัวอักษรเกาหลี ซึ่งแปลว่าจิตวิญญาณนักสู้ เพื่อให้นักบอลแดนกิมจิฮึกเหิมเพื่อคว้าชัยในการแข่งขัน
โครเอเชีย


ชุดแข่งตราหมากรุกของทีมโครแอตในการแข่งขันครั้งนี้ ผลิตโดยไนกี้ (Nike) ผู้ผลิตอุปกรณ์กีฬารายใหญ่ โดยเปิดตัวครบถ้วนทั้งชุดเหย้าและชุดเยือน แน่นอนว่าชุดเหย้าของพวกเขาจะต้องเป็นเสื้อตราหมากรุกสีแดง ส่วนแขนเสื้อเติมเต็มด้วยสีแดงสด ภายในเสื้อบริเวณคอมีข้อความเขียนว่า Budi Ponosan ซึ่งหมายความว่า จงภูมิใจในชาติของตน จับคู่กับกางเกงสีขาวและถุงเท้าสีน้ำเงิน ส่วนชุดเยือนทีมโครแอตยังคงเลือกใช้สีน้ำเงินเป็นหลักทั้งเสื้อ กางเกง และถุงเท้า แต่เติมแถบลายหมากรุกสีแดงที่หัวไหล่และด้านข้างของกางเกง เรียกได้ว่าเป็นรูปแบบดั้งเดิมที่แฟนบอลคุ้นเคย
อิตาลี


ทีมอัซซูรีเลือกให้พูม่า (Puma) ผู้ผลิตอุปกรณ์กีฬาชื่อดังผลิตและออกแบบชุดแข่งทั้งเหย้าและเยือน โดยชุดเหย้ามาพร้อมเสื้อคอปกสีน้ำเงินตกแต่งด้วยเส้นเว้าเข้าลำตัวสีขาว ปลายแขนมีสีธงชาติอิตาลีประกอบด้วยเขียวขาวแดง ส่วนหน้าอกมีตราสโมสรและโลโก้พูม่าสีเหลืองทอง เสื้อดังกล่าวจับคู่กับกางเกงสีขาวและถุงเท้าสีน้ำเงินขอบบนขาว ทางด้านของชุดเยือนอิตาลีเลือกใช้สีขาวตกแต่งด้วยเส้นตั้งสีน้ำเงิน ส่วนเส้นเว้าข้างใช้เป็นสีธงชาติ ปลายแขนใช้สีน้ำเงิน ซึ่งเสื้อเยือนจับคู่กับกางเกงสีน้ำเงินและถุงเท้าสีขาวขอบบนสีน้ำเงิน เรียกได้ว่าเห็นสีเห็นชุดนี้แล้ว ต้องจำกันได้แน่ ๆ ว่านี่คือยอดทีมแดนมักกะโรนี เพราะพวกเขาเลือกใช้สีที่แฟนบอลคุ้นเคยทั้งนั้น
สหรัฐอเมริกา


สหรัฐฯ เป็นอีกทีมหนึ่งที่ทะลุเข้ารอบสุดท้ายของฟุตบอลโลกอยู่บ่อยครั้ง และแน่นอนว่า ชุดแข่งของพวกเขาจะต้องเป็นฝีมือการออกแบบจากไนกี้ (Nike) แบรนด์เครื่องกีฬาชั้นนำของสหรัฐฯ โดยชุดแข่งของพวกเขาเป็นเสื้อคอโปโลในสีขาวคาดเส้นสีเทา ปลายแขนและคอปกสีแดง จับคู่กับกางเกงสีขาวติดแถบสีแดงด้านข้างและถุงเท้าสีขาว ซึ่งทั้งหมดได้แรงบันดาลใจมาจากชุดกีฬาในสมัยก่อนของชาวสหรัฐฯ โดยชุดดังกล่าวยังถูกออกแบบมาเพื่อทีมฟุตบอลหญิง ฟุตบอลเยาวชน หรือแม้แต่รุ่นยุวชนด้วย
โปรตุเกส



โปรตุเกสเลือกให้ไนกี้ (Nike) เป็นผู้ผลิตชุดสำหรับแข่งขันในปีนี้ โดยยังคงเลือกใช้เสื้อคอวีโทนสีแดง ออกแบบผสมผสานระหว่างสีแดงสดกับสีแดงเลือดหมูอย่างลงตัว คอเสื้อมีสีเขียวอยู่ด้านใน ที่หน้าอกมีตราสัญลักษณ์ของทีม ปักปี 1914 และ 2014 ซึ่งเป็นปีก่อตั้งทีมและปีการแข่งขันซึ่งครบรอบ 100 ปีพอดี จับคู่กับกางเกงและถุงเท้าสีเลือดหมู ด้านชุดเยือนเน้นดีไซน์คลาสสิกทั้งรูปแบบและสีสัน ตัวเสื้อใช้สีขาว คอปกและปลายแขนสีน้ำเงิน ส่วนกางเกงสีน้ำเงิน และถุงเท้าสีขาว เสื้อเป็นแบบคอกลมมีกระดุมยาวลงมาถึงหน้าอก
แคเมอรูน


ทีมหมอผีได้ชุดแข่งใหม่ล่าสุดจากพูม่า (Puma) ผู้ผลิตอุปกรณ์กีฬาจากประเทศเยอรมนี ซึ่งชุดเหย้าของพวกเขายังคงเป็นเสื้อสีเขียวจับคู่กับกางเกงสีแดงและถุงเท้าสีเหลือง ส่วนชุดเยือนเป็นเสื้อสีเหลือง กางเกง เขียวและถุงเท้าสีแดง โดยจุดเด่นของชุดทั้งสองนอกจากสีสันที่สดใสแล้ว ยังมีลวดลายในแบบชนเผ่าพื้นเมืองของแอฟริกาอยู่บนเสื้อ เป็นรูปสิงโตพร้อมข้อความภาษาฝรั่งเศสว่า Les Lions Indomptable แปลว่า สิงโตผู้กล้าหาญ ซึ่งเป็นฉายาของทีมชาติแคเมอรูน ส่วนที่หน้าอกก็มีตราสัญลักษณ์ทีมชาติ และรูปสิงโตที่เป็นเอกลักษณ์ของพวกเขาด้วย
อุรุกวัย


ชุดแข่งของทีมจอมโหดอุรุกวัยได้รับการออกแบบและผลิตโดยพูม่า (Puma) ซึ่งเผยออกมาแล้วทั้งชุดเหย้าและชุดเยือน ชุดเหย้ายังคงเลือกใช้เสื้อสีฟ้าเป็นพื้นหลัก แซมด้วยเส้นสีทอง ส่วนกางเกงเป็นสีดำ ลงตัวกับถุงเท้าสีฟ้าขาว ด้านชุดเยือนพวกเขาเลือกใช้ชุดสีขาวล้วนทั้งเสื้อ กางเกง และถุงเท้า สอดแทรกเส้นสายสีฟ้าเติมสีสันได้สวยงาม บนหน้าอกของทั้งชุดเหย้าและชุดเยือนมีตราสัญลักษณ์ของทีมชาติล้อมกรอบด้วยสีทองเพิ่มความขลังให้กับเสื้อของยอดทีมได้ไม่น้อย
อังกฤษ


ชุดแข่งฟุตบอลของทีมชาติอังกฤษเป็นฝีมือการออกแบบของไนกี้ (Nike) ผู้ผลิตอุปกรณ์กีฬาชื่อดังจากสหรัฐฯ โดยชุดเหย้าของพวกเขาใช้สีขาวล้วนทั้งเสื้อ กางเกง และถุงเท้า ตัวเสื้อเป็นคอวีมีตราสิงโตบนหน้าอกข้างซ้าย เบอร์และชื่อของนักเตะใช้สีน้ำเงิน ที่หัวไหล่มีแถบสีเงิน ด้านในคอเสื้อมีตราธงชาติสีเงิน ส่วนชุดเยือนเลือกใช้เสื้อคอกลมสีแดง กางเกงสีขาว และถุงเท้าสีแดง โดยได้แรงบันดาลใจมาจากชุดเกราะของอัศวินในสมัยก่อน ด้านชุดเยือนใช้เสื้อสีแดง กางเกงสีขาว อันเป็นชุดที่สวมในนัดคว้าแชมป์โลกเมื่อปี 1966



ชุดแข่งตราหมากรุกของทีมโครแอตในการแข่งขันครั้งนี้ ผลิตโดยไนกี้ (Nike) ผู้ผลิตอุปกรณ์กีฬารายใหญ่ โดยเปิดตัวครบถ้วนทั้งชุดเหย้าและชุดเยือน แน่นอนว่าชุดเหย้าของพวกเขาจะต้องเป็นเสื้อตราหมากรุกสีแดง ส่วนแขนเสื้อเติมเต็มด้วยสีแดงสด ภายในเสื้อบริเวณคอมีข้อความเขียนว่า Budi Ponosan ซึ่งหมายความว่า จงภูมิใจในชาติของตน จับคู่กับกางเกงสีขาวและถุงเท้าสีน้ำเงิน ส่วนชุดเยือนทีมโครแอตยังคงเลือกใช้สีน้ำเงินเป็นหลักทั้งเสื้อ กางเกง และถุงเท้า แต่เติมแถบลายหมากรุกสีแดงที่หัวไหล่และด้านข้างของกางเกง เรียกได้ว่าเป็นรูปแบบดั้งเดิมที่แฟนบอลคุ้นเคย



ทีมอัซซูรีเลือกให้พูม่า (Puma) ผู้ผลิตอุปกรณ์กีฬาชื่อดังผลิตและออกแบบชุดแข่งทั้งเหย้าและเยือน โดยชุดเหย้ามาพร้อมเสื้อคอปกสีน้ำเงินตกแต่งด้วยเส้นเว้าเข้าลำตัวสีขาว ปลายแขนมีสีธงชาติอิตาลีประกอบด้วยเขียวขาวแดง ส่วนหน้าอกมีตราสโมสรและโลโก้พูม่าสีเหลืองทอง เสื้อดังกล่าวจับคู่กับกางเกงสีขาวและถุงเท้าสีน้ำเงินขอบบนขาว ทางด้านของชุดเยือนอิตาลีเลือกใช้สีขาวตกแต่งด้วยเส้นตั้งสีน้ำเงิน ส่วนเส้นเว้าข้างใช้เป็นสีธงชาติ ปลายแขนใช้สีน้ำเงิน ซึ่งเสื้อเยือนจับคู่กับกางเกงสีน้ำเงินและถุงเท้าสีขาวขอบบนสีน้ำเงิน เรียกได้ว่าเห็นสีเห็นชุดนี้แล้ว ต้องจำกันได้แน่ ๆ ว่านี่คือยอดทีมแดนมักกะโรนี เพราะพวกเขาเลือกใช้สีที่แฟนบอลคุ้นเคยทั้งนั้น



สหรัฐฯ เป็นอีกทีมหนึ่งที่ทะลุเข้ารอบสุดท้ายของฟุตบอลโลกอยู่บ่อยครั้ง และแน่นอนว่า ชุดแข่งของพวกเขาจะต้องเป็นฝีมือการออกแบบจากไนกี้ (Nike) แบรนด์เครื่องกีฬาชั้นนำของสหรัฐฯ โดยชุดแข่งของพวกเขาเป็นเสื้อคอโปโลในสีขาวคาดเส้นสีเทา ปลายแขนและคอปกสีแดง จับคู่กับกางเกงสีขาวติดแถบสีแดงด้านข้างและถุงเท้าสีขาว ซึ่งทั้งหมดได้แรงบันดาลใจมาจากชุดกีฬาในสมัยก่อนของชาวสหรัฐฯ โดยชุดดังกล่าวยังถูกออกแบบมาเพื่อทีมฟุตบอลหญิง ฟุตบอลเยาวชน หรือแม้แต่รุ่นยุวชนด้วย




โปรตุเกสเลือกให้ไนกี้ (Nike) เป็นผู้ผลิตชุดสำหรับแข่งขันในปีนี้ โดยยังคงเลือกใช้เสื้อคอวีโทนสีแดง ออกแบบผสมผสานระหว่างสีแดงสดกับสีแดงเลือดหมูอย่างลงตัว คอเสื้อมีสีเขียวอยู่ด้านใน ที่หน้าอกมีตราสัญลักษณ์ของทีม ปักปี 1914 และ 2014 ซึ่งเป็นปีก่อตั้งทีมและปีการแข่งขันซึ่งครบรอบ 100 ปีพอดี จับคู่กับกางเกงและถุงเท้าสีเลือดหมู ด้านชุดเยือนเน้นดีไซน์คลาสสิกทั้งรูปแบบและสีสัน ตัวเสื้อใช้สีขาว คอปกและปลายแขนสีน้ำเงิน ส่วนกางเกงสีน้ำเงิน และถุงเท้าสีขาว เสื้อเป็นแบบคอกลมมีกระดุมยาวลงมาถึงหน้าอก



ทีมหมอผีได้ชุดแข่งใหม่ล่าสุดจากพูม่า (Puma) ผู้ผลิตอุปกรณ์กีฬาจากประเทศเยอรมนี ซึ่งชุดเหย้าของพวกเขายังคงเป็นเสื้อสีเขียวจับคู่กับกางเกงสีแดงและถุงเท้าสีเหลือง ส่วนชุดเยือนเป็นเสื้อสีเหลือง กางเกง เขียวและถุงเท้าสีแดง โดยจุดเด่นของชุดทั้งสองนอกจากสีสันที่สดใสแล้ว ยังมีลวดลายในแบบชนเผ่าพื้นเมืองของแอฟริกาอยู่บนเสื้อ เป็นรูปสิงโตพร้อมข้อความภาษาฝรั่งเศสว่า Les Lions Indomptable แปลว่า สิงโตผู้กล้าหาญ ซึ่งเป็นฉายาของทีมชาติแคเมอรูน ส่วนที่หน้าอกก็มีตราสัญลักษณ์ทีมชาติ และรูปสิงโตที่เป็นเอกลักษณ์ของพวกเขาด้วย



ชุดแข่งของทีมจอมโหดอุรุกวัยได้รับการออกแบบและผลิตโดยพูม่า (Puma) ซึ่งเผยออกมาแล้วทั้งชุดเหย้าและชุดเยือน ชุดเหย้ายังคงเลือกใช้เสื้อสีฟ้าเป็นพื้นหลัก แซมด้วยเส้นสีทอง ส่วนกางเกงเป็นสีดำ ลงตัวกับถุงเท้าสีฟ้าขาว ด้านชุดเยือนพวกเขาเลือกใช้ชุดสีขาวล้วนทั้งเสื้อ กางเกง และถุงเท้า สอดแทรกเส้นสายสีฟ้าเติมสีสันได้สวยงาม บนหน้าอกของทั้งชุดเหย้าและชุดเยือนมีตราสัญลักษณ์ของทีมชาติล้อมกรอบด้วยสีทองเพิ่มความขลังให้กับเสื้อของยอดทีมได้ไม่น้อย



ชุดแข่งฟุตบอลของทีมชาติอังกฤษเป็นฝีมือการออกแบบของไนกี้ (Nike) ผู้ผลิตอุปกรณ์กีฬาชื่อดังจากสหรัฐฯ โดยชุดเหย้าของพวกเขาใช้สีขาวล้วนทั้งเสื้อ กางเกง และถุงเท้า ตัวเสื้อเป็นคอวีมีตราสิงโตบนหน้าอกข้างซ้าย เบอร์และชื่อของนักเตะใช้สีน้ำเงิน ที่หัวไหล่มีแถบสีเงิน ด้านในคอเสื้อมีตราธงชาติสีเงิน ส่วนชุดเยือนเลือกใช้เสื้อคอกลมสีแดง กางเกงสีขาว และถุงเท้าสีแดง โดยได้แรงบันดาลใจมาจากชุดเกราะของอัศวินในสมัยก่อน ด้านชุดเยือนใช้เสื้อสีแดง กางเกงสีขาว อันเป็นชุดที่สวมในนัดคว้าแชมป์โลกเมื่อปี 1966
ได้ชมชุดแข่งของทีมชาติที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายในฟุตบอลโลกกันไปแล้ว จะเห็นได้ว่าแต่ละชุดต่างก็มีสไตล์เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใคร แต่ไม่รู้ว่าแบบเสื้อต่าง ๆ เหล่านี้ จะถูกใจคอบอลมากน้อยขนาดไหน ยังไงก็ลองมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้ แล้วปีหน้าก็เตรียมตัวหาเสื้อแข่งของทีมโปรดมาใส่เชียร์บอล เพื่อเพิ่มอรรถรสในการชมการแข่งขันให้สนุกมากยิ่งขึ้นกันนะครับ