โดยทั่วไปแล้วผู้ชายมีความเสี่ยงที่จะหัวล้านได้ตั้งแต่อายุ 21 ปี ไปจนถึงอายุ 35 ปี โดยจะมีสัญญาณเตือนเป็นผมที่หลุดร่วงมากกว่าปกติ จนในที่สุดผมก็บาง และล้านอย่างที่เห็นจากตัวอย่างของบางคน ซึ่งถ้าจะมองในแง่ดีหัวโล่ง ๆ แบบนั้นก็เท่ไม่หยอก แต่ก็ปฏิเสธไม่ลงว่า ถ้าเลือกได้ก็คงอยากมีผมหนา ๆ กันมากกว่า แต่ทุกวันนี้เราก็เจอปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้ผมหลุดร่วงอยู่แทบจะตลอดเวลา ฉะนั้นหากเป็นไปได้ก็ควรหลีกเลี่ยงความเสี่ยง และปฏิบัติตามวิธีช่วยรักษาเส้นผมให้อยู่กับเรานาน ๆ และถ้าไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงบ้าง วันนี้เราก็มีเคล็ดลับดูแลเส้นผมและหนังศีรษะมาฝาก ถ้าทำตามนี้ได้เป๊ะ ๆ การันตีว่าหัวไม่ล้านแน่นอนครับ
ใครที่ใช้ผ้าขนหนูเช็ดผมแรง ๆ ตามด้วยใช้ไดร์เป่าผมความร้อนสูงเป่าจนผมแห้งสนิทบ่อย ๆ ขอให้เลิกพฤติกรรมทำร้ายผมแบบนี้สักที เนื่องจากรากผมของเราอ่อนแอกว่าที่คุณคิด ยิ่งกับรากผมที่กำลังจะงอกขึ้นมาใหม่ เจอความรุนแรงเข้าไปอย่างนี้ รับรองว่ารอดยากทุกเส้น ดังนั้นทางที่ดี เปลี่ยนมาซับผมเบา ๆ ด้วยผ้าขนหนูเนื้อนุ่ม แล้วจะปล่อยให้แห้งเองตามธรรมชาติ หรือจะใช้ไดร์เป่าผม เป่าลมอุ่น ๆ เซตผมตามสไตล์ดีกว่า
ด้วยความที่เราผมสั้น แถมลุยความสกปรกมาทั้งวัน หลายคนก็เลยสระผมบ่อยมาก บางคนก็สระทั้งเช้า-เย็นเลยด้วยซ้ำ ซึ่งรู้ไหมครับว่า เป็นการทำร้ายเส้นผมอีกทางหนึ่งเลย เนื่องจากสารเคมีจากแชมพูและครีมนวดผม ก็สามารถทำร้ายรากผม รวมทั้งน้ำมันธรรมชาติจากหนังศีรษะได้เช่นกัน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า ให้คุณหมักหมมความสกปรกบนผมเอาไว้อย่างนั้น หากอยากทำความสะอาดเส้นผม แนะนำให้ใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำ มาสลับเช็ดทำความสะอาดเส้นผมแทน และอย่าลืมใส่เซรั่มบำรุงเส้นผมด้วยนะครับ
ผมยาวอาจจะดูเท่สำหรับบางคน แต่ข้อเสียของการไว้ผมยาวก็มีเหมือนกัน เป็นต้นว่า น้ำหนักของเส้นผมที่ยาว จะดึงรั้งรากผมมากขึ้น จนทำให้ผมด้านบนของคุณบางลงทุกที และผมที่ยาว ก็ย่อมต้องการสารอาหารดูแลเส้นผมตลอดทั้งเส้นมากขึ้นเท่านั้น ฉะนั้นหากดูแลเส้นผมได้ไม่เต็มที่เท่าไร โอกาสที่ผมหลุดร่วงก็ย่อมสูงขึ้นเป็นเงาตามตัวเลยล่ะ คราวนี้ตัดสินใจได้หรือยังล่ะครับ ว่าจะไว้ผมยาวต่อไปหรือจะตัดผมสั้นกันดี
จริง ๆ แล้ว ผมสั้น ๆ ของเราไม่จำเป็นต้องใช้หวีเลยด้วยซ้ำ ถ้าเป็นไปได้ก็ควรจะใช้หวีให้น้อยที่สุด เพราะการหวีผมด้วยหวีหรือแปรงบ่อย ๆ จะยิ่งเป็นการทำร้ายรากผมให้อ่อนแอ ผมก็มีโอกาสหลุดร่วงได้ง่ายขึ้น เสี่ยงจะหัวล้านอย่างที่สุดเลยทีเดียว เอาเป็นว่า แค่ใช้นิ้วมือสาง ๆ แต่งทรงผมให้เท่แบบธรรมชาติก็พอแล้วล่ะ
ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมทุกประเภทเป็นตัวช่วยที่ดีของหนุ่ม ๆ รวมทั้งช่วยเพิ่มความมั่นใจในการแต่งตัวได้เยอะพอสมควร แต่ก็อย่างที่บอกว่า สารเคมีทั้งในแชมพูและผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมเหล่านี้ ล้วนแล้วแต่เข้าไปทำลายการเจริญเติบโตของรากผม และน้ำมันธรรมชาติในหนังศีรษะ พอโหมใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้บ่อย ๆ เส้นผมที่เคยแข็งแรงก็จะอ่อนแอลง ส่วนรากผมก็จะตาย จนในที่สุดก็ไม่ผลิตเส้นผมออกมานั่นเอง
นอกจากจะต้องหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้ผมหลุดร่วงแล้ว คุณควรบำรุงเส้นผมและหนังศีรษะอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้เส้นผมและหนังศีรษะแข็งแรง ไม่หวั่นต่อปัญหาผมหลุดร่วง โดยอาจจะดูแลด้วยการหมักทรีทเม้นท์สัปดาห์ละครั้ง ซึ่งทรีทเมนท์ที่ใช้ควรจะมีส่วนผสมของน้ำมันธรรมชาติ วิตามินอี และสมุนไพรที่มีส่วนช่วยปลูกผมรวมอยู่ด้วย
ตัวเราเองก็ควรสังเกตด้วยว่าพักนี้ผมร่วงบ่อยหรือเปล่า หรือในขณะที่สระผม หรือหวีผม มีเส้นผมหลุดติดมือและหวีมาบ้างไหม ถ้าพบเห็นความผิดปกติเหล่านี้ ก็อย่าเพิ่งตื่นตกใจจนเกินไป แต่ก็อย่าเพิกเฉยไม่ทำอะไรด้วย ขั้นแรกให้คุณลองปรึกษาแพทย์ผิวหนังก่อน เพื่อหาสาเหตุของปัญหาผมหลุดร่วงเกินขนาด จากนั้นก็ค่อยหาทางรักษากันต่อไป
ดูแลบำรุงภายนอกกันไปแล้ว คราวนี้ก็ถึงเวลาใส่ใจสุขภาพเส้นผมและหนังศีรษะจากภายใน โดยเริ่มจากการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ สารอาหารที่ช่วยบำรุงดูแลเส้นผมก็ได้แก่ ธาตุเหล็ก วิตามินทุกชนิดจากผักและผลไม้ โดยเฉพาะวิตามินบีนะครับ
การสวมใส่หมวกอยู่ตลอดเวลาก็เหมือนกับการอบความร้อนให้ผมตลอด ซึ่งเมื่อผมเจออุณหภูมิสูงนาน ๆ เข้า มันก็จะมีโอกาสหลุดร่วงมากขึ้น ผมที่เคยบางอยู่แล้วก็จะยิ่งบางกันไปใหญ่ คราวนี้อนาคตหัวล้านก็อยู่ไม่ไกลแน่นอนล่ะครับ
ความเครียดก็เป็นสาเหตุสำคัญที่เร่งให้ผมหลุดร่วงด้วยเช่นกัน แถมยังส่งผลเสียต่อสุขภาพอีกหลายประการ รวมถึงทำให้หน้าแก่ก่อนวัยอีกต่างหาก ฉะนั้นถ้าไม่อยากได้รับผลกระทบแย่ ๆ เหล่านี้ ก็พยายามหลีกเลี่ยงความเครียด และทำตัวสดใสร่าเริงเข้าไว้ดีกว่า
คงไม่มีผู้ชายคนไหนอยากมีผมบางหรือหัวล้านกันหรอกจริงไหมล่ะ ดังนั้นหากอยากหลีกเลี่ยงปัญหาหัวล้านกันล่ะก็ อย่าลืมปฏิบัติตัวตาม 10 ข้อแนะนำข้างต้นกันด้วยนะครับ