เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอมขอขอบคุณภาพประกอบจาก
facebook SAF.Stand, facebook manchesterunited เเละ
manutd หลังจากที่ลาออกจากการเป็นผู้จัดการทีมที่นำ สโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เข้าสู่ยุคยิ่งใหญ่มาได้ยาวนานถึง 27 ปี เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน (Sir Alex Ferguson) ก็ได้ตัดสินใจเผยทุกแง่มุมในชีวิต รวมทั้งเรื่องราวในอดีตเกี่ยวกับอาชีพของเขาลงในหนังสืออัตชีวประวัติที่มีชื่อว่า Alex Ferguson: My Autobiography ซึ่งมีประเด็นที่น่าสนใจมากมาย เช่น เรื่องขัดแย้งกับนักเตะระดับซุปตาร์ เดวิด เบ็คแฮม เรื่องการจับเวย์น รูนี่ย์ นั่งสำรอง และการขายคริสเตียโน่ โรนัลโด้ หนังสืออัตชีวประวัติความหนา 402 หน้า บอกเล่าถึงเรื่องราวอย่างหมดเปลือกและน่าสนใจมากมายในชีวิตของเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ไม่ว่าจะเป็นประเด็นของเดวิด เบ็คแฮม ซึ่งเฟอร์กี้บอกว่าเบ็คแฮมเป็นนักเตะคนเดียวในทีมซึ่งเลือกที่จะเป็นคนดัง และนั่นทำให้เขามีปัญหากับทีม เพราะวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไป จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์สตั๊ดบินในห้องแต่งตัว และนำไปสู่การย้ายทีมของเบ็คแฮมในที่สุด โดยเขาเผยเหตุผลว่า หากนักเตะสำคัญตัวเหนือกว่าผู้จัดการทีม ก็ไม่สมควรอยู่ในทีมอีกต่อไป แต่อย่างไรก็ตาม เฟอร์กี้ก็ไม่ได้เคียดแค้นเบ็คแฮมแต่อย่างใด
เฟอร์กี้ยังเผยเรื่องราวของหนึ่งในนักเตะระดับโลกอย่าง คริสเตียนโน่ โรนัลโด้ ไว้ในหนังสือเล่มนี้เช่นกัน โดยเขาเห็นแววจากการพาทีมลงดวลกับสปอร์ตติ้ง ลิสบอนด์ ทีมเก่าของโรนัลโด้ ซึ่งทักษะการเล่นของเขาปั่นป่วนทีมได้อย่างมาก เฟอร์กี้จึงจัดการดึงเขามาร่วมทีม และก็กลายเป็นนักเตะที่เฟอร์กี้ประทับใจที่สุดตั้งแต่คุมทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดมาเลยทีเดียว เวย์น รูนี่ย์เองก็เป็นนักเตะตัวสำคัญของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดในปัจจุบัน โดยตั้งแต่การกระชากรูนี่ย์จากอ้อมอกของเอฟเวอร์ตัน สู่การเป็นยอดนักเตะในปัจจุบัน รวมถึงประเด็นร้อนที่เกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้อย่างข่าวลือเรื่องการย้ายทีมช่วงก่อนเปิดฤดูกาล 2013/14 รวมทั้งประเด็นการเปลี่ยนตำแหน่งและการนั่งม้านั่งสำรองก็มีครบถ้วนในหนังสือเล่มนี้เช่นกัน
นอกจากนี้ กุนซือชาวสก็อตยังเผยถึงเรื่องราวกับนักเตะระดับตำนานของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดอีกมากมายทั้งพอล สโคลล์, ไรอัน กิ๊กส์, อีริค คันโตนา, สองพี่น้องตระกูลเนวิลล์, นิกกี้ บัตต์, การสร้างกลุ่มยอดนักเตะใน Class of ’92, เรื่องของกรรมการ , ความสัมพันธ์กับผู้จัดการทีมคนอื่น ๆ อย่าง โจเซ่ มูรินโญ, การปฏิเสธตำแหน่งผู้จัดการทีมชาติอังกฤษถึง 2 ครั้ง แถมยังมีเรื่องราวนอกวงการฟุตบอลอีกเช่น เรื่องการเมือง การวางตัวกับสื่อ และอื่น ๆ อีกมากมาย เรียกได้ว่านี่คือหนังสือที่เผยเรื่องราวของยอดผู้จัดการทีมจากปากคำของตัวท่านเซอร์เองในแง่มุมที่หลายคนไม่เคยรู้มาก่อนแบบจัดเต็มจริง ๆ และหนังสือเล่มนี้คงจะต้องเต็มไปด้วยแนวคิดที่สั่งสมในวงการฟุตบอลแบบเต็มที่อย่างแน่นอน คอบอลทั้งหลายไม่ควรพลาดจริง ๆ ครับ