สำหรับคนที่ชอบฟังเพลงทั้งหลาย คงไม่มีสิ่งไหนที่จะทำให้เพลิดเพลินไปตลอดทั้งวันได้เท่ากับการนั่งฟังเพลงเพราะ ๆ กับหูฟังดี ๆ สักอันแน่นอน ยิ่งหูฟังที่ให้เสียงใส คมชัด ตัดเสียงรบกวนภายนอกด้วยแล้วล่ะก็ เจ๋งเลย !!
แต่นอกจากเรื่องของคุณภาพเสียงแล้ว ข้อควรพิจารณาในการเลือกซื้อหูฟังยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่ต้องคำนึงถึงอีก เช่น ราคา ความทนทาน หรือประเภทของหูฟังที่ตัวเองชอบใช้ ว่าแล้วเราก็เลยไปเจอเรื่องราวของหูฟังที่น่าสนใจจากเว็บไซต์ mensfitness.comมาบอกต่อให้นักฟังเพลงได้ทำความรู้จักกันแล้วครับ
คนที่มีงบในการซื้อหูฟังไม่สูงมากนัก น่าจะถูกใจกับหูฟังรุ่นนี้จาก LSTN ได้ไม่ยาก ด้วยราคาจำหน่ายเพียง 100 เหรียญสหรัฐ (หรือประมาณ 3,000 บาท) แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือหูฟังดีไซน์เรียบหรูดูคลาสสิก ที่มาพร้อมกับคุณภาพเสียงทรงพลังก็ถือว่าคุ้มค่าสุด ๆ โดดเด่นด้วยไม้เชอร์รีที่เป็นกรอบหูฟัง ซึ่งเกิดขึ้นจากงานฝีมือล้วน ๆ ทำให้ Cherry Wood Fillmores เป็นตัวเลือกที่ไม่เลวเลยทีเดียว
สำหรับคนที่อยากได้หูฟังที่เน้นเรื่องคุณภาพเสียงอันยอดเยี่ยมเป็นหลัก ต้องโฟกัสมาที่หูฟังจาก Audeze รุ่น LCD3 กันได้เลย เพราะทีมผู้ผลิตใช้เทคโนโลยี Planar magnetic มาช่วยลดความผิดเพี้ยนและความก้องกังวานของเสียง ทำให้ผู้ฟังรู้สึกเหมือนกำลังฟังศิลปินคนโปรดเล่นกันสด ๆ เลยทีเดียว แถมการออกแบบของหูฟังก็ดูแปลกแหวกแนวดี ทว่าใครที่สนใจก็ต้องยอมแลกเงินกับค่าตัวที่แสนแพงของมันหน่อยนะ เพราะวางจำหน่ายในราคา 1,945 เหรียญสหรัฐ (หรือประมาณ 59,000 บาท)
เชื่อว่าหลายต่อหลายคนต้องเคยรำคาญสายหูฟังที่มักพันกันยุ่งเหยิงหรือห้อยเกะกะอย่างแน่นอน แต่หูฟังจาก Sony รุ่นนี้ จะตัดปัญหาที่ยุ่งยากเหล่านั้นออกไป เพราะเป็นหูฟังชนิดไร้สาย (แต่ดีไซน์ไม่ไร้รสนิยม) ทำงานร่วมกับเครื่องเล่นผ่านสัญญาณบลูทูธ V3.0 และเทคโนโลยี NFC (Near Field Communications) นอกจากนี้ รูปลักษณ์ของหูฟังยังดูทันสมัย เหมาะกับคนสมัยใหม่เป็นอย่างดี ที่สำคัญสามารถใช้ฟังได้นานถึง 30 ชั่วโมงเลยทีเดียว โดย MDR-1RBT Prestige เปิดตัวออกวางจำหน่ายในราคา 399 เหรียญสหรัฐ (หรือประมาณ 12,000 บาท)
การเลือกหูฟังสำหรับใส่ตอนออกกำลังกายโดยเฉพาะ อาจมีตัวเลือกไม่หลากหลายสักเท่าไหร่ แต่รับรองว่า Ultra Fit 1000 จาก Polk Audio จะเป็นที่ถูกตาต้องใจนักกีฬาหลายคนได้ไม่ยาก ด้วยความที่มันออกแบบมาโดยเน้นที่ความกระชับ เพื่อให้เหมาะกับการใส่ออกกำลังที่ต้องเคลื่อนไหว ไม่ให้ขยับไปมา หรือหลุดออกจากหู นอกจากนี้ยังตัดเสียงรบกวนภายนอกไม่ให้เล็ดลอดเข้าไปรบกวนความบันเทิงของผู้ใส่ รวมไปถึงให้เสียงเบสที่แน่นตึ๊บอีกด้วย ความยอดเยี่ยมทั้งหมดของหูฟังรุ่นนี้ มาในราคาเพียง 50 เหรียญสหรัฐ (หรือประมาณ 1,500 บาท) เท่านั้น
สำหรับคนที่ต้องเดินทางไปไหนมาไหนไกล ๆ บ่อย ๆ คุณสมบัติสำคัญที่ต้องการจากหูฟังนอกเหนือจากคุณภาพเสียงแล้ว สิ่งที่มองหาจากตัวหูฟังก็คงเป็นเรื่องของการพกพาที่สะดวกนั่นเอง ซึ่งหูฟังตัวแจ่มจาก Drdre รุ่นนี้ คือคำตอบที่โดนใจคนฟังเพลงหลาย ๆ คนอีกรุ่นหนึ่ง เพราะมันไม่ได้มีดีเพียงแค่คุณภาพเสียงที่อัดแน่นเท่านั้น แต่น้ำหนักที่เบาและสามารถพับเก็บได้ เป็นจุดเด่นที่ไม่ควรมองข้ามเป็นอย่างยิ่ง สนนราคาขายอยู่ที่ 300 เหรียญสหรัฐ (หรือประมาณ 9,000 บาท)
ปิดท้ายกันด้วยหูฟังไร้สายตัวจี๊ดจาก Bose ที่จะทำให้การฟังเพลงผ่านหูฟังของคุณ เป็นช่วงเวลาพักผ่อนที่แสนวิเศษมากที่สุด ด้วยเทคโนโลยีที่เรียกว่า TriPort ซึ่งจะถ่ายทอดเสียงเพลงที่ส่งออกมาให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น บวกกับ Ear cups ที่ได้รับการออกแบบมาเป็นอย่างดี ดังนั้น ต่อให้ใส่หูฟังติดต่อกันนานเป็นชั่วโมงก็จะไม่ปวดหูแน่นอน ความโดดเด่นนอกเหนือจากที่กล่าวไปแล้ว ยังมีเรื่องของระบบการทำงานอันหลากหลายของมันด้วย เพราะมันสามารถสลับสับเปลี่ยนใช้งานระหว่างดูหนังฟังเพลงกับการรับโทรศัพท์ได้อีกด้วย เช่น หากผู้ใช้งานกำลังดูหนังอยู่แล้วมีคนโทรเข้ามา เมื่อกดรับสายตัวหูฟังก็จะหยุดภาพที่กำลังเล่นอยู่ เพื่อเข้าสู่โหมดรับสายก่อน จากนั้นเมื่อกดวางสาย ภาพล่าสุดที่กำลังเล่นก็กลับมาเล่นต่อตามปกติโดยไม่มีสะดุดให้เสียอารมณ์ ทั้งนี้ AE2w Bluetooth ออกวางจำหน่ายแล้วในราคา 249 เหรียญสหรัฐ (หรือประมาณ 7,500 บาท)