หนุ่มเป็นหมันที่หลั่งแบบไร้สเปิร์ม เสี่ยงมะเร็งร้ายกว่าปกติถึง 8 เท่า !

การเป็นหมัน

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

          พอจะเป็นที่ทราบกันมาบ้างแล้วจากผลงานวิจัยหลาย ๆ ชิ้นที่พบว่า การเป็นหมันหรือภาวะไม่เจริญพันธุ์ในผู้ชายมีความเกี่ยวโยงบางประการกับการโรคเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก ที่น่าตกใจกว่านั้นคือผลวิจัยล่าสุดจากโรงเรียนการแพทย์ มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด สหรัฐฯ พบว่ามันไม่ได้เกี่ยวข้องอยู่แค่มะเร็งต่อมลูกหมากเท่านั้น แต่ลามไปถึงมะเร็งที่ส่วนอื่น ๆ ได้อีกต่างหาก ที่แย่ไปกว่านั้นคือ พ่อหนุ่มคนไหนเป็นหมันประเภทหลั่งน้ำแต่ไร้ตัวสเปิร์มก่อนอายุ 30 จะเสี่ยงเป็นมะเร็งร้ายกว่าเพื่อนวัยเดียวกันที่ไม่เป็นหมันถึง 8 เท่า !

          ในสหรัฐฯ มีสถิติของชายเป็นหมันค่อนข้างสูง คือมีถึง 15% ของประชากรชายทั้งหมดที่มีอายุระหว่าง 15-45 ปี การวิจัยที่นำมากล่าวถึงได้อ้างอิงข้อมูลจากสำนักทะเบียนสถิติผู้เป็นมะเร็งแห่งรัฐเทกซัส โฟกัสที่กลุ่มชายเป็นหมันระหว่างปี 1989-2009 จำนวน 2,238 ราย ถูกตรวจพบว่าเป็นหมันตอนอายุเฉลี่ย 35.7 ปี โดยในจำนวนทั้งหมดนี้ มี 451 ราย ที่เป็นหมันด้วยอาการหลั่งน้ำอสุจิแต่ไร้ตัวสเปิร์ม หรือ เอซูสเปอร์มิค (Azoospermic)

สเปิร์ม

          การเก็บสถิติได้ติดตามต่อไปและพบว่า 29 จาก 2,238 ราย แสดงอาการของโรคมะเร็งในเวลาต่อมา เมื่อเทียบสถิติกับจำนวนประชากรชายทั้งหมดในเทกซัสที่เป็นโรคมะเร็ง พบว่าชายที่เป็นหมันมีแนวโน้มเป็นโรคมะเร็งมากกว่าผู้ชายทั่ว ๆ ไปถึง 1.7 เท่า และสำหรับผู้ชายที่เป็นหมันด้วยอาการหลั่งน้ำแต่ไร้ตัวก็มีความเสี่ยงสูงกว่าถึง 3 เท่า

          ทว่าประเด็นสำคัญที่น่าสนใจและน่าตกใจก็คือ เมื่อโฟกัสมาที่กลุ่มคนหนุ่ม ชายที่เป็นหมันด้วยอาการหลั่งไร้ตัวก่อนอายุ 30 กลับเสี่ยงเป็นมะเร็งสูงกว่าเพื่อนชายวันเดียวกันถึง 8 เท่าเลยทีเดียว

          โดยโรคมะเร็งที่ว่าไม่ได้จำกัดแค่มะเร็งต่อมลูกหมากเท่านั้น แต่มีตั้งแต่มะเร็งสมอง เนื้องอกในช่องท้อง มะเร็งลำไส้ มะเร็งเม็ดสีหรือเมลาโนมา มะเร็งต่อมน้ำเหลือง ไปจนถึงมะเร็งเม็ดเลือดขาวหรือลูคีเมีย

          อย่างไรก็ดี ดอกเตอร์เอสเซนเบิร์ก ผู้นำทีมวิจัยกล่าวว่า ยังไม่อาจฟันธงได้แน่ชัดว่าการเป็นหมันด้วยอาการสเปิร์มไร้ตัวเพิ่มความเสี่ยงโรคมะเร็งให้พุ่งสูงกว่าปกติขนาดนั้นเสมอไป เพราะการวิจัยยังได้จากกลุ่มตัวอย่างขนาดเล็ก แต่จากการสันนิษฐานแล้วคาดว่า ความผิดปกติของยีนที่ก่อให้เกิดอาการหลั่งน้ำแบบไร้ตัวนี้ คงเป็นสาเหตุเดียวกันกับที่ก่อให้เกิดโรคมะเร็งด้วย

          ทั้งนี้ อาการหลั่งแบบไร้ตัวสเปิร์ม หรือ เอซูสเปอร์มิค มี 2 กรณี ประการแรกคือท่อลำเลียงตัวสเปิร์มเกิดตีบหรืออุดตัน จึงกั้นไม่ให้ตัวสเปิร์มหลุดออกมาผสมกับน้ำอสุจิ ส่วนประการที่สองคือ มีความผิดปกติในระบบการผลิตตัวสเปิร์ม เมื่อผลิตได้น้อยกว่าปริมาณที่เหมาะสม จึงไม่ถูกขับดันออกมาพร้อมน้ำที่หลั่งนั่นเอง


   คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อน ๆ ได้ที่นี่
 







เรื่องที่คุณอาจสนใจ
หนุ่มเป็นหมันที่หลั่งแบบไร้สเปิร์ม เสี่ยงมะเร็งร้ายกว่าปกติถึง 8 เท่า ! อัปเดตล่าสุด 8 กรกฎาคม 2556 เวลา 17:47:00 1,270 อ่าน
TOP
x close