x close

10 นักฟุตบอลฝีเท้าขั้นเทพที่น่าจดจำตลอดกาล



เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

          ฟุตบอลเป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมสูงที่สุดในโลก โดยกีฬาที่เรียบง่ายแต่ตื่นเต้นเร้าใจนี้ทรงเสน่ห์มานานนับร้อยปี ซึ่งเกิดมาจากลีลาที่พลิ้วไหวของเหล่านักเตะ จึงทำให้ความนิยมของกีฬาฟุตบอลส่งผลต่อความนิยมในตัวนักกีฬาด้วยเช่นกัน

          ซึ่งในปี 2013 นับว่าเป็นปีที่ต้องจดจำของบรรดาแฟนฟุตบอลหลาย ๆ คน เมื่อเหล่าซูเปอร์สตาร์ต่างพากันแขวนสตั๊ดด้วยวัยที่ร่วงโรยตามกาลเวลา ไม่ว่าจะเป็น เดวิด เบ็คแฮม, พอล สโคลส์, เจมี่  คาร์ราเกอร์ รวมไปถึงยอดกุนซือแห่งปิศาจแดงอย่างเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ซึ่งชื่อทั้งหมดนั้น เป็นที่จดจำของแฟนบอลมากมายในฐานะผู้สร้างสีสันให้กับวงการลูกหนัง และส่งต่อแรงบันดาลใจไปสู่คนรุ่นใหม่ให้เจริญรอยตามต่อไป ดังนั้นในวันนี้กระปุกดอทคอมมีเรื่องราวของ 10 สุดยอดนักเตะฝีเท้าขั้นเทพที่สร้างความประทับใจให้แก่แฟนบอลทั่วโลกทั้งที่อำลาวงการแล้ว และยังคงโลดแล่นอยู่ในสนาม จากเว็บไซต์ www.askmen.com มานำเสนอให้คอบอลได้หวนรำลึกถึงกันครับ


 เปเล่


คลิป  Best of Pele   โพสต์โดยคุณ sikert สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม

          1. เปเล่ (Pele)

          ไม่มีใครไม่รู้จัก เปเล่ ยอดนักฟุตบอลชาวบราซิลเบอร์ 10  เปเล่มีชื่อจริงว่า เอดซง อารังชีส ดู นาซีเมงตู (Edson Arantes Do Nascimento) มีฉายาที่ยิ่งใหญ่อย่าง O Rei ที่แปลว่า ราชาแห่งฟุตบอลและไข่มุกดำ แห่งทีมชาติบราซิล

          เปเล่ เริ่มต้นเข้าสู่วงการฟุตบอลจริงจังเมื่ออายุ 11 ปี โดยอยู่ทีมฟุตบอลสมัครเล่น เมื่ออายุ 15 ปีจึงได้เข้าร่วมทีมเยาวชนของซานโตส เอฟซียอดสโมสรในบราซิล และเมื่ออายุ 17 ปี เปเล่ ติดทีมชาติและเข้าแข่งขันฟุตบอลโลกเป็นครั้งแรกในปี 1958 โดยหลังจากนั้นเขาก็พาบราซิลคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกอีก 3 ครั้ง ยิงประตูทั้งหมดกว่า 1,282 ลูกจากการลงเล่น 1,363 นัด พร้อมทั้งทำแฮตทริกมากที่สุดในโลกถึง 92 ครั้ง และเป็นผู้เล่นที่มีลีลาพลิ้วไหวจนกลายเป็นภาพที่ติดตาตรึงใจแฟนบอลไปตลอดกาล ถึงแม้ตอนนี้เราจะทำได้เพียงกลับไปดูภาพในอดีต แต่ปัจจุบันเขาก็ยังทำงานการกุศลเกี่ยวกับฟุตบอลอีกมากมาย ไข่มุกดำคนนี้จึงถือเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของวงการฟุตบอลในรอบร้อยปีเลยทีเดียว

ดิเอโก้ มาราโดน่า
     

คลิป  Diego Maradona Highlights - The Legend    โพสต์โดยคุณ Ricky Boy สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม

          2. ดิเอโก้ มาราโดน่า (Diego Maradona)

          เสือเตี้ยผู้ยิ่งใหญ่ชาวอาร์เจนตินา ผู้มีลีลาการเล่นฟุตบอลด้วยเท้าซ้ายอันยอดเยี่ยม และลีลายียวนกวนประสาทที่เป็นเอกลักษณ์ รวมถึงการนำทีมชาติอาร์เจนตินา คว้าแชมป์ฟุตบอลโลกมาแล้วในปี 1986

          มาราโดน่าเริ่มต้นวงการฟุตบอลอาชีพเมื่ออายุ 15 และเข้าร่วมฟุตบอลโลกครั้งแรกเมื่ออายุ 17 แต่ยังไม่ได้แชมป์ในทันทีในปี 1982 หลังจากนั้น มาราโดน่าก็ย้ายจากสโมสรโบคา จูเนียร์ สู่ บาร์เซโลนา ด้วยค่าตัวเป็นสถิติสูงสุดในตอนนั้นจำนวน 5 ล้านปอนด์ อีกทั้งยังสามารถพาทีมคว้าแชมป์ต่าง ๆ มากมาย ก่อนจะย้ายไปสโมสรนาโปลี ในลีคอิตาลีด้วยค่าตัวที่สร้างสถิติใหม่อีกครั้งที่ 6.7 ล้านปอนด์ หลังจากนั้น มาราโดน่าก็เริ่มมีปัญหาเกี่ยวข้องกับยาเสพติดและความเครียด จนต้องระเห็จออกจากสโมสรไป ก่อนจะย้ายกลับมาอยู่ที่โบคา จูเนียร์

          สำหรับผลงานกับทีมชาตินั้นยิ่งใหญ่และอื้อฉาวพอกัน ซึ่งเหตุการณ์ที่เป็นที่พูดถึงกันมากที่สุดคือ ตอนฟุตบอลโลกปี 1986 ที่มาราโดน่าเป็นกัปตันทีม เขาพาลูกทีมไปถึงรอบสุดท้ายและทำประตูแรกด้วยมือในแมทช์ที่ปะทะกับทีมชาติอังกฤษ จนเป็นที่มาของฉายา “Hand of God” และยังเป็นผู้ย้ำชัยลูกที่ 2 ด้วยตัวเองจากการครองบอลกว่าครึ่งสนามก่อนจะหลอกผู้รักษาประตูจนหัวทิ่มแล้วซัดตุงตาข่าย โดยผลงานชิ้นนี้ถูกเลือกให้เป็นการปิดสกอร์ที่ดีที่สุดในโลกเมื่อปี 2002

          มาราโดน่า ลาวงการด้วยปัญหายาเสพติดในปลายยุค 90 การใช้ชีวิตแบบร็อคสตาร์มากกว่านักกีฬาไม่ใช่ตัวอย่างที่ดีเท่าไรนัก แต่ด้วยเป็นนักเตะที่มีฝีเท้าเยี่ยมและรางวัลการันตีมากมาย ฟีฟ่าจึงเลือกให้เป็นผู้เล่นแห่งศตวรรษที่ 20 เคียงคู่กับราชาลูกหนังอย่างเปเล่ ปัจจุบัน มาราโดน่า ยังคงทำงานในวงการฟุตบอลในฐานะผู้จัดการทีม ซึ่งล่าสุดคือสโมสร อัล วาสล์ ที่เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรต

ฟรานซ์ เบ็คเค่นบาวเออร์


คลิป  World Football Legends: BECKENBAUER    โพสต์โดยคุณ IvanBIT56 สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม


          3. ฟรานซ์ เบ็คเคนบาวเออร์ (Franz Beckenbauer)

          ยอดนักฟุตบอลชาวเยอรมันผู้ได้รับฉายาว่า “จักรพรรดิ” ด้วยลีลาการเล่นฟุตบอลที่เป็นพื้นฐานให้นักฟุตบอลรุ่นใหม่ เบ็คเคนบาวเออร์เป็นนักฟุตบอลที่สามารถเล่นได้หลายตำแหน่ง แต่เป็นที่จดจำในตำแหน่งสวีปเปอร์หรือตัวตัดเกม และสามารถนำพาทีมชาติเยอรมันตะวันตกเป็นแชมป์ฟุตบอลโลกทั้งในฐานะกัปตันทีมเมื่อปี 1974 และในฐานะผู้จัดการทีมเมื่อปี 1990 และได้ถ้วยสโมสรยุโรปถึง 3 ครั้งกับบาเยิร์น มิวนิค ซึ่งยังไม่มีใครทำได้จนถึงปัจจุบัน

          ในปี 1999 ที่มีการเลือกนักฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในศตวรรษเบ็คเคนบาวเออร์ ได้อันดับ 3 ไปครองเป็นรองแค่ เปเล่ และ โยฮัน ครัฟฟ ทั้งนี้ ในปัจจุบันเขาทำงานเป็นกูรูในวงการฟุตบอลประจำรายการโทรทัศน์เยอรมัน บรรณาธิการเขียนคอลัมน์ฟุตบอล และยังเป็นผู้มีส่วนผลักดันให้ประเทศเยอรมันเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกเมื่อปี 2006 ด้วย

เลโอเนล เมสซี่


คลิป  Lionel Messi ● Top 50 Goals ● 2004-2013     โพสต์โดยคุณ HeilRJ03 สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม


          4. เลโอเนล เมสซี่ (Lionel Messi)

          เมสซี่ ถือเป็นนักฟุตบอลที่ดีที่สุดในโลกที่ปัจจุบันยังคงโลดแล่นอยู่ในสนามฟุตบอล โดยความสำเร็จของเมสซี่ นั้นเทียบได้กับเปเล่และมาราโดน่าในยุคนั้น ด้วยถ้วยรางวัลมากมายในระดับสโมสรและระดับทวีป เหลือก็แต่เพียงฟุตบอลโลกเท่านััน

          หนทางชีวิตนักฟุตบอลของเมสซีนั้นถือเป็นระดับฟ้าประทานเลยทีเดียว เขาเติบโตและฝึกหัดฟุตบอลในอาร์เจนตินา แต่ด้วยความผิดปกติทางร่างกายทำให้เขาสูงเพียง 140 ซม. ขณะอายุ 13 ปี ซึ่งแพทย์แนะนำให้ฉีดฮอร์โมนเพื่อเร่งการเจริญเติบโต ทว่ากลับต้องแลกกับค่าใช้จ่ายสูงถึงเดือนละ 30,000 บาท ทำให้พ่อของเขาถึงกับต้องถอดใจ แต่ท้ายที่สุดโชคก็เข้าข้าง เมื่อสโมสรบาร์เซโลนาเห็นแววของเด็กคนนี้ จึงขอให้รับการฝึกฝนกับทางสโมสรและพร้อมจะสนับสนุนค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ให้ ซึ่งผลการรักษาทำให้เขาสูงขึ้นเป็น 170 ซม.

          สโมสรบาร์เซโลนาได้สร้างสุดยอดนักฟุตบอลของโลกขึ้นมาอีกคนหนึ่ง โดยเมสซี่เป็นได้ทั้งจอมพิฆาตประตู เพลย์เมคเกอร์เปิดเกมรุก รวมทั้งเป็นจอมตัดเกมในยามจำเป็น  แถมสามารถทำเกมอย่างรวดเร็วได้ด้วยตัวเอง แต่จุดบอดของเขาคือการเล่นลูกโด่ง ซึ่งเป็นข้อจำกัดในเรื่องของส่วนสูงของเขานั่นเอง แต่ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ เพราะเมสซี่ยิงให้บาเซโลนาแล้วกว่า 200 ประตู คว้าแชมป์สโมสรยุโรป 3 ครั้ง แชมป์ลาลีกา 5 ครั้ง ได้รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมบัลลงดอร์ถึง 4 ครั้งติดต่อกัน ตรงข้ามกับผลงานทีมชาติที่ทำได้เพียง 19 ประตูจากการลงเล่น 66 นัด และยังไม่ประสบความสำเร็จในการแข่งขันรายการใหญ่ ๆ ในนามทีมชาติได้เลย ซึ่งเราคงต้องติดตามผลงานของเขากันต่อไป

โยฮัน ครัฟฟ์


คลิป Johan Cruyff the Legend. ★     โพสต์โดยคุณ Gonzalo Zúñiga สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม


          5. โยฮัน ครัฟฟ์ (Johan Cruijff)

          โยฮัน ครัฟฟ์ ยอดนักเตะแห่งทีมอัศวินสีส้ม เนเธอร์แลนด์ ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นนักเตะที่มีลีลาการเล่นสง่างามที่สุดจนได้ฉายาว่า "นักเตะเทวดา" ครัฟฟ์เกิดในเมืองอัมสเตอร์ดัม โดยบ้านเกิดของเขาอยู่ห่างจากสโมสรที่ยิ่งใหญ่อย่าง อาแจ็กซ์ เพียงไม่กี่ร้อยเมตร ซึ่งพ่อแม่ของเขาต่างก็ทำงานในสโมสรฟุตบอลแห่งนี้ด้วย

          ทั้งนี้ ครัฟฟ์ เริ่มเล่นฟุตบอลอาชีพครั้งแรกเมื่ออายุ 17 ปี กับสโมสรอาแจ็กซ์ ซึ่งในขณะนั้นยังเป็นสโมสรกึ่งอาชีพอยู่ จนกระทั่ง 2 ปีต่อมาอาแจ็กซ์กลายเป็นสโมสรที่ประสบความสำเร็จที่สุดของโลก และด้วยลีลาการเล่นที่รวดเร็วและสร้างสรรค์ ที่เรียกกันว่า “Total Football” ของเขา ทำให้ครัฟฟ์เป็นหัวใจหลักของทีมได้เสมอมา จนหลาย ๆ ครั้งที่การเล่นของเขานำมาซึ่งชัยชนะให้กับทางอาแจ็กซ์ และทีมชาติเนเธอร์แลนด์ได้หลายครั้งหลายครา

          ผลงานในสนามของโยฮัน ครัฟฟ์ เองก็เป็นที่ประจักษ์แก่สายตาแฟนบอลทั่วโลกอย่างเห็นได้ชัด โดยเขานำอาแจ็กซ์คว้าชัยด้วยผลงานการทำประตู 25 ลูก ใน 23 นัด คว้าตำแหน่งนักเตะยอดเยี่ยมตั้งแต่อายุ 18 ปี หลังจากนั้นก็พาสโมสรคว้าแชมป์ยุโรป และพาทีมชาติคว้าแชมป์ยุโรปด้วย แต่อย่างไรก็ตาม ครัฟฟ์ไม่เคยพาอัศวินสีส้มสัมผัสกับความสำเร็จในการแข่งขันฟุตบอลโลกได้เลยสักครั้ง โดยครั้งที่ใกล้เคียงที่สุดก็ทำได้เพียงแค่เข้าชิงกับทีมชาติเยอรมันตะวันตก ซึ่งจบลงด้วยความพ่ายแพ้ไปอย่างน่าเสียดายที่สกอร์ 2-1

          หลังจากบอกลาการโลดแล่นในสนาม โยฮัน ครัฟฟ์ ผันตัวเป็นผู้จัดการทีม เคยบริหารทีมชั้นนำอย่าง อาแจ็กซ์ และบาร์เซโลนา ปัจจุบันเป็นผู้จัดการทีมดูแล คาตาโลเนีย สโมสรฟุตบอลในสเปน

ซีเนดีน ซีดาน


คลิปZidane: Best player and his greatest goal...Final Champions League [HD] Best  โพสต์โดยคุณ chtichaine สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม

          6. ซีเนดีน ซีดาน (Zinedine Zidane)

          ยอดนักฟุตบอลทีมชาติฝรั่งเศสผู้พกพาเทคนิคแพรวพราวพลิ้วไหวที่สุดคนหนึ่งของโลกลูกหนัง เพียบพร้อมทั้งทักษะการครองบอล การทำประตู การเปิดเกมรุก ถือเป็นหัวใจสำคัญของทีมชาติฝรั่งเศสในยุคนั้น

          ซีดาน เกิดในครอบครัวอพยพชาวแอลจีเรียมุสลิม เริ่มเล่นฟุตบอลอาชีพเมื่ออายุ 17 ปี ติดทีมชาติครั้งแรกเมื่ออายุ 22 ปี หลังจากนั้น 2 ปี ซีดานได้โอกาสย้ายไปร่วมทีมยูเวนตุส จนคว้าแชมป์ลีกอิตาลีมาครองได้สำเร็จ นอกจากนี้ช่วงจุดพีคของซีดานเกิดขึ้นเมื่อตอนฟุตบอลโลกปี 1998 ที่ฝรั่งเศสเป็นเจ้าภาพ โดยสามารถโหม่งประตูย้ำชัยชนะบราซิลไปในสกอร์ 3-0 และได้รับรางวัลบัลลงดอร์ในปีนั้น ถัดมาไม่นานยังพาทีมชาติฝรั่งเศสคว้าแชมป์ยูโรปี 2000 ได้อีก ด้วยผลงานการเล่นที่สุดยอดขนาดนี้ทำให้รีล มาดริด ทุ่มเงินซื้อตัวซีดานจากยูเวนตุสด้วยค่าตัวเป็นสถิติโลกในขณะนั้นด้วยจำนวน 60 ล้านปอนด์ และแม้ค่าตัวจะแพงมหาศาลแต่คุ้มค่าทุกเม็ด เพราะเขาตอบแทนสโมสรด้วยการพาทีมราชันชุดขาวคว้าถ้วยแชมป์เปี้ยนลีคด้วยลูกวอลเลย์สุดสวย แต่หลังจากนั้นในปี 2006 ซีดานก็ประกาศเลิกเล่นฟุตบอลอย่างเป็นทางการหลังจากเกิดเหตุหัวโขก มาเตรัซซี่ กองหลังทีมชาติอิตาลี ในนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลโลกปีนั้น จนมีผลทำให้ทีมพ่ายแพ้ ซึ่งเป็นการปิดฉากเส้นทางในวงการลูกหนังที่ไม่น่าจดจำสักเท่าไหร่

เลฟ ยาชิน


คลิปLev Yashin.   โพสต์โดยคุณ  maxiturbofulสมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม

          7. เลฟ ยาชิน (Lev Yashin)

          ยอดนายทวารชาวสหภาพโซเวียต หรือรัสเซียในปัจจุบัน โดยยาชินเป็นส่วนสำคัญของทีมชาติและสโมสรดินาโม มอสโก มีส่วนช่วยให้ทีมรอดพ้นจากการเสียประตูจนได้รับชัยชนะ

          ทั้งนี้ เลฟ ยาชิน เริ่มต้นอาชีพกับสโมสรดินาโม มอสโก  หลังจากนั้น 4 ปี เขาได้รับคัดเลือกให้เล่นในทีมชาติชุดใหญ่ และคว้าเหรียญทองโอลิมปิกในปี 1956 นอกจากนี้ยังเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลโลกทั้งหมด 3 ครั้ง และได้รับรางวัลบัลลงดอร์ ซึ่งนับว่าเป็นผู้รักษาประตูคนเดียวที่ได้รางวัลนี้ไปครองในประวัติศาสตร์วงการฟุตบอล

          อย่างไรก็ตาม ยาชิน เสียชีวิตในปี 1990 ขณะผ่าตัดขา โดย เลฟ ยาชิน ยังคงเป็นแรงบันดาลใจให้กับนักฟุตบอลหลาย ๆ คน ในฐานะผู้รักษาประตูที่ยิ่งใหญ่และนักกีฬาที่ทุ่มเทอีกด้วย

ยูเซบิโอ



คลิป Eusébio "The Black Panther" โพสต์โดยคุณ tslplสมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม

          8. ยูเซบิโอ (Eusebio)

          ยูเซบิโอ ยอดนักเตะเจ้าของฉายา "ไอ้เสือดำแห่งโมซัมบิค" เริ่มเล่นฟุตบอลอาชีพในบ้านเกิดตัวเอง เมื่ออายุ 15 ปี เขาได้รับการทาบทามจากยูเวนตุส แต่ถูกแม่ห้ามไว้ ต่อมาเมื่ออายุ 18 ปี ยูเซบิโอได้เริ่มต้นค้าแข้งต่างแดนกับสโมสรเบนฟิก้า ทีมดังในลีคโปรตุเกส และเขาก็ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมโดยนัดแรกที่ลงสนามเขาก็ซัดแฮตทริกได้ทันที หลังจากนั้น 1 ปีเขาก็ได้รับรางวัลบัลลงดอร์ และรองเท้าทองคำไปครอบครอง นอกจากนี้ยังมีสถิติสวยหรูด้วยการลงสนามให้เบนฟิกา 301 นัด ยิงได้ 317 ประตู ทั้งนี้ ปัจจุบันเขาเป็นกรรมการด้านเทคนิคให้กับทีมชาติโปรตุเกส

บ็อบบี้ ชาร์ลตัน


คลิป Bobby Charlton - Best Goals  โพสต์โดยคุณ j richardsสมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม


          9. บ็อบบี้ ชาร์ลตัน (Bobby Charlton)

          นักฟุตบอลชาวอังกฤษที่ยิ่งใหญ่ที่สุด เป็นหนึ่งในนักฟุตบอลประวัติศาสตร์ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และเป็นหนึ่งในนักฟุตบอลที่รอดชีวิตจากเหตุเครื่องบินตกที่มิวนิค เยอรมัน เซอร์ บ็อบบี้ ชาร์ลตัน เป็นกองกลางที่มีสัญชาตญาณการทำประตูที่ดีเยี่ยมและการเปิดเกมรุกที่เป็นยอด และยังขึ้นชื่อเรื่องความอึดในการเล่น วิ่งแรงดีไม่มีตกตลอด 90 นาทีอีกด้วย

          เซอร์ บ็อบบี้ ชาร์ลตัน เป็นนักฟุตบอลที่กวาดรางวัลส่วนตัวและกับสโมสรมามากมาย โดยเริ่มต้นอาชีพกับสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และเกือบทำสถิติคว้าดับเบิลแชมป์ได้ หากไม่แพ้โบลตันในถ้วย เอฟเอ คัพในปี 1957 และยังมีโอกาสพาทีมคว้าแชมป์ต่าง ๆ มากมาย นอกจากนี้ เขายังลงเล่นให้กับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดมากที่สุดถึง 606 นัดและยิงได้ 199 ประตู

          ทางด้านผลงานในทีมชาติ เซอร์ บ็อบบี้ ชาร์ลตัน ผิดหวังกับฟุตบอลโลกครั้งแรกในปี 1962 ที่ทีมต้องตกรอบด้วยการพ่ายให้กับบราซิล แต่หลังจากนั้นก็อังกฤษก็มีโอกาสชูถ้วยฟุตบอลโลกเป็นครั้งแรก และครั้งเดียว ในปี 1966 พร้อมทั้งได้บัลลงดอร์ในปีเดียวกัน

          ปัจจุบัน เซอร์ บ็อบบี้ ชาร์ลตัน ทำงานในตำแหน่งผู้บริหารทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

สแตนลี่ย์ แมทธิวส์


คลิป Sir\' Stanley Mathews   โพสต์โดยคุณ Albert Saludasสมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม

          10. สแตนลี่ย์ แมทธิวส์ (Stanley Matthews)

          สแตนลี่ย์ แมทธิวส์ ถือเป็นนักเตะที่เล่นฟุตบอลอาชีพยาวนานที่สุดถึง 33 ปีก่อนจะตัดสินใจแขวนสตั๊ด โดยปีกขวามหัศจรรย์ผู้นี้ป่วนกองหลังด้วยความเร็วจนเป็นเอกลักษณ์และได้รับฉายาพ่อมดแห่งการครองบอล

          แมทธิวส์ เริ่มเล่นอาชีพครั้งแรกเมื่ออายุ 17 ปี กับสโมสร สโต๊ค ซิตี้ และเขาสามารถพาทีมขึ้นชั้นสู่ลีกที่สูงกว่าได้เป็นผลสำเร็จ หลังจากนั้นแบล็ค พูลก็ซื้อตัวไป ซึ่งในที่สุดเขาก็นำทีมคว้าถ้วยเอฟเอคัพไปครอง ก่อนที่จะย้ายกลับมาช่วยกู้สถานการณ์อันย่ำแย่ของ สโต๊ค ซิตี้ จนกลับมายืนในลีคสูงสุดได้อีกครั้ง

          ในขณะที่ฟอร์มการเล่นให้กับทีมชาติไม่ค่อยโดดเด่นมากนัก และไม่ได้รางวัลใด ๆ มาประดับเกียรติยศส่วนตัว แต่ฝีเท้าของเขายังคงเป็นที่ยำเกรง ด้วยการไล่ถล่มอิตาลีถึง 4 ประตู ก่อนประกาศเลิกเล่นทีมชาติขณะอายุได้ 43 ปี

          ปัจจุบัน สแตนลี่ย์ แมทธิวส์  เสียชีวิตแล้วในปี 2000 ด้วยวัย 85 ปี แต่ผลงานต่าง ๆ ของเขาก็ยังคงติดอยู่ในความทรงจำของแฟนบอลไปอีกตราบนานเท่านาน

          ยอดนักฟุตบอลเหล่านี้ ต่างสร้างประวัติศาสตร์ของตัวเองไว้อย่างน่าชื่นชม ด้วยการผ่านอุปสรรคต่าง ๆ ทุ่มเทฝึกฝน เพียรพยายาม จนประสบความสำเร็จในอาชีพของตน และเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนทั้งโลกได้ ซึ่งเราจะจดจำนักฟุตบอลในตำนานเหล่านี้ไว้ในความทรงจำตลอดไป


         คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อน ๆ ได้ที่นี่



ขอขอบคุณภาพประกอบจาก bestplayerintheworld.com , worldcup2day.com , radioguantanamo.icrt.cu , football-history.net , lastfm.com.footballsoccerfocus.comthefootballasylum.com , friendsreunited.com เเละ givemefootball.com






เรื่องที่คุณอาจสนใจ
10 นักฟุตบอลฝีเท้าขั้นเทพที่น่าจดจำตลอดกาล อัปเดตล่าสุด 7 มิถุนายน 2556 เวลา 13:45:09 80,390 อ่าน
TOP