เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
โยคะ นับว่าเป็นเทคนิคการออกกำลังกายที่มีประโยชน์มากที่สุดวิธีหนึ่งเลยทีเดียว เพราะนอกจากจะช่วยให้สุขภาพของเราดีขึ้น รวมทั้งมีรูปร่างที่ได้สัดส่วนแบบที่ต้องการแล้ว ยังช่วยฝึกจิตให้มีสมาธิแน่วแน่มั่นคงด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ดี การทำโยคะบางท่าออกจะยากสำหรับมือสมัครเล่นอยู่สักหน่อย จากการที่บางคนไม่มีทักษะหรือประสบการณ์ในการปฏิบัติมาก่อน ดังนั้นวันนี้กระปุกดอทคอมจึงได้นำข้อมูลท่าโยคะสุดหินที่ว่านี้จากเว็บไซต์ mensfitness มาแนะนำให้ได้รู้จักกัน เผื่อเทคนิคการทำท่าโยคะนี้ จะช่วยให้ท่ายาก ๆ กลายเป็นเรื่องง่ายสำหรับคุณ
1. ท่าสะพานโค้ง
เริ่มด้วยท่าที่ช่วยกระชับกล้ามเนื้อส่วนไหล่ สร้างความยืดหยุ่น แถมยังลดหน้าท้องได้ในตัวโดยการทำท่าสะพานโค้ง เริ่มต้นให้คุณนอนหงายบนเสื่อโยคะ งอเข่าแยกขาออกจากกัน ในขณะที่ฝ่ามือถูกวางคว่ำหน้าอยู่ข้างใบหู แล้วค่อย ๆ ยกตัวขึ้นค้างเอาไว้ให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยพยายามให้นานประมาณลมหายใจเข้าออกสัก 10 ครั้ง ทำเป็นเซตวันละ 3 ครั้ง โดยสามารถเว้นเวลาหยุดพักในแต่ละครั้งได้
2. ท่ายืนด้วยศีรษะ
ท่านี้ขอเตือนไว้ว่าถ้าไม่เซียนจริงอย่าทำเองเด็ดขาดนะครับ และควรทำบนเสื้อโยคะเพื่อความปลอดภัยด้วย ว่าแล้วก็มาเริ่มกันเลย โดยคุณต้องอยู่ชิดข้างฝา ก้มหน้าเอาหัวติดพื้นในขณะที่แขนทั้งสองข้างรองอยู่ด้านหลัง แล้วจึงค่อยยกสะโพกขึ้นตามมา ค้างไว้สักพัก จากนั้นค่อยยกขาขึ้นพิงกำแพงเอาไว้ หากมั่นใจว่าตำแหน่งการจัดวางท่าทางมั่นคงแล้ว จึงเอาเท้าออกจากผนังมาชูค้างไว้ด้วยตัวเอง
3. ท่ายืนด้วยแขน
สำหรับคนที่ต้องการจะเสริมความแข็งแกร่งช่วงไหล่และหลัง ก็ต้องเลือกทำท่านี้ ด้วยการนอนคว่ำหน้าคุกเข่าให้ปลายเท้าชิดกำแพง จากนั้นก็ยกแขนขึ้นเอาขาสองข้างยันกำแพงเอาไว้ และเมื่อคุณรู้สึกมั่นคงแล้วก็ยกขาทั้งสองขึ้นเหนืออากาศได้เลย ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัย ควรทำบนเสื่อโยคะด้วยนะ
4. ท่าหกกบ
การเล่นโยคะท่านี้จะช่วยให้คุณมีกล้ามเนื้อแขนแข็งแรงสมชายมากขึ้น ซึ่งคุณต้องเริ่มด้วยการนั่งยอง ๆ โดยวางแขนทั้งสองไว้ด้านหน้าระหว่างขา ฝ่ามือจรดพื้น จากนั้นค่อย ๆ ยกขาขึ้นทั้งที่งอไว้อย่างเดิม และใช้แขนเป็นตัวรับน้ำหนัก ทั้งนี้การทำหกกบค่อนข้างจะต้องใช้ความอดทนสูงอยู่สักหน่อย เพราะต้องฝึกแบบค่อยเป็นค่อยไป ดังนั้นอย่าฝืนตัวเองมากนัก และค่อย ๆ ยกช้า ๆ เพื่อให้ท่าของคุณสมบูรณ์
5. การนั่งสมาธิ
แม้ว่าท่านี้จะดูไม่ได้ลำบากยากเย็นเท่าท่าอื่น ๆ แต่ถ้าคิดจะทำให้ถูกต้องล่ะก็ ใช่ว่าทุกคนจะทำได้นะ เพราะการนั่งสมาธินั้นจิตใจของคุณต้องว่างเปล่าจริง ๆ ห้ามมีเรื่องใดมารบกวนเด็ดขาด คุณจึงควรมองหามุมสงบในการนั่งสมาธิ เช่นห้องนอนหรือห้องพระ เป็นต้น แล้วหลับตาลงโยนความคิดฟุ้งซ่านทิ้งไปซะ รับรองว่าจะช่วยให้คุณมีสติยั้งคิดในการทำทุกสิ่งมากขึ้นเยอะเลยล่ะ
ทั้งนี้โยคะก็เหมือนกับการออกกำลังกายแบบอื่น ๆ ตรงที่จำเป็นต้องอาศัยความอดทนและความขยันฝึกปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ เพราะฉะนั้นควรทำเป็นประจำทุกวันเพื่อผลลัพธ์ที่ดีด้วยนะครับ