เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก Wikipedia.org, Siamintelligence
หลังจากที่แอปเปิล (Apple) เปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่คือ iPhone 5 และทำยอดขายทะลุ 5 ล้านเครื่องด้วยเวลาเพียง 3 วันเท่านั้น มากกว่า iPhone รุ่นก่อน ๆ ที่เคยมีมา และถือว่าเป็นปรากฏการณ์สำคัญของแอปเปิลเลยทีเดียว สำหรับ iPhone 5 ถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีใหม่บางส่วนไม่ถึงกับใหม่ทั้งหมด และสิ่งที่เพิ่มเข้ามาใน iPhone 5 ก็คือการรองรับเครือข่าย LTE หรือ 4G ชื่อนี้ในประเทศไทยอาจจะไม่คุ้นเคยเท่าไรนัก เพราะยังไม่ได้มีการเปิดให้บริการทั่วประเทศ มีเพียงการทดสอบภายในวงแคบ ๆ เท่านั้น วันนี้เรามาทำความรู้จักกับเทคโนโลยี LTE ว่ามันคืออะไรและมีประโยชน์อย่างไรบ้าง
สำหรับ LTE หรือ Long term Evolution ความหมายเดิมทางวิศวกรรมของ LTE ก็คือเป็นชื่อยุค 3.9G แต่ในบรรดาผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือ-โอเปอเรเตอร์ในต่างประเทศยกให้ LTE เป็น 4G หรือโทรศัพท์ยุคที่ 4 นั่นเอง เทคโนโลยี LTE ถือว่าไม่ใช่เรื่องใหม่มาก เพราะในต่างประเทศมีใช้กันมา 2-3 ปีแล้ว เช่น สหรัฐอเมริกา เกาหลีใต้ สแกนดิเนเวีย ญี่ปุ่น สิงคโปร์ ซึ่งถ้าจะให้อธิบายง่าย ๆ LTE เป็นเทคโนโลยีการส่งข้อมูลที่ให้ความเร็วเหนือกว่า 3G ในปัจจุบันอีกหลายเท่าตัวซึ่งถือเป็นพัฒนาการอีกขั้นต่อจาก 3G ทำให้มันจึงถูกเรียกชื่อเป็น 4G ซึ่งตามทฤษฎี 4G LTE แบ่งเป็น 2 ชื่อมาตรฐาน คือ 4G LTE ที่สามารถอัพโหลด 50 Mbps และดาวน์โหลด 100 Mbps และ LTE Advance ที่สามารถอัพโหลด 500 Mbps และดาวน์โหลด 1Gbps
iPhone 5
ในปัจจุบันมีอุปกรณ์ที่สามารถใช้บนเครือข่าย 4G ซึ่งอุปกรณ์ก็มีความคล้ายคลึงกับอุปกรณ์ที่ใช้บน 3G เช่น โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ตและแอร์การ์ด เป็นต้น แต่จะมีจุดที่แตกต่างก็คือสัญลักษณ์ที่บอกว่ารองรับ 4G LTE หรือระบุสเปคบนอุปกรณ์ว่ารองรับ LTE ยกตัวอย่างอุปกรณ์ที่รองรับ 4G ที่มีขายอยู่ในประเทศไทยตอนนี้ ก็คือ The New iPad และ iPhone5 รวมไปถึงบริษัทสมาร์ทโฟนรุ่นอื่น ๆ เช่น Samsung, LG หรือ HTC ก็ได้ผลิตสมาร์ทโฟนที่รองรับ 4G ออกมาทำจำหน่ายแล้วเช่นกัน
ด้านคลื่นความถี่ของ 4G LTE ในแต่ละประเทศหรือแต่ละทวีปจะใช้ย่านคลื่นความถี่แตกต่างกันไป อย่างเช่น อเมริกาเหนือ ใช้ LTE คลื่นความถี่ 700, 800, 1700 และ 1900 MHz, ทวีปยุโรป ใช้คลื่นความถี่ 800, 900, 1800 และ 2600 MHz, ทวีปเอเชีย นิยมใช้คลื่นความถี่ 1800, 2600 MHz, ออสเตรเลีย ใช้คลื่นความถี่ 1800 MHz ส่วนในประเทศไทยได้ทดสอบ 4G แล้วเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา โดยทดสอบบนคลื่นความถี่ 1800 และ 2300 MHz หลังจากการทดสอบแล้วก็ต้องรอต่อไปว่าจะเลือกใช้คลื่นความถี่ไหน เป็นคลื่นความถี่หลักในการให้บริการ 4G LTE ในไทยในอนาคต
The New iPad
ทั้งนี้ ใครที่คิดจะซื้อ iPhone 5 แล้วอยากจะใช้ 4G LTE ในประเทศไทย ก็คงต้องรอไปก่อน เพราะตอนนี้ในประเทศไทยให้บริการเครือข่าย 2G และ 3G ส่วนเครือข่าย 4G LTE นั้น ยังทดสอบกันอยู่ และไม่ได้มีการเปิดบริการให้คนทั่วไปได้ใช้งาน จึงทำให้ iPhone5 สามารถใช้ความเร็วได้สูงสุดแค่ 3G เท่านั้น ในขณะที่เพื่อนบ้านของเรา อย่าง ประเทศลาว ก็ได้มีการใช้งานโทรศัพท์มือถือบนเครือข่าย 4G หมดแล้ว
แต่สำหรับประเทศไทยก็ยังพอมีวี่แววว่าจะได้ใช้ 4G ในอนาคตอันใกล้นี้ โดยคลื่น 1800MHz ที่ปัจจุบันเป็นของ True Move (ไม่ใช่ True Move H) และ GSM1800 กำลังจะหมดสัญญาสัมปทานในเดือนกันยายน 2556 และทาง กสทช. ก็แสดงเจตนาชัดเจนว่าจะนำคลื่นนี้มาให้บริการ 4G แทน ซึ่งคาดว่าคงใช้เวลาอีกไม่นาน ประเทศไทยก็จะมี 4G ใช้งานกันแล้ว เย้!!