ขจัดความเครียดให้ถูกวิธี ไม่ยากอย่างที่คิด

ขจัดความเครียดให้ถูกวิธี ไม่ยากอย่างที่คิด

ขจัดความเครียดให้ถูกวิธี ไม่ยากอย่างที่คิด (Men’s Health)
เรื่อง Men’s Health US แปลและเรียบเรียง จิตติมา

          เราทุกคนต่างรู้ดีว่าความเครียดเป็นสาเหตุที่ทำให้คนเราอ่อนแอทั้งกายและใจ ดังนั้น หลาย ๆ คนจึงพยายามหาทางคลายเครียดด้วยวิธีที่แตกต่างกันออกไป แต่คุณแน่ใจหรือเปล่าว่าวิธีคลายเครียดของคุณทำให้ร่างกายคุณดีขึ้นหรือแย่ลงกันแน่

          เวลารู้สึกเครียด เพียงแค่คุณหายใจลึก ๆ สักสองสามทีก็เป็นการผ่อนคลายแล้ว แต่แทนที่จะหายใจลึก ๆ คุณกลับคว้าขนมขบเคี้ยวมากิน คุณว่าน่าแปลกไหมที่คนส่วนใหญ่มักจะคลายเครียดด้วยการกิน...ไม่แปลกหรอก เพราะ ดร.เจมส์เฮอร์แมน นักประสาทวิทยาที่มหาวิทยาลัยซินซินเนติ อธิบายว่า สมองที่ตึงเครียดจะบงการให้คุณขจัดความเครียดด้วยวิธีที่รวดเร็วทันใจอย่างการกินอาหารหรือการดื่มเหล้า ดร.เฮอร์แมนบอกว่า "การกินอาหารหรือดื่มเหล้าทำให้เรารู้สึกมีความสุขและเป็นการทำให้สมองส่วนที่ควบคุมอารมณ์ซึ่งเรียกว่า อะมิกดาลา สงบลงได้"

          นอกจากโรคอ้วนจะถามหาแล้ว ปัญหาที่ตามมาจากการกินขนมคลายเครียดก็คือ วิธีนี้เป็นเพียงการปฐมพยาบาลอาการเครียดเบื้องต้นเท่านั้นเอง ในระยะยาวการแก้เครียดแบบนี้กลับมีผลทำให้คุณต้องประสบกับภาวะเครียดเรื้อรัง เมื่อใจคุณมีความทุกข์ ร่างกายคุณก็จะย่ำแย่ลงไปด้วย งานวิจัยชิ้นใหม่ของมหาวิทยาลัยออริกอนสเตทพบว่าผู้ชายวัยกลางคนที่มีภาวะเครียดเรื้อรังมีโอกาสเสียชีวิตภายใน 18 ปีข้างหน้า ซึ่งสูงกว่าผู้ชายที่ไม่ค่อยเครียดถึง 50 เปอร์เซ็นต์ แล้วคุณจะเลือกเป็นผู้ชายกลุ่มไหนดีล่ะ?

          คุณเลือกถูกแล้วครับ...คราวนี้แทนที่คุณจะคลายเครียดด้วยวิธีเดิม ๆ ที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ลองหันมาขจัดความเครียดด้วยเทคนิคที่ดีกว่า จิตใจคุณจะได้ผ่อนคลายเหมือนมีมือโปรมานวดกดจุดคลายเส้นเลยทีเดียว

ขจัดความเครียดให้ถูกวิธี ไม่ยากอย่างที่คิด

          วิธีที่ชอบใช้กัน (ซึ่งเป็นวิธีที่ผิดมหันต์)

ซัดของหวาน

          ดร.เฮอร์แมนอธิบายว่าสาเหตุที่ทำให้คนเราอยากกินขนมหวาน ๆ แก้เครียดเป็นเพราะการบริโภคของหวานเป็นการกระตุ้นให้สมองส่วนพรีฟรอนทัลคอร์เท็กซ์ทำงาน ซึ่งสมองส่วนนี้มีหน้าที่ควบคุมอารมณ์ แต่การสวาปามขนมที่อุดมไปด้วยน้ำตาล ขณะที่คุณกำลังเครียดอาจก่อให้เกิดอันตรายแก่ร่างกาย สมาคมโรคเบาหวานของอเมริกาเคยเตือนว่าคนที่มีภาวะเครียดต่อเนื่องเป็นเวลานานอาจมีผลทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงอยู่แล้วสูงขึ้นอีกจนเข้าข่ายกลายเป็นผู้ป่วยโรคเบาหวานได้

กระดกเหล้า

          หลังจากดื่มไปสองสามแก้วคุณคงมึนจนนึกหน้าเพื่อนร่วมงานคนที่คุณเกลียดไม่ออกแล้วด้วยซ้ำ ขณะที่แอลกอฮอล์เข้าสู่กระแสเลือดในตอนแรกมีฤทธิ์ทำให้สมองคลายความตึงเครียดได้ชั่วคราว  จากนั้นแอลกอฮอล์จะทำให้คุณซึมเศร้าหนักขึ้นอีก ข้อมูลที่ได้จากงานวิจัยของมหาวิทยาลัย ชิคาโกระบุว่า ผู้ชายที่กำลังอยู่ในภาวะเครียดและได้รับแอลกอฮอล์เข้าไปในร่างกายจะมีอาการกระวนกระวายนานกว่าผู้ชายกลุ่มที่ไม่ได้รับแอลกอฮอล์ นี่อาจเป็นเพราะเหล้าเป็นตัวขัดขวางให้ร่างกายไม่อาจสงบลงได้เสียที จิตใจเลยพลอยกระวนกระวายไปด้วย

เล่นเกมทั้งคืน

          นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดพบว่า การเล่นวิดีโอเกมเป็นการกระตุ้นสมอง ทำให้รู้สึกยิ่งตื่นตัว ดร.ไมเคิล แอดดิส อาจารย์สอนวิชา จิตวิทยา มหาวิทยาลัยคลาร์ก บอกว่า การเล่นวิดีโอเกมมีข้อเสียคือส่วนมากเวลาเล่นคุณจะนั่งอยู่กับที่ ไม่ได้ออกกำลังกายใด ๆ แถมยังต้องคอยหาวิธีเอาชนะฝ่ายตรงข้ามจนอาจจะเครียดพอ ๆ กับเวลาทำงานก็ได้ เพราะฉะนั้นวิดีโอเกมจึงไม่อาจช่วยให้สมองผ่อนคลายได้หรอก

ขับรถซิ่งเกินเหตุ

          ทำไมผู้ชายส่วนใหญ่ถึงชอบขับรถเร็ว ดร.ไมเคิล แมคคี นักจิตวิทยาประจำคลินิก คลีฟแลนด์ อธิบายว่าสาเหตุที่ผู้ชายชอบทำแบบนั้น รวมถึงชอบทำอะไรที่ท้าทายและเสี่ยงภัย ก็เพราะกิจกรรมเหล่านั้นทำให้ร่างกายหลั่งสารเอนดอร์ฟินออกมา ความเจ็บปวดต่าง ๆ จึงมลายหายไป แต่การทำอะไรเสี่ยงภัยตอนที่เครียดมาก ๆ อาจก่อให้เกิดอันตรายจนถึงแก่ชีวิตได้เช่นกัน ดร.แอดดิส อธิบายว่า เมื่อคุณเครียด การตัดสินใจจะไม่มีความเด็ดขาด เนื่องจากคุณไม่สามารถชั่งใจได้แน่ชัดว่าควรหรือไม่ควรเสี่ยง จึงทำให้ตัวเองต้องตกอยู่ในอันตรายทั้ง ๆ ที่ไม่จำเป็น

บ้าทำแต่งาน

          บางครั้งเราก็อยากเอาชนะความเครียดด้วยการตั้งหน้าตั้งตาทำงานให้เสร็จเพราะมีงานที่ต้องรับผิดชอบมากมาย แต่ขอเตือนว่าอย่าพยายามทำเช่นนี้เป็นอันขาด ดร.แมคคี บอกว่า "คุณจะไม่มีสมาธิ และทำงานได้ช้าลงเมื่อสมองไม่ได้ผ่อนคลายจงหยุดพักและเริ่มต้นทำงานใหม่" และไม่ใช่แค่ประสิทธิภาพในการทำงานของคุณจะด้อยลงเท่านั้น ข้อมูลจากงานวิจัยชิ้นใหม่ของอังกฤษระบุว่า คนที่ทำงานวันละ 11 ชั่วโมงขึ้นไปมีโอกาสที่จะป่วยเป็นโรคหัวใจภายใน 12 ปีข้างหน้า มากกว่าคนที่ทำงานวันละ 7-8 ชั่วโมง ถึง 70 เปอร์เซ็นต์

หลบหน้าผู้คน

          ในเวลาที่เครียดจัด บางคนอาจจะอยากหลบไปพักใจอยู่ที่บ้าน ไม่อยากพบหน้าใครเลย งานวิจัยชิ้นหนึ่งค้นพบสาเหตุที่ทำให้ผู้ชายมีพฤติกรรมแบบนี้ว่า  เมื่อต้องต่อสู้กับความเครียด ผู้ชายมักจะหาทางออกโดย "การเผชิญหน้าหรือไม่ก็หนี" ในขณะที่ผู้หญิงมักจะจัดการกับความเครียดโดย "การขอกำลังใจและคำปรึกษาจากเพื่อน" แล้วทำอย่างไหนถึงจะดีกว่า งานวิจัยของอังกฤษเมื่อปี 2009 พบว่า เมื่อต้องประสบกับเหตุการณ์ที่ทำให้เครียด คนที่เก็บตัวอยู่คนเดียวจะมีค่าความดันโลหิตพุ่งสูงขึ้นมากกว่า และมีฮอร์โมนที่ก่อให้เกิดความเครียดหลั่งออกมามากกว่าคนที่ไม่ได้อยู่คนเดียว

ขจัดความเครียดให้ถูกวิธี ไม่ยากอย่างที่คิด

          ลองวิธีนี้สิเวิร์กกว่า

ทานไอศกรีมถ้วยเล็ก ๆ

          ดร.เฮอร์แมนอธิบายว่าของหวานช่วยขจัดความเครียดได้เพราะมีรสชาติหวาน ไม่ใช่เพราะมีไขมันหรือแคลอรี่สูง เขาบอกว่า "อาหารที่มีแคลอรี่สูงมักจะมีรสชาติดีกว่า แต่แคลอรีไม่ได้มีผลต่อการบรรเทาความเครียด" ให้คุณซื้อไอศกรีมถ้วยจิ๋วมาละเลียดกินช้า ๆ โดยใช้เวลาสักครึ่งชั่วโมง การที่คุณค่อย ๆ ซึมซับความอร่อยจะทำให้จิตใจคุณสงบได้ยาวนานด้วย

ฟังเพลงย้อมใจ

          งานวิจัยที่ตีพิมพ์ใน Nature Neuroscience พบว่า เวลาได้ฟังเพลงโปรดหรือรอฟังเพลง ท่อนที่ชื่นชอบเป็นพิเศษจะทำให้สมองหลั่งสารโดพามีนหรือสารแห่งความสุขออกมามากมาย นอกจากนี้ เอ็ดวาร์ด รอธ นักดนตรีบำบัด และเป็นอาจารย์สอนวิชาดนตรีบำบัด ที่มหาวิทยาลัยเวสเทิร์นมิซินแกน บอกว่า "การฟังเพลงแบบนี้ช่วยเพิ่มระดับโดพามีนในร่างกาย ความเครียดจึงลดลง เลยทำให้ไม่นึกอยากไปดื่มเหล้าแก้กลุ้มอีกด้วย"

ทำสิ่งที่มีประโยชน์

          ทาสีบ้าน หัดทำอาหาร หรือทำอะไรก็ได้ที่เป็นการสร้างทักษะใหม่ เพื่อกระตุ้นสมองให้หลั่งสารโดพามีนหรือสารแห่งความสุขออกมา นอกจากนี้ขณะที่คุณฝึกทำอะไรใหม่ ๆ จิตใจคุณจะสงบและมีสมาธิมากขึ้น ดร.แอดดิสบอกว่า "คุณจะไม่รู้เลยว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไรแล้ว เพราะใจกำลังจดจ่ออยู่กับการฝึกหัด และจิตใจคุณจะผ่อนคลาย เมื่ออยู่ในสภาวะเช่นนี้"

หนีไปออกกำลังกาย

          แต่ไม่จำเป็นต้องออกกำลังกายตามโปรแกรมปกติหรอก ดร.แอดดิส บอกว่า หากคุณเบื่อโปรแกรมออกกำลังกาย ร่างกายคุณก็จะไม่หลั่งสารเอนดอร์ฟินออกมาหลังเล่นฟิตเนส การออกกำลังกายเพื่อคลายเครียดเลยไม่ได้ผลเท่าที่ควร ดังนั้นควรลองอะไรใหม่ ๆ อย่างเช่น สมัครเรียนศิลปะการป้องกันตัว ลองไปปีนหน้าผาเทียมหรือขี่จักรยานเสือภูเขา เป็นต้น เพราะกิจกรรมเหล่านี้ช่วยให้คุณได้ออกแรงเต็มที่โดยไม่ต้องเสี่ยงอันตราย

พักเบรกหนึ่งนาที

          ให้พักสมองทุกชั่วโมงด้วยการหาอะไรขำ ๆ ดูสักพักนึง ดร.แมคคีบอกว่าการพักสมองช่วยให้คุณสามารถวิเคราะห์และซึมซับข้อมูลใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งในระหว่างพักให้ฝึกหายใจ 10 วินาที โดยหายใจเข้า 4 วินาที หายใจอออก 6 วินาที นี่เป็นวิธีขับไล่ความเครียดออกไป

ไปนั่งดูบอลกับเพื่อน

          ช่วงพักครึ่งก็ห้ามบ่นเรื่องงานเป็นอันขาด ดร.แอดดิสบอกว่า สำหรับผู้ชายการเล่าปัญหาในที่ทำงานให้เพื่อนฟังไม่ช่วยให้หายเครียดหรอก เพราะสุดท้ายจะกลายเป็นการแข่งขันกับเพื่อนว่า "ที่ทำงานใครแย่กว่ากัน" นอกจากนี้ ดร.พอลแลค ยังชี้ให้เห็นว่าแค่ได้อยู่กับเพื่อน ตัวรับสารสื่อประสาทกาบาในสมองของคุณก็จะถูกกระตุ้นให้ทำงาน แล้วตัวรับสารสื่อประสาทกาบาที่ว่านี้มีหน้าที่ควบคุมความกลัวและความวุ่นวายภายในจิตใจ ซึ่งทันทีที่ตัวรับดังกล่าวถูกกระตุ้น คุณก็จะรู้สึกสงบและสบายใจมากขึ้น






ขอขอบคุณข้อมูลจาก

ฉบับ สิงหาคม 2555




เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ขจัดความเครียดให้ถูกวิธี ไม่ยากอย่างที่คิด อัปเดตล่าสุด 17 กันยายน 2555 เวลา 13:57:14 5,436 อ่าน
TOP
x close