
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก Apple.com
นอกจากแอปเปิลจะเปิดตัว iPhone 5 สมาร์ทโฟนที่คนทั่วโลกรอคอยแล้ว แอปเปิลยังเปิดตัวผลิตภัณฑ์เครื่องเล่นมัลติมีเดียที่ไม่ได้ปรับปรุงมานาน อย่าง iPod touch และ iPod Nano ให้เป็นรุ่นใหม่ โดยมาพร้อมกับการดีไซน์แบบใหม่ด้วยสีสันสดใสและอัพเกรดสเปคให้แรงขึ้นกว่าเดิม พร้อมกับมอบประสบการณ์การรับฟังเพลง, วิทยุ FM Radio, ชมคลิปวิดีโอหรือแม้แต่การถ่ายรูปที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการได้ดีขึ้นกว่าเดิมด้วยฟังก์ชั่นมัลติมีเดียที่หลากหลายขึ้น สำหรับ iPod touch และ iPod Nano รุ่นใหม่ทั้ง 2 ตัวมีอะไรน่าสนใจบ้าง มาติดตามกันเลยจ้า

iPod touch (5th Generation)

iPod touch (5th Generation)

สำหรับ iPod touch (5th Generation) ซึ่งเป็นรุ่นที่ 5 แอปเปิลได้เปลี่ยนดีไซน์ใหม่พร้อมกับเติมสีสัน ที่มีให้เลือกถึง 5 สี ส่วนตัวเครื่องบางเฉียบเพียง 6.1 มม. (iPhone 5 บาง 7.6 มม.) มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 4 นิ้วและใช้ซีพียู A5 และปรับสเปคกล้องถ่ายภาพให้ดีขึ้นเป็น 5 ล้านพิกเซลพร้อมออโต้โฟกัส สามารถถ่ายภาพแบบพาโนรามาและถ่ายวิดีโอแบบ 1080p นอกจากนี้ iPod touch รุ่นใหม่สามารถใช้งาน Siri ได้เหมือนกับ iPhone 4S และยังมีอีกหนึ่งความพิเศษใน iPod touch ก็คือมีที่ตัวล็อกสายคล้องมือมาด้วยซึ่งติดอยู่ที่ด้านหลังเครื่องมุมล่างซ้าย โดยสายคล้องมือมีเรียกชื่อสุดเก๋ว่า iPod touch loop มีให้เลือก 5 สีเช่นกัน

iPod touch (5th Generation)














iPod nano (7th Generation)

iPod nano (7th Generation)

iPod nano (7th Generation)

สำหรับ iPod nano (7th Generation) ซึ่งเป็นรุ่นที่ 7 มาพร้อมดีไซน์สีสันสดใส มีหน้าจอแสดงผล ขนาด 2.5 นิ้วแบบ Multi-Touch ความละเอียด 240 x 432 พิกเซล ส่วนเครื่องเพียง 5.4 มิลลิเมตรเท่านั้น มีปุ่มกดปรับระดับเสียงและปุ่มเล่นเพลงอยู่ด้านข้างมาพร้อมกับชุดหูฟัง EarPods รุ่นใหม่ของแอปเปิล iPod nano รุ่นใหม่สามารถจัดเก็บเพลงได้มากถึง 16GB สามารถฟังเพลงได้ยาวนานถึง 40 ชั่วโมงและฟังวิทยุ FM ได้ ส่วนตัวเครื่องมีให้เลือก 8 สี ได้แก่ สีดำ, สีม่วง, สีฟ้า, สีเงิน, สีเขียว, สีเหลือง, สีชมพู และสีแดง โดยมีราคาจำหน่ายอยู่ที่ $149 หรือ 5,500 บาท ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมของ iPod nano ได้ที่ Apple.com/ipod-nano
ทั้งนี้ iPod Touch (5th Generation) และ iPod nano (7th Generation) จะเริ่มเปิดให้สั่งซื้อในวันที่ 14 กันยายนเป็นต้นไป สำหรับใครที่สนใจเครื่องเล่นมัลติมีเดียสีสันสดใสทั้ง 2 รุ่นนี้ สามารถซื้อได้ผ่าน Apple Store Online ประเทศไทย



