เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก thaicartrick.com
หลังจากที่ทางบริษัทฮอนด้า ออโต้โมบิล (ประเทศไทย) ได้จัดหนักเปิดตัวรถยนต์ 3 รุ่นใหม่ ได้แก่ "นิว ฮอนด้า ซีวิค", "ฮอนด้า แจ๊ซ ไฮบริด" และ "ฮอนด้า ซิตี้ ซีเอ็นจี" มาทำให้วงการรถยนต์ในบ้านเราสั่นสะเทือนกันไปรอบหนึ่งแล้ว แต่ทางบริษัทยังไม่หนำใจเลยจัดการเผยโฉม "ฮอนด้า ฟรีด" (Honda Freed) ดีไซน์ใหม่ออกมาเพิ่มเติม โดยคุณสมบัติเด่นอยู่ที่ความเอนกประสงค์ เหมาะสำหรับครอบครัวขนาดกลางที่กำลังมองหารถดี ๆ สักคันเป็นอย่างยิ่ง พร้อมเปิดเผยถึงราคาจำหน่ายให้ทราบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ฮอนด้า ฟรีด ตัวใหม่นี้ เป็นรถยนต์ 7 ที่นั่ง แบบปรับปรุงรูปโฉมใหม่ โดยเพิ่มความโฉบเฉี่ยวของรถในรูปแบบของสปอร์ตคาร์ ปรับปรุงการดีไซน์ของกันชนหน้าและกระจังหน้าขึ้นมาใหม่ ไฟหน้าเป็นแบบมัลติรีเฟล็กเตอร์ สปอยเลอร์หลังและล้ออัลลอยด์ดีไซน์ใหม่ ประตูข้างแบบสไลด์ซ้ายขวาที่ช่วยให้ขึ้นลงได้อย่างง่ายดาย ด้านเครื่องยนต์มาในรูปแบบ 4 สูบ 16 วาล์ว i-Vtec ขนาด 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 118 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 14.7 กิโลกรัมต่อเมตร ระบบเกียร์อัตโนมัติ 5 ระดับ ควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ Grade Logic Control ช่วยเพิ่มการตอบสนองเวลาขับ ระบบ Direct Control และ Shift Hold Control ช่วยรักษาความเร็วขณะเข้าโค้ง และระบบพวงมาลัยแบบแร็คแอนด์พีเนียน และเพาเวอร์ผ่อนแรงแบบไฟฟ้า (EPS) รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 5.2 เมตร
ส่วนภายในห้องโดยสารนั้น ตกแต่งด้วยสีเบจช่วยเสริมความสวยงามได้ดีเป็นอย่างยิ่ง พื้นที่ห้องโดยสารมีขนาดกว้าง เบาะที่นั่งคนขับสามารถปรับระดับสูงต่ำได้ โดยเบาะนั่งในแถวที่ 2 แยกออกจากกันได้ และแถวที่ 3 ปรับพับได้ พร้อมมีพนักแขนให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารได้ผ่อนคลาย นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีเด่น ๆ ได้แก่ มาตรวัดเเสดงอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง ระบบเนวิเกเตอร์นำทาง และสิ่งสร้างความบันเทิงอย่างเครื่องเล่นวิทยุ MP 3 พร้อมช่องเชื่อมต่อ USB และ AUX สำหรับอุปกรณ์ต่อพ่วง รวมไปถึงลำโพงภายในห้องโดยสารอีก 4 ตัวด้วย
สำหรับ ฮอนด้า ฟรีด ใหม่ มีให้เลือก 2 รุ่น คือ รุ่นเอสอี (SE) และรุ่นอีแอล (EL) โดยรุ่นอีแอล จะมีความพิเศษมากกว่า ตรงที่มีเครื่องเล่นดีวีดี และจอ LCD ขนาด 10 นิ้ว อยู่ด้านผู้โดยสารตอนหลัง สวิตช์ควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัย และระบบเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน Bluetooth เพิ่มเติมเข้ามาอีกด้วย ส่วนในเรื่องของสีมีให้เลือกทั้งหมด 4 สี คือ สีขาวบริลเลียนท์ (มุก, เพิ่มเงิน 10,000 บาท), สีเงินอลาบาสเตอร์ (เมทัลลิก) สีดำคริสตัล (มุก) และสีแบบใหม่ล่าสุด สีน้ำตาลสปาร์คลิ่ง (เมทัลลิก) สำหรับผู้ที่สนใจก็สามารถเลือกซื้อตามศูนย์ฮอนด้าได้เลย โดยราคานั้น สำหรับรุ่นเอสอีราคาอยู่ที่ 839,000 บาท ส่วนรุ่นอีแอลราคา 949,000 บาท