แนะนำแท็บเล็ต 2024 ยี่ห้อไหนดี เรารวบรวมมาให้แล้ว มีทั้งรุ่นราคาประหยัดจนถึงรุ่นระดับเรือธง สำหรับใช้ให้ความบันเทิงก็ได้ หรือใช้ทำงานก็ดี
หากเพื่อน ๆ คนไหนกำลังมองหาแท็บเล็ตสักเครื่องสำหรับไว้ใช้ทำงานต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการวาดรูป ตัดต่อ ทำงานกราฟิก หรือใช้เพื่อความบันเทิงอย่างดูหนัง เล่นเกม อยากรู้ว่ามีรุ่นไหนยี่ห้อใดให้เลือกซื้อบ้าง วันนี้เราก็ได้รวบรวมแท็บเล็ต 2024 สารพัดรุ่นที่กำลังจำหน่ายในช่วงปีนี้มาแนะนำ ส่วนจะมีรุ่นไหนบ้างนั้นลองตามไปดูกันเลย
แท็บเล็ต 2024 รุ่นไหนดี
1. iPad mini 7
iPad mini เจนใหม่ล่าสุดที่มาพร้อมชิปประมวลผล A17 Pro และรองรับ Apple Intelligence หน้าจอเป็น Liquid Retina IPS LED ขนาด 8.3 นิ้ว ความละเอียด 2266 x 1488 พิกเซล รองรับการแสดงผลแบบ True Tone ความจุเลือกได้สูงสุด 512GB มีกล้องหลัง 12MP กล้องหน้า Ultrawide 12MP มีลำโพงสเตอริโอในแนวนอน รองรับ Wi‑Fi 6E และ 5G (เฉพาะในรุ่น Cellular) มีเซ็นเซอร์ Touch ID แบตเตอรี่ใช้งานได้นานสูงสุด 9-10 ชั่วโมง ชาร์จผ่านพอร์ต USB-C แถมที่ชาร์จ 20W มาให้ในกล่อง และรันระบบปฏิบัติการ iPadOS 18 รองรับการใช้งานร่วมกับ Apple Pencil Pro (ต้องซื้อแยก) ตัวเครื่องมีให้เลือก 4 สี ได้แก่ สีฟ้า ม่วง สตาร์ไลท์เทา และสเปซเกรย์
-
iPad mini 7 Wi-Fi 128GB ราคา 17,900 บาท
-
iPad mini 7 Wi-Fi 256GB ราคา 21,900 บาท
-
iPad mini 7 Wi-Fi 512GB ราคา 28,900 บาท
-
iPad mini 7 Cellular 128GB ราคา 23,900 บาท
-
iPad mini 7 Cellular 256GB ราคา 27,900 บาท
-
iPad mini 7 Cellular 512GB ราคา 34,900 บาท
2. HUAWEI MatePad Pro 12.2-inch
แท็บเล็ต HUAWEI ระดับเรือธงที่มีหน้าจอแสดงผล Tandem OLED Papermatte ควบคู่ขนาด 12.2 นิ้ว ความละเอียด 2800 × 1840 พิกเซล ใช้ชิปประมวลผล Kirin T91 แรม 12GB ความจุ 512GB กล้องหลังคู่ 13MP + 8MP และกล้องหน้า ลำโพงและไมโครโฟนอย่างละ 4 ตัว มีแป้นพิมพ์ HUAWEI Glide ให้มาพร้อมเครื่อง รองรับแอปฯ GoPaint แบตเตอรี่ 5050mAh รองรับชาร์จเร็ว HUAWEI SuperCharge 100W ระบบปฏิบัติการ HarmonyOS 4.2
- HUAWEI MatePad Pro 12.2-inch ราคา 29,990 บาท
3. Redmi Pad SE 8.7
แท็บเล็ตราคาประหยัดจาก Xiaomi ที่เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไปและความบันเทิง มีหน้าจอถนอมสายตา 8.7 นิ้ว ความละเอียด HD+ รองรับ 90Hz ใช้ชิปประมวลผล Helio G85 แรม 4GB/6GB ความจุ 64GB/128GB ใส่ microSD ได้สูงสุด 2TB กล้องหลัง 8MP กล้องหน้า 5MP แบตเตอรี่ใหญ่ 6650mAh รองรับชาร์จเร็ว 18W และรันระบบปฏิบัติการ Android U ครอบทับด้วย Xiaomi HyperOS
-
Redmi Pad SE 8.7 4GB/64GB ราคา 3,999 บาท
-
Redmi Pad SE 8.7 4G 4GB/64GB ราคา 4,999 บาท
-
Redmi Pad SE 8.7 4G 6GB/128GB ราคา 5,999 บาท
4. HONOR Pad X8a
แท็บเล็ต HONOR ราคาหลักพัน มาพร้อมหน้าจอกว้างขนาด 11 นิ้ว อัตราการรีเฟรชสูง สบายตาด้วย HONOR FullView Display ความละเอียด 1920 x 1200 พิกเซล ใช้ชิปประมวลผล Snapdragon 680 4G Mobile Platform แรม 4GB ความจุ 128GB กล้องหลัง 5MP กล้องหน้า 5MP แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 8300mAh มีลำโพง 4 ตัว และรันระบบปฏิบัติการ Android 14 ครอบทับด้วย MagicOS 8.0
-
HONOR Pad X8a ราคา 7,990 บาท
5. Samsung Galaxy Tab S10 Series
แท็บเล็ต Samsung ซีรีส์เรือธงที่แบ่งออกเป็นรุ่น Tab S10+ และ S10 Ultra โดยตัวท็อป Tab S10 Ultra จะมาพร้อมหน้าจอ Dynamic AMOLED 2X ขนาด 14.6 นิ้ว ความละเอียด 2960 x 1848 พิกเซล รองรับ 120Hz และมีปากกา S Pen ให้มาพร้อมเครื่อง ใช้ชิปประมวลผล Dimensity 9300+ รองรับ 5G และ Wi-Fi 7 แรม 12GB ความจุ 512GB กล้องหลังคู่ 13MP กล้องหน้าคู่ 12MP มีลำโพงสเตอริโอ 4 ตัว กันน้ำ-กันฝุ่น IP68 แบตเตอรี่ 11200mAh รองรับชาร์จเร็ว 45W รันระบบปฏิบัติการ Android 14 ครอบทับด้วย One UI 6 และแน่นอนว่ารองรับ Galaxy AI ด้วย
-
Samsung Galaxy Tab S10+ Wi-Fi ราคา 36,900 บาท
-
Samsung Galaxy Tab S10+ 5G ราคา 41,900 บาท
-
Samsung Galaxy Tab S10 Ultra 5G ราคา 52,900 บาท
6. HUAWEI MatePad SE 11"
แท็บเล็ต HUAWEI ราคาหลักพัน ที่ดีไซน์ด้วยโลหะชิ้นเดียว มาพร้อมหน้าจอถนอมดวงตา HUAWEI FullView Display ขนาด 11 นิ้ว ความละเอียด FHD+ แรม 6GB/8GB ความจุ 128GB กล้องหลัง 8MP กล้องหน้า 5MP แบตเตอรี่ 7700 mAh รองรับชาร์จเร็ว 22.5W ระบบเสียงปรับแต่งโดย Histen 9.0 รองรับปากกา HUAWEI M-Pen lite (ต้องซื้อแยก) และรันระบบปฏิบัติการ HarmonyOS 2.0
-
HUAWEI MatePad SE 11" 6GB/128GB Wi-Fi ราคา 5,990 บาท
-
HUAWEI MatePad SE 11" 8GB/128GB LTE ราคา 7,990 บาท
7. HUAWEI MatePad 11.5"S
แท็บเล็ต HUAWEI ที่มาพร้อมหน้าจอ PaperMatte ถนอมสายตาขนาด 11.5 นิ้ว ความละเอียด 2.8K รองรับ 144Hz ใช้ชิปประมวลผล Kirin 9000WL รองรับ Wi-Fi 6 แรม 8GB ความจุ 256GB กล้องหลัง 13MP กล้องหน้า 8MP สามารถใช้งานร่วมกับปากกา M-Pencil ที่ขับเคลื่อนโดย NearLink และคีย์บอร์ดที่ถอดแยกส่วนได้ (ปากกาและคีย์บอร์ดต้องซื้อแยก) มีฟีเจอร์ HUAWEI Notes สำหรับใช้จดบันทึก และฟีเจอร์ Multi-Window หน้าต่างแบบลอยตัว ตัวเครื่องบางเพียง 6.2 มม. มีน้ำหนักเบาเพียง 510 กรัม ระบบเสียง HUAWEI Histen 9.0 แบตเตอรี่ 8800mAh และรันระบบปฏิบัติการ HarmonyOS 4.2
-
HUAWEI MatePad 11.5"S PaperMatte 8GB/256GB ราคา 17,990 บาท
8. Xiaomi Pad 6S Pro 12.4
แท็บเล็ตสเปกแรงจาก Xiaomi มาพร้อมสเปกแรงและหน้าจอขนาดใหญ่ โดยมีหน้าจอขนาด 12.4 นิ้ว ความละเอียด 3K รองรับ 144Hz ใช้ชิปประมวลผลระดับเรือธง Snapdragon 8 Gen 2 รองรับ Wi-Fi 7 แรม 8GB/12GB ความจุ 256GB/512GB กล้องหลัง 50MP กล้องหน้า 32MP มีลำโพง 6 ตัว รองรับ Dolby Vision และ Dolby Atmos แบตเตอรี่ใหญ่ถึง 10000mAh พร้อมรองรับชาร์จเร็ว 120W ไฮเปอร์ชาร์จ และรันระบบปฏิบัติการ Android 14 ครอบทับด้วย HyperOS
-
ราคา 18,990 บาท
9. Redmi Pad Pro
แท็บเล็ต Redmi ราคาเริ่มต้นไม่ถึงหมื่น มาพร้อมหน้าจอถนอมสายตาความละเอียดระดับ 2.5K ขนาดใหญ่ 12.1 นิ้ว ใช้ชิปประมวลผล Snapdragon 7s Gen 2 รองรับ Wi-Fi 6 แรม 6GB/8GB ความจุ 128GB/256GB กล้องหลัง 8MP กล้องหน้า 8MP แบตเตอรี่ใหญ่ 10000mAh รองรับชาร์จเร็ว 33W และรันระบบปฏิบัติการ Android 14 ครอบทับด้วย HyperOS
-
รุ่น 6GB/128GB ราคา 8,990 บาท
-
รุ่น 8GB/256GB ราคา 10,990 บาท
10. iPad Pro 2024
iPad Pro 2024 ถือว่าเป็นอุปกรณ์ Apple ที่เบาที่สุด โดยมาพร้อมหน้าจอ Ultra Retina XDR ขนาด 11 และ 13 นิ้ว ที่มีความสว่างสูงและคอนทราสต์ที่แม่นยำ รองรับ ProMotion 120Hz และยังมีรุ่นที่ใช้กระจกจอด้านผิวนาโนมาเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกด้วย โดยจะใช้พลังด้านการประมวลผลจากชิป Apple M4 ตัวใหม่ที่แรงกว่ารุ่นก่อน ทั้งการประมวลผลด้านกราฟิกและความสามารถด้าน AI อีกทั้งยังรองรับการใช้งานร่วมกับ Apple Pencil Pro ใหม่ สามารถเลือกความจุได้สูงสุด 2TB มีกล้องหลัง Wide 12MP และกล้อง TrueDepth Ultrawide 12MP รองรับ Face ID และสแกนเนอร์ LiDAR ใช้พอร์ต Thunderbolt / USB 4 แบตเตอรี่สามารถท่องเว็บหรือดูวิดีโอได้นานสูงสุด 10 ชั่วโมง และรันระบบปฏิบัติการ iPadOS 17
-
iPad Pro 11 นิ้ว Wi-Fi ราคาเริ่มต้น 39,900 บาท
-
iPad Pro 11 นิ้ว Cellular ราคาเริ่มต้น 47,900 บาท
-
iPad Pro 13 นิ้ว Wi-Fi ราคาเริ่มต้น 52,900 บาท
-
iPad Pro 13 นิ้ว Cellular ราคาเริ่มต้น 60,900 บาท
-
รุ่นท็อปสุด 13 นิ้ว Cellular 2TB จอกระจกด้านนาโน ราคา 104,900 บาท
11. iPad Air 6
iPad Air 6 มีการอัปเกรดชิปประมวลผลเป็นชิป Apple M2 ที่เร็วแรงกว่าเดิม มาพร้อมกล้องหน้าในแนวนอน มีให้เลือกทั้งขนาด 11 นิ้ว และ 13 นิ้ว ใช้หน้าจอ Liquid Retina โดยมีตัวเครื่องให้เลือกได้หลากหลายสีสัน รวมทั้งรองรับ Apple Pencil Pro ใหม่ เช่นเดียวกับ iPad Pro 2024 สามารถเลือกความจุได้สูงสุด 1TB มาพร้อมกล้องหลัง Wide 12MP กล้อง TrueDepth Ultrawide 12MP รองรับ Touch ID ใช้พอร์ต USB-C แบตเตอรี่ท่องเว็บหรือดูวิดีโอได้นานสูงสุด 10 ชั่วโมง และรันระบบปฏิบัติการ iPadOS 17
-
iPad Air 11 นิ้ว Wi-Fi ราคาเริ่มต้น 23,900 บาท
-
iPad Air 11 นิ้ว Cellular ราคาเริ่มต้น 29,900 บาท
-
iPad Air 13 นิ้ว Wi-Fi ราคาเริ่มต้น 29,900 บาท
-
iPad Air 13 นิ้ว Cellular ราคาเริ่มต้น 35,900 บาท
-
รุ่นท็อปสุด 13 นิ้ว Cellular 1TB จอกระจกด้านนาโน ราคา 55,900 บาท
12. Samsung Galaxy Tab S6 Lite (2024)
แท็บเล็ต Samsung ราคาหมื่นต้น ๆ ที่มีปากกา S Pen ให้มาในกล่อง มาพร้อมหน้าจอขนาดใหญ่ 10.4 นิ้ว ความละเอียด WUXGA+ ดีไซน์ตัวเครื่องบางเบา ใช้ชิปประมวลผล Octa-core 2.4GHz รองรับ 4G LTE แรม 4GB ความจุ 128GB กล้องหลัง 8MP กล้องหน้า 5MP แบตเตอรี่ 7040mAh เล่นวิดีโอได้นานสูงสุด 14 ชั่วโมง และรันระบบปฏิบัติการ Android 14 ครอบทับด้วย One UI 6.1
-
ราคา 11,990 บาท
13. HONOR Pad 9
แท็บเล็ต HONOR ที่มีตัวเครื่องเป็นวัสดุโลหะ มาพร้อมหน้าจอถนอมสายตาขนาด 12.1 นิ้ว ความละเอียดระดับ 2.5K รองรับ 120Hz ใช้ชิปประมวลผล Snapdragon 6 Gen 1 แรม 8GB ความจุ 256GB กล้องหลัง 13MP กล้องหน้า 8MP ลำโพงระบบเสียง 8 ทิศทาง แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 8300mAh รองรับชาร์จเร็ว 35W และรันระบบปฏิบัติการ Android 13 ครอบทับด้วย MagicOS 7.2
-
ราคา 10,990 บาท
วิธีเลือกซื้อแท็บเล็ต
ในการจะเลือกซื้อแท็บเล็ตมาใช้งานสักเครื่องนั้นมีสิ่งที่ควรพิจารณาหลายอย่างด้วยกัน เพื่อให้ได้รุ่นและยี่ห้อที่ดี มีคุณภาพ เหมาะกับลักษณะการใช้งาน โดยมีหลักวิธีเลือกซื้อดังต่อไปนี้
1. ยี่ห้อ
บางคนอาจจะมียี่ห้อแท็บเล็ตในใจที่ชื่นชอบเป็นการส่วนตัวอยู่แล้วไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ก็สามารถเจาะจงเลือกซื้อรุ่นของแบรนด์นั้น ๆ ได้เลย หรือถ้าใครยังไม่มีอาจพิจารณาจากชื่อเสียงของแต่ละแบรนด์ รวมถึงการรับประกันและบริการหลังการขายร่วมด้วย หรือถ้าคุณเป็นผู้ใช้ iOS ก็คงต้องเลือกซื้อแต่เฉพาะ iPad เท่านั้น
2. สเปก
ให้พิจารณาดูว่าต้องการซื้อมาใช้งานอะไรบ้าง ถ้าใช้งานทั่วไปก็อาจไม่จำเป็นต้องซื้อรุ่นแพงสเปกแรงมาก โดยเลือกรุ่นประหยัดราคาหลักพันก็เพียงพอแล้ว แต่หากจะเน้นเล่นเกมหรือทำงานด้านกราฟิกก็อาจเลือกรุ่นที่มีซีพียูแรง ๆ แรมเยอะ ๆ แบตเตอรี่อึด ๆ หน่อย นอกจากนี้สเปกอื่น ๆ ก็เลือกตามที่ชอบเลย เช่น หน้าจอใหญ่ กล้องหน้า-กล้องหลัง รวมทั้งฟีเจอร์เสริมอย่างการสแกนลายนิ้วมือ-ใบหน้า รองรับปากกาสไตลัส และลูกเล่นอื่น ๆ
3. ดีไซน์
ถัดจากสเปกก็มาดูที่ดีไซน์หน้าตาตัวเครื่องกันต่อว่าสวยถูกใจแค่ไหน ขนาดและรูปทรงตัวเครื่องเป็นแบบที่ชอบหรือไม่ รวมทั้งสีสันตัวเครื่องที่แต่ละรุ่นก็จะมีให้เลือกแตกต่างกันไป แต่หากเป็นรุ่นที่มีหน้าจอขนาดใหญ่จะทำให้ตัวเครื่องใหญ่ตามไปด้วย ซึ่งอาจทำให้พกพาได้ลำบากกว่ารุ่นที่มีหน้าจอเล็กกะทัดรัด
4. ราคา
แท็บเล็ตรุ่นที่สเปกสูง ๆ ก็มักจะมีราคาที่สูงตามไปด้วย ซึ่งถ้าหากคุณมีงบที่ค่อนข้างจำกัดก็คงเลือกรุ่นที่มีสเปกและคุณสมบัติเพียงพอกับลักษณะการใช้งาน หรืออาจตัดสินใจเพิ่มเงินอีกหน่อยถ้ารุ่นที่มีสเปกตามต้องการแพงเกินกว่างบที่ตั้งไว้แต่ยังอยู่ในระดับที่รับไหว นอกจากนี้ยังสามารถหาซื้อเครื่องมือสองเป็นอีกทางเลือกหนึ่งได้
ทั้งนี้ ราคาของแท็บเล็ตแต่ละรุ่นอาจแตกต่างจากราคาที่ได้ระบุไว้ ขึ้นอยู่กับแต่ละร้านค้าตัวแทนจำหน่ายและโปรโมชั่นต่าง ๆ เพราะฉะนั้นขอแนะนำให้เพื่อน ๆ ตรวจสอบราคาอีกครั้งก่อนตัดสินใจซื้อกันด้วยนะครับ
บทความเกี่ยวข้องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : samsung.com, huawei.com, mi.com, honor.com, apple.com