ฮาย Paper Planes ประวัติและเรื่องราวในชีวิตที่บอกผ่านรอยสัก แต่ละลายมีความหมายอย่างไร ตามไปส่องรอยสักของนักร้องชายไทยคนนี้กัน
กำลังเป็นไวรัลที่ลงข่าวบันเทิงแทบทุกสำนักเลยทีเดียวเมื่อเพลง ทรงอย่างแบด (Bad Boy) ของวง Paper Planes กลายเป็นเพลงไวรัลขวัญใจวัยรุ่นฟันน้ำนม ยิ่งมีคลิปที่ ฮาย Paper Planes นักร้องนำของวง ส่งไมค์ให้เด็ก ๆ ช่วยร้องเพลง ยิ่งทำให้หลายคนอมยิ้ม ซึ่งความอ่อนโยนของเขากับรอยสักที่ปรากฏบนตัวของนักร้องไทยชายคนนี้นั้นหลายคนมองว่าอาจจะดูขัดกัน จึงทำให้อยากรู้จักว่าเขาคนนี้คือใคร รอยสักผู้ชายแต่ละที่บนตัวเขามีความหมายอย่างไร กระปุกดอทคอมจึงขอพาไปส่องประวัติและรอยสักของ ฮาย Paper Planes หรือ ฮาย ธันวา กันครับ
สำหรับประวัติ ฮาย Paper Planes มีชื่อจริงว่า ธันวา เกตุสุวรรณ เกิดวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2536 เป็นคนจังหวัดฉะเชิงเทรา เขาเปิดเผยว่าเริ่มสนใจดนตรีมาตั้งแต่อายุ 15 ปี และเริ่มเล่นดนตรีอาชีพตามร้านอาหารกลางคืนตั้งแต่ตอนนั้น โดยตัดสินใจเลือกเรียนสายอาชีพเพื่อที่จะได้ทำงานง่าย ๆ ก่อนจะเริ่มก่อตั้งวง Paper Planes ตอนที่อายุได้ 16-17 ปี จากนั้นก็เริ่มเข้าสู่วงการบันเทิงด้วยการทำงานเบื้องหลังก่อน กระทั่งได้เข้าไปอยู่ในค่าย Genies Records ปัจจุบันมีเพลงดังติดหูมากมาย อาทิ “ก่อนเสียเธอไป” “ซ้ำซ้ำ” “เสแสร้ง” “กำหมัด” และ “ทรงอย่างแบด (Bad Boy)” เป็นต้น
นอกจากนี้ ฮาย Paper Planes ยังเป็นโปรดิวเซอร์ให้กับศิลปินดังอย่าง วันเดอร์เฟรม และ เต๋า เศรษฐพงศ์ แถมยังเป็นซาวด์เอนจิเนียร์ (Sound Engineer) หรือผู้มิกซ์ซาวด์ดนตรีฝีมือดีที่ใครหลายคนต้องการตัว รวมถึงอยู่เบื้องหลังวงดังที่ทุกคนรู้จักกันดีอย่าง Cocktail, The Yers, Retrospect และ Sweet Mullet อีกด้วย
ในส่วนของรอยสักนั้น ฮายเคยเปิดเผยในรายการ Tattoo Brothers สักแต่พูด ว่าเขาเริ่มสนใจรอยสักตั้งแต่เข้ามาอยู่ในวงการดนตรี เพราะรู้สึกว่าเท่ อยากจะเป็นชาวร็อก แต่เมื่อได้สักครั้งหนึ่งแล้วก็ย่อมมีครั้งต่อไปตามมา โดยแต่ละรอยสักเป็นการบอกเล่าเรื่องราวในแต่ละช่วงชีวิตของเขานั่นเอง ส่วนจะมีลายอะไรบ้าง ตามมาดูกันครับ
เริ่มที่ลายแรกคือ รอยสักรูปแพะ เกิดขึ้นเมื่อเขาได้รู้จักกับเจ้าของร้านสัก และอยากได้รอยสักเท่ ๆ สักลายหนึ่ง จึงให้ช่างสักออกแบบลายให้ กลายเป็ยรอยสักแรกที่ต้นแขนขวา จากนั้นเขาจึงสักที่หลังแขนขวาตามมา โดยสักเป็นรูปดาวและมีหน้าแพะอยู่ตรงกลาง เพื่อให้เชื่อมโยงกับรอยสักลายแรกนั่นเอง
สำหรับรอยสักต่อมาที่เป็นการถมดำที่แขน นั่นเพราะเขาเคยสักใบหน้าของแฟนเก่าเอาไว้ แต่มีเหตุให้เลิกกัน เดิมทีเขายังไม่ได้ลบรอยนี้ทิ้ง แต่เมื่อมีแฟนคนใหม่ เธออาศัยจังหวะที่เขาไปสักลายอื่นขอให้ถมดำลายนี้ ซึ่งฮายก็เห็นด้วย เพราะเทรนด์การถมดำก็กำลังเป็นที่นิยม จึงตัดสินใจสักทับลายเดิมนั่นเอง
รอยสักที่หลังมือเป็นรูปหมาจิ้งจอกถูกยิงด้วยธนู สื่อถึงความอดทนที่ไม่ว่าจะเจอเรื่องราวอะไรมาก็ต้องผ่านพ้นไปให้ได้ และที่เลือกสักที่หลังมือเพราะสื่อว่า ด้วยมือของตัวเองนี่แหละที่จะเป็นตัวกำหนดทุกอย่าง ส่วนลายดอกกุหลาบสีแดงด้านบนคือเติมให้รอยสักดูสวยงามมากยิ่งขึ้น เช่นเดียวกับลายกวางที่ท้องแขน
รอยสักรูปปลาวาฬ เกิดจากที่เขาเคยไปอ่านเรื่องปลาวาฬที่เหงาที่สุดในโลกมา โดยปลาวาฬตัวนั้นใช้คลื่นความถี่เสียงคนละคลื่นกับปลาวาฬตัวอื่น จึงทำให้ไม่สามารถสื่อสารกับเพื่อน ๆ ได้ ฮายคิดว่าเขาทำงานเกี่ยวกับเสียง จึงสักปลาวาฬตัวนั้น เพื่อบอกว่าถ้าเหงามากก็มาอยู่กับเขาแล้วกัน
รอยสักรูปนก สื่อถึงอิสรภาพ โดยนกตัวนั้นกำลังโบยบินและคาบกุญแจอยู่ แปลความหมายได้ว่า อิสระ ฮาย เปิดเผยว่า เขาเป็นคนต้องการอิสระ จึงเลือกสักลายนี้ ส่วนลายนกที่คอนั้นมาจากเขาคิดว่าการสักบริเวณคอ รูปร่างของนกเหมาะและสวยที่สุด โดยนกตัวนี้กางปีกแต่มีมือรองอยู่ด้านล่าง ตีความหมายได้ 2 อย่าง คือ ปล่อยให้นกโบยบิน หรือเป็นลูกนกที่มีมือคอยโอบอุ้ม ป้องกันไม่ให้ตกลงมา ซึ่งมือนั้นก็คือมือของเขาเอง แปลได้ว่า เรานี่แหละที่จะคอยโอบอุ้มตัวเองได้ดีที่สุด
ส่วนรอยสักลายสุดท้ายคือ ดอกกุหลาบที่ด้านข้างคอ โดยฮายบอกว่า ลายนี้แค่อยากได้งานขาว-ดำสวย ๆ จึงให้ช่างออกแบบลายกุหลาบสีดำมาให้ ซึ่งก็ดูเข้ากับลายนกที่คอดี
จะเห็นได้ว่ารอยสักแต่ละลายของ ฮาย Paper Planes ไม่ได้มีแค่ความเท่เท่านั้น แต่บางลายก็ยังแฝงความหมายลึกซึ้งอีกด้วย โดยเขาบอกว่าอนาคตอาจจะสักเพิ่ม แต่จะเน้นรอยสักที่มีเรื่องราวมากขึ้น และเป็นงานขาว-ดำทั้งหมด
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก : รายการ Tattoo Brothers สักแต่พูด, Instagram hyeimhye