รักษาฝ้าผู้ชายทำอย่างไร ? ใครว่าปัญหาฝ้า กระ จุดด่างดำ จะมีเฉพาะในผู้หญิงเท่านั้น หนุ่ม ๆ ต้องรู้ไว้ ฝ้าก็เกิดกับผู้ชายได้ มาดูวิธีรักษาฝ้า พร้อมเคล็ดลับการดูแลผิวหน้าให้ห่างไกลจากฝ้ากัน
พูดถึงเรื่อง “ฝ้า” อาจมีหนุ่ม ๆ หลายคนมองข้าม เพราะคิดว่าเป็นปัญหาผิวที่พบบ่อยในผู้หญิง แต่จริง ๆ แล้วผิวหน้าของผู้ชายก็สามารถเกิดฝ้า กระ จุดด่างดำ ได้เช่นกัน ยิ่งบวกกับไลฟ์สไตล์แมน ๆ ลุย ๆ ด้วยแล้ว จึงทำให้ผิวของผู้ชายเผชิญกับแสงแดด ฝุ่น มลภาวะ ได้มากกว่าผู้หญิง จนเกิดความหมองคล้ำและฝ้าได้ ทั้งนี้ ฝ้าในผู้ชายมักจะพบบริเวณโหนกแก้มมากที่สุด ตามมาด้วยส่วนกลางของใบหน้า และขอบแนวกราม ซึ่งไม่ค่อยเจอในผู้หญิง รวมถึงผู้ชายที่สัมผัสแสงแดดมาเป็นเวลานานจะพบฝ้าบริเวณหลังคอ แขน ขา และลำตัวได้อีกด้วย แน่นอนว่าแม้ฝ้าจะไม่เป็นอันตราย แต่ก็ส่งผลต่อความหล่อและเสียความมั่นใจเอาได้ง่าย ๆ
หากผู้ชายคนไหนที่กำลังกังวลกับปัญหาฝ้าบนใบหน้าอยู่ เรามีวิธีรักษาฝ้าผู้ชายมาฝากกัน พร้อมเทคนิคดูแลผิวหน้าผู้ชาย เพื่อป้องกันไม่ให้ฝ้ากระต่าง ๆ มากวนใจ
สาเหตุของฝ้าในผู้ชายนั้นส่วนใหญ่เกิดจาก
-
การสัมผัสแสงแดดเป็นเวลายาวนาน เพราะผู้ชายมีแนวโน้มใช้ชีวิตกลางแจ้งมากกว่าผู้หญิง เช่น ทำงานกลางแดด เล่นกีฬากลางแจ้ง ขับรถ ทำให้รังสีอัลตร้าไวโอเลตทำร้ายผิวได้โดยตรง
-
ไม่ทาครีมกันแดด เนื่องจากผู้ชายไม่ชอบความเหนียวเหนอะหนะของผลิตภัณฑ์กันแดด อีกทั้งรู้สึกเขินอายหรือขี้เกียจทาครีมกันแดด รวมถึงบำรุงผิวหน้า ทำให้ผิวถูกทำร้ายสะสม เมื่ออายุมากขึ้น เกราะป้องกันผิวเสื่อมลง ฝ้าจึงถามหาได้นั่นเอง
-
ยาที่รับประทานเพื่อรักษาโรคในเพศชาย ยาบางชนิดสามารถทำให้เกิดฝ้าได้ เช่น ยากันชัก Phenytoin, ยารักษาต่อมลูกหมาก Diethylstilbestrol และ Finasteride ที่ใช้รักษาโรคผมบางจากพันธุกรรม เป็นต้น
-
พันธุกรรม มีการศึกษาในประเทศอินเดียพบว่าประชากรเพศชายที่เป็นฝ้ามักมีประวัติครอบครัวเป็นฝ้าร้อยละ 39 หากมีพ่อหรือแม่เป็นฝ้า ผู้ชายคนนั้นก็มีโอกาสเป็นฝ้าสูงขึ้น
-
ฮอร์โมน พบว่าผู้ชายที่เป็นฝ้าจะมีระดับฮอร์โมนเพศ หรือ Testosterone ลดต่ำลง และมีระดับฮอร์โมน FSH, LH ที่สำคัญต่อเพศหญิงเพิ่มสูงกว่าปกติอีกด้วย
-
ความเสื่อมของร่างกาย เช่น ความสามารถในการย่อยอาหาร การดูดซึมสารอาหาร การขับถ่ายของเสีย หากการทำงานของระบบทางเดินอาหารเสื่อมลง อาจส่งผลต่อสภาพผิว จนเกิดรอยฝ้าในผู้ชายได้
-
โรคประจำตัว ไม่ว่าจะเป็นโรคความผิดปกติของต่อมไทรอยด์ และโรคที่มีการอักเสบเรื้อรังของทางเดินอาหารที่ยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด
ผู้ชายสามารถพบฝ้าลึก ฝ้าตื้น และฝ้าผสมได้เช่นเดียวกับผู้หญิง แต่ยังเบาใจได้ เพราะในผู้ชายอาจรักษาฝ้าได้ง่ายกว่าสาว ๆ เนื่องจากไม่ค่อยมีผลของฮอร์โมนเอสโตรเจนมาเกี่ยวข้องเหมือนผู้หญิง ส่วนใหญ่จะสัมพันธ์กับการเจอแสงแดดมาเป็นเวลานานมากกว่า โดยวิธีรักษาฝ้าผู้ชายให้หายขาดมีดังนี้
1. ทาครีมกันแดดให้เป็นนิสัย
แสงแดดเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้รอยฝ้าชัดเจนขึ้น หนุ่ม ๆ จึงจำเป็นต้องปกป้องผิวจากแสงแดด ด้วยทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF50 PA++++ ก่อนออกแดดประมาณ 15 นาที และทาซ้ำทุก ๆ 2-3 ชั่วโมง เพื่อให้ประสิทธิภาพของครีมกันแดดดีขึ้น และถึงจะอยู่ในอาคารก็ควรทาครีมกันแดดด้วย เพราะรังสีจากจอคอมพิวเตอร์ และหลอดไฟสามารถทำร้ายผิวหน้าให้เกิดรอยฝ้าได้เช่นกัน
2. ใช้ครีมรักษาฝ้าผู้ชายที่ได้มาตรฐาน
ครีมทาฝ้ากระต่าง ๆ ช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสี และช่วยให้ฝ้าจางลง ทำให้หน้าดูกระจ่างใสขึ้นได้ แต่จะต้องใช้ระยะเวลาเล็กน้อย นอกจากนี้ยังควรเสริมด้วยครีมบำรุงผิวที่มีส่วนผสมของ AHA วิตามินซี อาร์บูติน (Arbutin) กรดโคจิก (Kojic) ที่สำคัญควรทดสอบครีมก่อนใช้ด้วยการป้ายครีมที่ใต้คาง ท้องแขน เพื่อทดสอบอาการแพ้ และควรเลือกครีมรักษาฝ้าที่ได้มาตรฐาน ปลอดภัย ได้การรับรองจาก อย. หรือปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนใช้
3. ผลัดเซลล์ผิว
การผลัดเซลล์ผิว (Chemical Peeling) อย่างการใช้กรดผลไม้ หรือมาสก์ลอกหน้า เพื่อเสริมการรักษาฝ้าผู้ชายสามารถช่วยให้เห็นผลไวขึ้น แต่ควรใช้ทรีตเมนต์แบบอ่อนโยน ไม่ทำบ่อยเกินไป เพราะอาจจะทำให้เกิดการระคายเคืองผิวได้มากกว่าเดิม
4. ทำเลเซอร์รักษาฝ้า
การทำเลเซอร์ เป็นอีกหนึ่งวิธีรักษาฝ้าผู้ชายที่รวดเร็วและตรงจุด สามารถช่วยลบเลือนฝ้า กระ จุดด่างดำ ให้หายขาดได้ในระยะเวลาที่สั้น โดยใช้การส่งพลังงานเลเซอร์ลงไปใต้ผิวหนังบริเวณที่เป็นฝ้า ทำให้เม็ดสีที่รวมตัวกันอยู่เป็นกลุ่มก้อนใต้ผิวแตกกระจายออก ซึ่งจะสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงได้ตั้งแต่ครั้งแรก ผิวหน้าดูกระจ่างใสขึ้น ช่วยลดการกลับมาเป็นฝ้าซ้ำ ทั้งยังกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวได้อีกด้วย
วิธีดูแลตัวเอง เพื่อป้องกันฝ้า-กระถามหา
-
หลีกเลี่ยงแสงแดด ควบคู่กับการทาครีมกันแดดทุกวันก่อนออกจากบ้านหรือก่อนเผชิญกับแสงแดดโดยตรง เพื่อป้องกันผิวหนังถูกทำร้ายจนคล้ำและฝ้าที่อาจเกิดขึ้น ยิ่งในช่วงที่อากาศร้อน แดดแรงจัด ก็สามารถปกป้องผิวอีกชั้นด้วยการกางร่ม สวมหมวก หรือเสื้อผ้าที่ปกปิดผิวหนังอย่างมิดชิด
-
ดูแลตัวเองจากภายใน เริ่มจากการดีท็อกซ์ของเสียออกจากร่างกาย ด้วยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ จำพวกผักใบเขียว ผลไม้ที่มีวิตามินซี อาหารที่มีวิตามินบี 12 เพื่อช่วยในการต่อต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันการเกิดฝ้า
-
ดื่มน้ำสะอาดให้ได้วันละ 8-10 แก้ว เพื่อช่วยให้ผิวชุ่มชื้น ขับล้างสารพิษในร่างกาย ช่วยเรื่องขับถ่าย ทำให้ผิวหน้าสดใส ฝ้าดูจางลง
-
ออกกำลังกายอย่างน้อยวันละ 30 นาที เพื่อเสริมสร้างให้ผิวแข็งแรง ต่อสู้กับอนุมูลอิสระเพื่อลดรอยฝ้า แถมยังช่วยให้ร่างกายและฮอร์โมนมีความสมดุลมากขึ้น
-
พักผ่อนให้เพียงพอ กำจัดความเครียดด้วยการอ่านหนังสือ ดูหนังฟังเพลง เล่นเกมอย่างเป็นเวลา จะช่วยผ่อนคลาย ลดการผลิตฮอร์โมนและเมลานิน ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของฝ้าได้
ทั้งหมดนี้ถือเป็นวิธีรักษาฝ้าและดูแลผิวแบบฉบับผู้ชายที่สามารถทำได้อย่างเห็นผล หรืออย่างน้อยก็ทำให้ฝ้าจางลงได้ แนะนำว่าใครที่เป็นฝ้าและอยากให้การรักษาได้ผลดี ควรเริ่มจัดการปัญหาตั้งแต่เนิ่น ๆ แค่นี้คุณก็จะมีใบหน้าสดใส ไร้รอยด่างดำของฝ้าคอยกวนใจแล้ว
ขอบคุณข้อมูลจาก : tiege.com, medicalnewstoday.com, rama.mahidol.ac.th, demedclinic.com