ฉันชาย สิทธิพันธุ์ ประวัติพี่ชายฝาแฝดของ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. คนใหม่ เจ้าของฉายาแข็งแกร่งที่สุดในปฐพี พี่น้องฝาแฝดคู่นี้มีอะไรที่เหมือนหรือแตกต่างอย่างไร มารู้จักกัน
ภาพจาก : โรงพยาบาลเทพธารินทร์
กำลังถูกจับตามองอย่างมากเลยทีเดียว สำหรับผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครคนใหม่
ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ และแน่นอนว่าประวัติของผู้ว่าฯ ชัชชาติ และคนในครอบครัว ย่อมเป็นที่พูดถึงด้วย ทั้งนี้ หนึ่งในบุคคลที่ประชาชนอยากทำความรู้จักไม่แพ้ผู้ว่าฯ คนใหม่ หรือบางคนอาจจะยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่า ชัชชาติ มีพี่ชายฝาแฝดด้วย ซึ่งก็คือ
รศ. นพ.ฉันชาย สิทธิพันธุ์ วันนี้กระปุกดอทคอมจึงขอพาไปส่องเรื่องราว
รศ. นพ.ฉันชาย สิทธิพันธุ์ ประวัติของ
ฝาแฝดชัชชาติคนนี้กันครับ
ประวัติ ฉันชาย สิทธิพันธุ์
รศ. นพ.ฉันชาย สิทธิพันธุ์ มีชื่อเล่นว่า ทัวร์ เป็นพี่ชายฝาแฝดของ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ (ชื่อเล่น ทริป) เกิดเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2509 เป็นบุตรของ พล.ต.อ. เสน่ห์ สิทธิพันธุ์ อดีต ผบช.น. และคุณแม่จิตต์จรุง สิทธิพันธุ์ มีพี่สาว 1 คน คือ ปรีชญา สิทธิพันธุ์ สำหรับ รศ. นพ.ฉันชาย จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาจากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา และปริญญาตรีแพทยศาสตรบัณฑิต (เกียรตินิยมอันดับ 2) คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก่อนจะไปศึกษาต่อเฉพาะทางโรคปอดและทรวงอกที่ประเทศสหรัฐอเมริกา นานถึง 4 ปี จากนั้นจึงกลับมาเป็นอาจารย์คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปัจจุบันดำรงตำแหน่งคณบดีคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย (วาระ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2564 - 30 กันยายน พ.ศ. 2568)
ภาพจาก : คณะแพทยศาตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
รักการอ่านหนังสือและเป็นเด็กกิจกรรม
ด้วยความที่อยู่ในครอบครัวนักวิชาการ ทั้ง รศ. นพ.ฉันชาย และชัชชาติ จึงถูกปลูกฝังให้อ่านหนังสือมาตลอดจนกระทั่งรักการอ่าน โดยทั้งคู่จะต้องนั่งหันหลังชนกันอ่านหนังสือเป็นเวลา 2 ชั่วโมง หลังจากที่ทำการบ้านเสร็จ จนทำให้รู้สึกว่าการอ่านหนังสือเป็นเรื่องปกติ และไม่ต้องมาอ่านเยอะ ๆ เวลาที่ต้องสอบ แต่ถึงแม้ว่าจะเป็นเด็กเรียนทั้งคู่ก็ไม่ทิ้งงานกิจกรรมของโรงเรียน โดยผลัดกันเป็นประธานสีคนละปีอีกด้วย
ภาพจาก : เฟซบุ๊ก ชัชชาติ สิทธิพันธุ์
ตั้งใจเลือกเรียนคนละสาขากับน้องชาย
ในช่วงมัธยมปลาย ฉันชาย และชัชชาติ ตัดสินใจปรึกษากันว่าจะไม่เรียนสาขาเดียวกัน เพราะจะแข่งกันเปล่า ๆ จึงตกลงกันว่าจะเลือกเรียนอะไร ด้านชัชชาติเลือกเบนเข็มไปทางวิศวกรรม ส่วนฉันชายเลือกเรียนคณะแพทยศาสตร์ ซึ่งเมื่อเริ่มเรียนแพทย์แล้วก็รู้สึกชอบที่จะดูแลผู้ป่วยหนัก จึงตั้งใจเรียนต่อเฉพาะทางด้านโรคปอดและทรวงอก จนกลายมาเป็นอาจารย์หมอที่ผู้คนนับถือมาจนปัจจุบัน
แข็งแกร่งไม่แพ้ชัชชาติ
หากพูดถึงความแข็งแรงและความรักในการออกกำลังกาย รศ. นพ.ฉันชาย ก็ตื่นตี 4 มาวิ่งเช่นเดียวกันกับน้องชาย เพียงแต่เขาเลือกที่จะวิ่งในลู่วิ่งที่บ้าน เนื่องจากเคยออกไปวิ่งสวนสาธารณะแล้วโดนทักผิดว่าเป็นชัชชาติบ่อยครั้ง (จุดแตกต่าง คือ ชัชชาติจะมีไฝที่ใต้จมูก) อีกทั้งชัชชาติยังชอบชวนไปปั่นจักรยานอีกด้วย ซึ่งการออกกำลังกายของสองพี่น้องนั้นเรียกได้ว่าเป็นนิสัยกันมานาน เพราะตอนเด็ก ๆ อ้วนทั้งคู่ จึงต้องออกกำลังกายเป็นประจำนั่นเอง
ภาพจาก : เฟซบุ๊ก ชัชชาติ สิทธิพันธุ์
มุมมองการเมืองต่าง แต่ไม่ก้าวก่ายกัน
รศ. นพ.ฉันชาย เคยเปิดเผยว่า เคยร่วมชุมนุม พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เพียง 1 ครั้ง ซึ่งแน่นอนว่าเป็นการแสดงออกทางการเมืองที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับน้องชาย ทั้งนี้ ทางบ้านจะคุยกันเรื่องการเมืองน้อยมาก แม้แต่กับคุณแม่ที่อยู่ฝั่งเดียวกัน เนื่องจากคนเราสามารถมีความคิดเห็นไม่ตรงกันได้ แต่ก็ไม่ได้อยู่ขั้วไหนอย่างสุดโต่ง และจะไม่ก้าวก่ายความคิดใคร ทั้งนี้ รศ. นพ.ฉันชาย ยังเปิดเผยว่าไม่คิดเล่นการเมือง เพราะมีความสุขกับการสอนและการดูแลคนไข้อยู่แล้ว ปล่อยให้น้องชายได้ทำประโยชน์กับประเทศดีกว่า
แม้จะอยู่คนละสายงานกับ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อย่างสิ้นเชิง แต่ก็นับว่า รศ. นพ.ฉันชาย สิทธิพันธุ์ เป็นอีกหนึ่งบุคลากรคุณภาพของประเทศ ที่จะช่วยสร้างแพทย์ดี ๆ ในอนาคตอีกมากมาย เรียกว่าทั้งคู่เป็นพี่น้องที่แกร่งที่สุดในปฐพีจริง ๆ
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : เฟซบุ๊ก ชัชชาติ สิทธิพันธุ์, โรงพยาบาลเทพธารินทร์, คณะแพทยศาตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
