7 สัญญาณเตือนที่บ่งบอกว่าคอมพิวเตอร์ใกล้พัง โปรแกรมค้างบ่อย พร้อมแนะนำวิธีแก้ปัญหาเบื้องต้น
![คอมค้าง]( "คอมค้าง")
ใครที่ใช้คอมพิวเตอร์เป็นประจำเชื่อว่าจะต้องเคยเจอสารพัดปัญหาของคอมพิวเตอร์ และหนึ่งในปัญหาที่ทำให้ปวดใจมากที่สุดก็คงจะเป็นการที่คอมพิวเตอร์หรือโปรแกรมค้างตอนทำงานอยู่ ยิ่งถ้าเป็นตอนที่ยังไม่ได้เซฟงานด้วยแล้วละก็ อาจถึงกับน้ำตาไหลกันเลยทีเดียว... วันนี้เราก็เลยจะมาช่วยแนะนำกันว่าสาเหตุที่มักทำให้คอมพิวเตอร์ค้างนั้นมีอะไรบ้าง และจะแก้ปัญหาเบื้องต้นได้อย่างไรบ้าง
1. ฮาร์ดดิสก์มีเสียงดัง
ปัญหานี้มักพบเจอได้ในเฉพาะคอมพิวเตอร์ที่ใช้ฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุน แต่จะไม่เกิดกับฮาร์ดดิสก์แบบ SSD ซึ่งสาเหตุมักมาจากการเสื่อมสภาพของชิ้นส่วนภายในฮาร์ดดิสก์ ทำให้เกิดปัญหาในการอ่านหรือเขียนข้อมูล ถ้าหากพบเจออาการดังกล่าวให้เซฟงานและไฟล์ที่สำคัญ ๆ พร้อม Back-up เก็บเอาไว้ในฮาร์ดดิสก์อันอื่นหรือเก็บไว้บน Cloud
![คอมค้าง]( "คอมค้าง")
2. มี Error ตอนเปิดเครื่อง
ถ้าหากตอนเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์แล้วมีข้อความ Error เด้งขึ้นมาบนหน้าจอบางครั้งหรือทุกครั้งก็หมายความว่าคอมพิวเตอร์พบปัญหาบางประการ อาจมาจากความผิดพลาดของซอฟต์แวร์หรือฮาร์ดแวร์บางตัวในเครื่อง ซึ่งทำให้มีความเสี่ยงที่ใช้งานไปแล้วอาจมีอาการเครื่องค้างได้ ส่วนวิธีแก้ปัญหานั้นต้องแล้วแต่กรณีไป อาจแค่ลงซอฟต์แวร์ตัวที่มีปัญหาใหม่ ลงไดร์เวอร์ใหม่ ลง Windows ใหม่ รวมทั้งซ่อมหรือเปลี่ยนฮาร์ดแวร์ตัวที่เสียหาย
3. โปรแกรมช้าและอืด
4. ฮาร์ดแวร์มีปัญหา
บางครั้งการที่เครื่องช้า ทำอะไรก็อืดไปหมด อาจไม่ได้เกิดจากสเปกคอมพิวเตอร์ต่ำเสมอไป แต่อาจเกิดจากฮาร์ดแวร์บางชิ้นในเครื่องที่เสื่อมสภาพหรือเกิดความเสียหาย และมีความเสี่ยงที่ใช้ไปเรื่อย ๆ แล้วเครื่องอาจค้างได้ ซึ่งการใช้โปรแกรมประเภท Benchmark อาจช่วยหาสาเหตุได้ว่าฮาร์ดแวร์ชิ้นไหนที่มีปัญหา เพื่อที่จะได้นำไปส่งซ่อมหรือเปลี่ยนใหม่
![คอมค้าง]( "คอมค้าง")
5. พัดลมเสียงดัง
ถ้าได้ยินเสียงพัดลมในเครื่องดังมากผิดปกติ แสดงว่าภายในเครื่องคอมพิวเตอร์มีความร้อนสูงมาก อาจเนื่องจากการทำงานหนักเกินไปหรือมีการระบายอากาศที่ไม่ดีพอ อาจส่งผลให้เครื่องค้างหรือถ้าร้ายแรงหน่อยก็อาจถึงขั้นชิ้นส่วนภายในเสียหายได้เลย ให้ลองใช้โปรแกรมเช็กอุณหภูมิดูว่าชิ้นส่วนไหนที่มีความร้อนสูง เช่น ซีพียู หรือ จีพียู ซึ่งอาจแก้ปัญหาได้ด้วยการทำความสะอาดฝุ่นภายในเครื่องและปรับปรุงการระบายความร้อนให้ดีขึ้น
6. ฮาร์ดแวร์ทำงานขัดข้อง
เกิดจากการที่มีซอฟต์แวร์หรือไดร์เวอร์มากกว่าหนึ่งตัวพยายามใช้ฮาร์ดแวร์ตัวเดียวกัน ซึ่งซอฟต์แวร์ตัวหนึ่งอาจทำงานได้ปกติ ในขณะที่อีกตัวหนึ่งทำงานผิดปกติ ส่งผลให้โปรแกรมที่ใช้งานอยู่อาจค้าง รวมทั้งอาจเกิดอาการเครื่องค้างแบบ Blue Screen ได้ สำหรับวิธีแก้ให้เข้าไปดูที่ Windows Device Manager ว่ามีฮาร์ดแวร์ตัวไหนทำงานขัดข้อง โดยจะมีแสดงเป็นเครื่องหมาย ! สีเหลือง ให้ลองลบและติดตั้งไดร์เวอร์ของฮาร์ดแวร์ใหม่ หรือลองกด Disable ตัวที่มีปัญหาดู
![คอมค้าง]( "คอมค้าง")
7. ไฟล์และโปรแกรมขัดข้อง
ในบางครั้งไฟล์และโปรแกรมในเครื่องก็อาจขัดข้องได้ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านั้นเคยใช้งานได้ปกติมาก่อน ทำให้เปิดไฟล์ไม่ได้ รันโปรแกรมไม่ขึ้น ซึ่งอาจมีการแสดงข้อความ Error ขึ้นมาหรือไม่ก็ได้ โดยมักเกิดได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นมัลแวร์ ฮาร์ดดิสก์มีปัญหา ชิ้นส่วนภายในมีปัญหา หรือไฟล์ Corrupt สำหรับวิธีแก้ปัญหาให้ดูว่าเปิดไฟล์ถูกโปรแกรมหรือไม่ จากนั้นให้ลองสแกนไวรัสและมัลแวร์ดู รวมทั้งเช็กว่าฮาร์ดดิสก์มีความผิดปกติหรือไม่
ข้อมูลจาก makeuseof.com
1. ฮาร์ดดิสก์มีเสียงดัง
ปัญหานี้มักพบเจอได้ในเฉพาะคอมพิวเตอร์ที่ใช้ฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุน แต่จะไม่เกิดกับฮาร์ดดิสก์แบบ SSD ซึ่งสาเหตุมักมาจากการเสื่อมสภาพของชิ้นส่วนภายในฮาร์ดดิสก์ ทำให้เกิดปัญหาในการอ่านหรือเขียนข้อมูล ถ้าหากพบเจออาการดังกล่าวให้เซฟงานและไฟล์ที่สำคัญ ๆ พร้อม Back-up เก็บเอาไว้ในฮาร์ดดิสก์อันอื่นหรือเก็บไว้บน Cloud
2. มี Error ตอนเปิดเครื่อง
ถ้าหากตอนเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์แล้วมีข้อความ Error เด้งขึ้นมาบนหน้าจอบางครั้งหรือทุกครั้งก็หมายความว่าคอมพิวเตอร์พบปัญหาบางประการ อาจมาจากความผิดพลาดของซอฟต์แวร์หรือฮาร์ดแวร์บางตัวในเครื่อง ซึ่งทำให้มีความเสี่ยงที่ใช้งานไปแล้วอาจมีอาการเครื่องค้างได้ ส่วนวิธีแก้ปัญหานั้นต้องแล้วแต่กรณีไป อาจแค่ลงซอฟต์แวร์ตัวที่มีปัญหาใหม่ ลงไดร์เวอร์ใหม่ ลง Windows ใหม่ รวมทั้งซ่อมหรือเปลี่ยนฮาร์ดแวร์ตัวที่เสียหาย
3. โปรแกรมช้าและอืด
ปัญหานี้มักเกิดกับคอมพิวเตอร์ที่สเปกต่ำเกินกว่าที่โปรแกรมต้องการ ทำให้ขณะใช้งานโปรแกรมจะรู้สึกว่าช้าและอืด คลิกอะไรก็ติดขัดไปหมด ถึงแม้ว่าจะยังพอใช้งานได้ แต่ก็มีโอกาสค้างค่อนข้างสูง สำหรับวิธีแก้ปัญหานั้นก็ควรอัปสเปกคอมพิวเตอร์ ให้เหมาะสมกับโปรแกรมที่ต้องการใช้งาน หรือถ้าหากจำเป็นต้องทนใช้แบบนั้นจริง ๆ ก็ควรหมั่นเซฟงานบ่อย ๆ
บางครั้งการที่เครื่องช้า ทำอะไรก็อืดไปหมด อาจไม่ได้เกิดจากสเปกคอมพิวเตอร์ต่ำเสมอไป แต่อาจเกิดจากฮาร์ดแวร์บางชิ้นในเครื่องที่เสื่อมสภาพหรือเกิดความเสียหาย และมีความเสี่ยงที่ใช้ไปเรื่อย ๆ แล้วเครื่องอาจค้างได้ ซึ่งการใช้โปรแกรมประเภท Benchmark อาจช่วยหาสาเหตุได้ว่าฮาร์ดแวร์ชิ้นไหนที่มีปัญหา เพื่อที่จะได้นำไปส่งซ่อมหรือเปลี่ยนใหม่
ถ้าได้ยินเสียงพัดลมในเครื่องดังมากผิดปกติ แสดงว่าภายในเครื่องคอมพิวเตอร์มีความร้อนสูงมาก อาจเนื่องจากการทำงานหนักเกินไปหรือมีการระบายอากาศที่ไม่ดีพอ อาจส่งผลให้เครื่องค้างหรือถ้าร้ายแรงหน่อยก็อาจถึงขั้นชิ้นส่วนภายในเสียหายได้เลย ให้ลองใช้โปรแกรมเช็กอุณหภูมิดูว่าชิ้นส่วนไหนที่มีความร้อนสูง เช่น ซีพียู หรือ จีพียู ซึ่งอาจแก้ปัญหาได้ด้วยการทำความสะอาดฝุ่นภายในเครื่องและปรับปรุงการระบายความร้อนให้ดีขึ้น
6. ฮาร์ดแวร์ทำงานขัดข้อง
เกิดจากการที่มีซอฟต์แวร์หรือไดร์เวอร์มากกว่าหนึ่งตัวพยายามใช้ฮาร์ดแวร์ตัวเดียวกัน ซึ่งซอฟต์แวร์ตัวหนึ่งอาจทำงานได้ปกติ ในขณะที่อีกตัวหนึ่งทำงานผิดปกติ ส่งผลให้โปรแกรมที่ใช้งานอยู่อาจค้าง รวมทั้งอาจเกิดอาการเครื่องค้างแบบ Blue Screen ได้ สำหรับวิธีแก้ให้เข้าไปดูที่ Windows Device Manager ว่ามีฮาร์ดแวร์ตัวไหนทำงานขัดข้อง โดยจะมีแสดงเป็นเครื่องหมาย ! สีเหลือง ให้ลองลบและติดตั้งไดร์เวอร์ของฮาร์ดแวร์ใหม่ หรือลองกด Disable ตัวที่มีปัญหาดู
7. ไฟล์และโปรแกรมขัดข้อง
ในบางครั้งไฟล์และโปรแกรมในเครื่องก็อาจขัดข้องได้ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านั้นเคยใช้งานได้ปกติมาก่อน ทำให้เปิดไฟล์ไม่ได้ รันโปรแกรมไม่ขึ้น ซึ่งอาจมีการแสดงข้อความ Error ขึ้นมาหรือไม่ก็ได้ โดยมักเกิดได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นมัลแวร์ ฮาร์ดดิสก์มีปัญหา ชิ้นส่วนภายในมีปัญหา หรือไฟล์ Corrupt สำหรับวิธีแก้ปัญหาให้ดูว่าเปิดไฟล์ถูกโปรแกรมหรือไม่ จากนั้นให้ลองสแกนไวรัสและมัลแวร์ดู รวมทั้งเช็กว่าฮาร์ดดิสก์มีความผิดปกติหรือไม่
ข้อมูลจาก makeuseof.com
