โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ (Robert Downey Jr.) กับ 10 เรื่องน่าสนใจที่หลายคนอาจไม่เคยรู้มาก่อน เกี่ยวกับหนุ่มหล่อภายใต้ชุดเกราะ ไอรอนแมน (Iron Man) หนึ่งในผู้สร้างประวัติศาสตร์ให้จักรวาล Marvel
มาแรงสุดฉุดไม่อยู่แล้วจริง ๆ สำหรับ Avengers: Endgame ภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่ฟอร์มยักษ์แห่งปีที่ทุบสถิติยอดจำหน่ายตั๋วล่วงหน้ากับรายได้เปิดตัววันแรกสูงสุดในประวัติการณ์ และเตรียมสร้างสถิติอื่น ๆ อีกนับไม่ถ้วน สมเป็นอันดับ 1 ภาพยนตร์แฟรนไชส์ที่มีรายได้รวมทั่วโลกสูงที่สุด โดยส่วนหนึ่งต้องยกเครดิตให้นักแสดงหนุ่ม โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ ผู้บุกเบิกจักรวาลมาร์เวล (Marvel Cinematic Universe) ในบท Iron Man และมีส่วนสำคัญกับภาพยนตร์ฮีโร่มาร์เวลเกือบทุกเรื่องตลอด 11 ปีที่ผ่านมา จนตอนนี้กลายเป็นขวัญใจของทุกคนชนิดที่หาใครมาแทนไม่ได้อีก
เชื่อว่าเพื่อน ๆ น่าจะรู้จัก โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ กันดีอยู่แล้ว เพราะเขามีผลงานให้ติดตามมานานกว่า 30 ปี แต่หารู้ไม่ว่ายังมีอีกหลายมุมเกี่ยวกับหนุ่มหล่อภายใต้หน้ากากเหล็กคนนี้ที่หลายคนอาจไม่เคยรู้มาก่อน กระปุกดอทคอมจึงได้นำ 10 เรื่องน่าสนใจของ โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ หรือ Iron Man มาให้ทุกคนได้ทำความรู้จักเขามากขึ้นกันครับ
ชื่อเต็ม : Robert John Downey Jr.
เกิดวันที่ : 4 เมษายน 1965
เกิดที่ : แมนฮัตตัน นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา
ส่วนสูง : 175 เซนติเมตร
ผลงานเด่น : ภาพยนตร์ Chaplin, Iron Man, Tropic Thunder, Sherlock Holmes
1. เข้าวงการตั้งแต่ 5 ขวบ
เพราะเป็นลูกชายของ โรเบิร์ต ดาวนีย์ ซีเนียร์ (Robert Downey Sr.) อดีตนักแสดงและผู้กำกับชื่อดัง กับนักแสดงสาวสวย เอลซี่ ดาวนีย์ (Elsie Downey) ทำให้ โรเบิร์ต มีสายเลือดของซุปตาร์ไหลอยู่เต็มตัว และได้แสดงภาพยนตร์ครั้งแรกในเรื่อง Pound ปี 1970 ซึ่งพ่อของเขาเป็นคนเขียนบทและนั่งเก้าอี้ผู้กำกับ
2. แจ้งเกิดพร้อมเข้าชิงรางวัลออสการ์
หลังจากนั้น โรเบิร์ต ได้มีผลงานแสดงภาพยนตร์อีกหลายเรื่อง แต่เรตติ้งก็ยังไม่ดีเท่าที่ควร จนมาเริ่มฉายแววซุปตาร์กับบทเป็นพระเอกบ้านรวยใช้ชีวิตเสเพล ในหนังเรื่อง Less Than Zero ปี 1987 ก่อนจะดังระเบิดเป็นพลุแตกจากการรับเป็น ชาร์ลีย์ แชปลิน (Charlie Chaplin) ในเรื่อง Chaplin ปี 1992 พร้อมส่งให้เขาได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ สาขานักแสดงชายยอดเยี่ยม ในปีนั้นด้วย
3. เคยคลุกคลีกับยาเสพติด
เชื่อไหมว่า โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ เริ่มพัวพันกับยาเสพติด (กัญชา) ตั้งแต่อายุ 6 ขวบเท่านั้น และผู้ที่ชักชวนคือพ่อแท้ ๆ ของเขานั่นเอง ซึ่งในช่วงวัยรุ่น โรเบิร์ต เคยถูกจับกุมในข้อหาใช้และครอบครองยาเสพติดมาแล้วหลายครั้ง จนศาลได้ตัดสินจำคุกเป็นเวลา 3 ปี หลังใช้ชีวิตอยู่ในห้องขังประมาณ 1 ปี ก็ได้ใช้สิทธิ์ประกันตัวเองออกมา
4. ชีสเบอร์เกอร์ เปลี่ยนชีวิต
หลังมีข่าวพัวพันกับยาเสพติด ภาพลักษณ์ของ โรเบิร์ต ก็เริ่มแย่ลงเรื่อย ๆ จนในปี 2003 เขาได้ไปนั่งกิน ชีสเบอเกอร์ที่ร้านฟาสต์ฟู้ดชื่อดัง ในระหว่างนั้น โรเบิร์ต ก็นั่งคิดทบทวนถึงชีวิตที่ผ่านมา กระทั่งตัดสินใจเลิกยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดแบบเด็ดขาด จากนั้นได้ขับรถนำยาเสพติดที่มีทั้งหมดไปโยนทิ้งลงทะเล (ฉากคุ้น ๆ เนอะ) ซึ่งตัวเขาเองได้ขอบคุณ ชีสเบอเกอร์ จากร้านฟาสต์ฟู้ดชื่อดัง ที่ทำให้คิดได้และมีชีวิตที่ดีขึ้นเหมือนทุกวันนี้
ถ้าใครได้ติดตามภาพยนตร์ Iron Man และ Avengers: Endgame จะเข้าใจเลยว่า ชีสเบอร์เกอร์ ที่ โทนี่ สตาร์ก ชอบสั่งหรือพูดถึงนั้นมีความหมายยังไง
5. ร้องเพลงเพราะ เคยมีอัลบั้ม
นอกจากจะเป็นนักแสดงเจ้าบทบาทแล้ว โรเบิร์ต ยังมีความสามารถด้านดนตรี ทั้งการเล่นเปียโน ไวโอลิน ฯลฯ และที่สำคัญคือร้องเพลงเพราะมาก...! โดยในปี 2004 เขาเคยออกอัลบั้มเพลงเป็นของตัวเองชื่อ The Futurist มีเพลงโปรโมตสุดเพราะอย่าง Man Like Me ลองหามาฟังกันดูได้ รวมถึงได้ประกบคู่ศิลปินดังร้องเพลงประกอบภาพยนตร์อีกมากมาย
6. I Am Iron Man
พยายามเกือบทุกทางแล้ว แต่ โรเบิร์ต ก็ยังไม่สามารถกู้ชื่อเสียงเดิมให้กลับคืนมาได้สักที จนกระทั่งปี 2008 เขาได้รับโอกาสให้สวมชุดเกาะเหล็กมหาประลัย ในบท โทนี่ สตาร์ก หรือ Iron Man ซึ่งเป็นหนังเปิดจักรวาลมาร์เวลเรื่องแรก และกวาดรายได้ถล่มทลายทั่วโลก พร้อมทำให้ชื่อของ โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ กลับมาโลดแล่นในวงการฮอลลีวูดอีกครั้ง ก่อนจะไปเปรี้ยงปร้างต่อในหนัง Tropic Thunder และ Sherlock Holmes ที่ทำรายได้สูงไม่แพ้กัน
7. ขึ้นแท่นนักแสดงชายที่ทำรายได้สูงสุด
เรียกว่าบท Iron Man ช่วยพลิกชีวิตของเขาเลยจริง ๆ ซึ่งในภาคแรกนั้น โรเบิร์ต ได้ค่าตัวอยู่ที่ประมาณ 5 แสนดอลลาร์สหรัฐ หรือราว ๆ 15 ล้านบาท แต่ Iron Man 2 ค่าตัวของเขากลับพุ่งสูงไปถึง 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (300 ล้านบาท) เลยทีเดียว เท่านั้นยังไม่พอในภาพยนตร์รวมซูเปอร์ฮีโร่ The Avengers และ Iron Man 3 โรเบิร์ต ได้ค่าแสดงเรื่องละ 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (1,500 ล้านบาท) ทำให้เขากลายเป็นนักแสดงที่ทำรายได้มากที่สุดในจักรวาลมาร์เวล
พอนำรายได้ของผลงานทั้งหมดมารวมกัน ชื่อของ โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ ได้ติดเป็นอันดับ 3 นักแสดงฮอลลีวูดที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาล ซึ่งตอนนั้นยังไม่นับ Avengers: Infinity War กับ Endgame นะครับ ปัจจุบันอันดับอาจมีการเปลี่ยนแปลงแล้วก็ได้
8. 15 นาที 300 ล้าน
9. รับบทฮีโร่ทั้งในจอและนอกจอ
แน่นอนว่าตอนนี้ Iron Man คือฮีโร่ขวัญใจใครหลายคน และในชีวิตจริง โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ ได้กลายเป็นฮีโร่ของเด็ก ๆ โดยไม่ต้องใส่ชุดเกราะหรือบินได้อย่างในหนัง เพราะเขาเป็นคนที่ชอบช่วยเหลือเด็กอยู่เสมอ อย่างในปี 2018 โรเบิร์ต ได้วิดีโอคอลและเดินทางไปเยี่ยม แอรอน ฮันเตอร์ (Aaron Hunter) เด็กวัย 8 ขวบ ผู้ป่วยระยะสุดท้ายด้วยโรคที่ไม่มีทางรักษา พร้อมถ่ายเซลฟี่ร่วมกันและช่วยประชาสัมพันธ์มูลนิธิให้สังคมรู้จักกับโรคดังกล่าว เพื่อช่วยระดมทุนสำหรับงานวิจัยในการหาวิธีการรักษา
ก่อนหน้านี้ในปี 2015 โรเบิร์ต ได้เคยนำแขนเทียม Iron Man Bionic Arm ที่ถูกพัฒนาโดยทีมวิจัย ไปมอบให้น้องอเล็กซ์ (Alex) เด็กชายวัย 7 ขวบ ผู้พิการแขนข้างขวาด้วย ยกให้เป็นฮีโร่ตัวจริงเลย
10. เกรียนตัวพ่อ
ส่วนใหญ่แล้วเราจะเห็นหนุ่มโรเบิร์ต ในบทของ โทนี่ สตาร์ก กับบุคลิกมาดเคร่งขรึม ขี้เก๊ก ดูหยิ่ง ๆ และมีอีโก้สูง แต่ถ้าคุณได้รู้จักเขาจริง ๆ จะรู้เลยว่าบทบาทที่เขาได้รับมันตรงกันข้ามกับชีวิตจริงมาก ๆ ไม่เชื่อลองเข้าไปในไอจีส่วนตัวของ โรเบิร์ต สิ คุณจะได้เห็นเขาในลุคฮา ๆ แต่งตัวหลุดโลก และท่าโพสแปลก ๆ มากมาย จนบางครั้งลืมภาพ ไอรอนแมน สุดเท่ไปชั่วขณะเลย