และนี่คือ 10 อันดับนักฟุตบอลที่มีรายรับสูงที่สุดในโลก ในช่วงเวลา 1 ปีผ่านมา ใครอยู่อันดับไหน กวาดเงินเข้ากระเป๋าไปเท่าไหร่บ้างมาดูกันครับ
10. จอห์น เทอร์รี่ (John Terry) 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
แม้จะอดเงินโบนัสก้อนโตเพราะไม่สามารถพา แอสตัน วิลล่า เลื่อนชั้นกลับขึ้นมาได้ แต่ปราการหลังชาวอังกฤษ ก็ยังเป็นนักฟุตบอลที่มีรายได้เยอะอันดับต้น ๆ ของโลกอยู่ดี โดยปีล่าสุดได้ค่าเหนื่อยจาก เดอะ วิลลา ประมาณ 3.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และด้วยชื่อชั้นที่เป็นถึงตำนานของทีม เชลซี ทำให้เขามีรายได้เข้ามาจากหลายช่องทาง จับรวมกันแล้วก็ประมาณ 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แปลงเป็นเงินไทยได้ประมาณ 1,660 ล้านบาท เอามานอนพักโรงแรมดังย่านพระราม 9 แบบฟลูออปชั่นได้นานถึง 150 ปีทีเดียว
9. เซร์คิโอ อเกวโร่ (Sergio Agüero) 51 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
กองหน้าเบอร์หนึ่งของทีมเรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้รับเงินจากสโมสรต้นสังกัดอยู่ที่ปีละประมาณ 13.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ กับเงินโบนัสที่สามารถคว้าแชมป์ได้ นอกจากนี้ยังมีรายรับจากการเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับแบรนด์ Puma, Pepsi และอื่น ๆ อีก รวมแล้วประมาณ 51 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตีเป็นเงินไทยก็ 1,700 ล้านบาท สามารถซื้อนาฬิกาข้อมือหรู ๆ ที่เคยเป็นข่าวได้ถึง 157 เรือนเลย ไม่ต้องไปยืมเพื่อนด้วย
8. ยาย่า ตูเร่ (Yaya Touré) 55 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ยังคาดเดาไม่ได้ว่ากองกลางตัวเก๋าชาวโกตดิวัวร์ จะได้ต่อสัญญากับสโมสร แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อีกหรือไม่ แต่ ณ ตอนนี้ห้องเครื่องร่างใหญ่ได้รับค่าจ้างจากต้นสังกัดอยู่ที่ประมาณ 13.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี เท่ากับ เซร์คิโอ อเกวโร่ พร้อมโบนัส ไม่เพียงแค่นั้นเขายังมีรายรับจาก Puma และงานโฆษณาในประเทศบ้านเกิดอีกมากมาย รวม ๆ แล้วคิดเป็นเงินไทยได้ประมาณ 1,820 ล้าน ซื้อบ้านหรูในกลางกรุงเทพฯ ได้ถึง 91 หลัง หรือเรียกว่าเหมาทั้งหมู่บ้านได้สบาย ๆ
7. เนย์มาร์ (Neymar) 63 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
หลังย้ายเข้าสู่อ้อมกอดทีม ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ปีกจอมทักษะชาวบราซิลก็กลายเป็นนักเตะที่มีค่าตัวสูงที่สุดในโลก โดยในสัญญาระบุว่าเขาได้รับค่าเหนื่อยอยู่ที่ปีละประมาณ 34 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และยังมีรายได้จากโบนัสคว้าแชมป์ จากสปอนเซอร์Nike, Redbull และแบรนด์สินค้ายักษ์ใหญ่อื่น ๆ รวมไปถึงเป็นหุ้นส่วนในธุรกิจต่าง ๆ ด้วย พอเอาทั้งหมดมาตีเป็นเงินไทยแล้วอยู่ที่ประมาณ 2,095 ล้านบาท เอาไปใช้บินเที่ยวรอบโลกได้มากถึง 696 รอบด้วยกัน
6. แกเร็ธ เบล (Gareth Bale) 72 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ราชันชุดขาว เรอัล มาดริด ต้องจ่ายค่าจ้างให้ปีกพ่อมดชาวเวลส์ปีละประมาณ 23.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งอาจน้อยกว่า เนย์มาร์ แต่ทว่าโบนัสที่ได้รับการจากคว้าถ้วยยุโรป รายได้จากผู้สนับสนุนอย่าง Adidas กับการเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้ Sony และแบรนด์อื่น ๆ นั่นสูงกว่ามาก โดยรวมแล้วปีกวานรมีรายรับอยู่ที่ประมาณ 72 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คำนวนเป็นเงินไทยได้ราว ๆ 2,994 ล้านบาท สามารถซื้อรถยนต์ที่แพงที่สุดในโลกได้ถึง 10 คันเลย
5. เอแด็ง อาซาร์ (Eden Hazard) 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ปีกตัวจี๊ดหัวใจหลักของ สิงโตน้ำเงินคราม เชลซี ได้รับค่าเหนื่อยจากต้นสังกัดประมาณปีละ 16 ล้านดอลลาร์สหรัฐ มองดูไม่เยอะเท่าไหร่ แต่จอมลากเลื้อยชาวเบลเยี่ยมยังมีโบนัสจากการคว้าแชมป์ พร้อมกับรายได้จาก Nike สปอนเซอร์หลัก และบริษัทชื่อดังอีกนับสิบเจ้า กดเครื่องคิดเลขคำนวนเป็นเงินไทยได้ประมาณ 3,325 ล้านบาท เรียกว่ากินอยู่แบบหรูหราในดูไบได้ตลอดชีวิต
4. เวย์น รูนีย์ (Wayne Rooney) 120 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
อดีตกองหน้าของ ปีศาจแดง ยอมลดค่าเหนื่อยครึ่งหนึ่ง เพื่อกลับไปค้าแข้งกับ เอฟเวอร์ตัน สโมสรแจ้งเกิด โดยรับเงินจากทอฟฟี่สีน้ำเงินทปีละ 7.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ปัจจุบันย้ายไป ดีซี ยูไนเต็ด) แต่ทว่าผลงานที่สะสมมาทำให้เขามีชื่อเสียงและได้รับค่าจ้างเพิ่มเติมอีกหลายช่องทาง ทั้ง Nike, Samsung และแบรนด์ชื่อดังมากมาย ส่งผลให้รายได้รวมพุ่งกระฉูดอยู่ที่ประมาณเกือบ 4,000 ล้านบาท เอาไปสร้างสโมสรฟุตบอลใหม่ได้ทีมหนึ่งเลย
3. ซลาตัน อิบราฮิโมวิช (Zlatan Ibrahimovic) 141 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ฟาดค่าเหนื่อยสูงสุดของลีกผู้ดี (25.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ/ปี) จากการเป็นกองหน้าให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อยู่พักใหญ่ ก่อนจะโชว์ป๋าหั่นค่าเหนื่อยทิ้งเหลือ 1.39 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อขอย้ายมาอยู่กับทีม แอลเอ แกแล็กซี่ แต่ด้วยชื่อชั้นที่โด่งดังก้องโลก ทำให้ดาวซัลโวทีมชาติสวีเดนมีรายรับเข้ามาไม่ขาดสาย ทั้งจากสปอนเซอร์ ส่วนแบ่งย้ายทีม ไหนจะเอาชื่อตัวเองไปจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าของธุรกิจต่าง ๆ อีก อยู่เฉย ๆ ทั้งปีแต่ฟาดเงินไปประมาณ 4,680 ล้านบาท ซื้อรถไฟฟ้าความเร็วสูงไปนั่งเล่นชิล ๆ ได้เลย
จากสัญญาใหม่ล่าสุดกับ เจ้าบุญทุ่ม บาร์เซโลน่า ระบุว่าดาวยิงชื่อดังชาวอาร์เจนตินาจะได้รับค่าเหนื่อยสูงถึง 33.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี ซึ่งถ้านับรวมโบนัสอันมหาศาลที่ได้จากการพาทีมคว้าแชมป์ รายรับจากสปอนเซอร์หลักอย่าง Adidas และการเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้ Pepsi, Gillette ฯลฯ แล้ว เจ้าของบัลลงดอร์ 5 สมัย กวาดเงินเข้ากระเป๋าได้ประมาณ 9,800 ล้านบาท ซื้อเครื่องบินเจ็ทหรู ๆ แบบฟลูออฟชั่นได้ถึง 15 ลำเลยทีเดียว
ซูเปอร์สตาร์ชาวโปรตุเกสได้ค่าจ้างจาก ราชันชุดขาว อยู่ที่ปีละประมาณ 24.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แม้จะไม่ได้สูงที่สุด แต่ CR7 ได้รับโบนัสแชมป์ยุโรป รายได้จาก Nike จากการเป็นพรีเซ็นเตอร์และโฆษณาอีกนับไม่ถ้วน เรียกว่ามีหน้าเขาแปะอยู่ทั่วโลกเลยก็ว่าได้ ส่งผลให้เขากลายเป็นนักเตะที่มีรายได้ต่อปีมากที่สุดในโลก คิดเป็นเงินไทยก็ราว ๆ 10,600 ล้านบาท ซื้อเรือดำน้ำไปจอดเล่นที่บ้านได้สบาย ๆ
อย่างไรก็ตามการจะไปยืนอยู่ในจุดเดียวกับนักเตะทั้ง 10 คนนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ ต้องทุ่มเทแรงกาย แรงใจมหาศาลด้วยเช่นกัน สำหรับใครที่มีความฝันก็ขอให้ทำเต็มที่ เชื่อว่าสักวันจะต้องประสบความสำเร็จแบบพวกเขาเหล่านี้แน่นอนครับ
ภาพจาก : AFP
ข้อมูลจาก : msn.com, dailypost.ng