เชื่อว่ามีผู้ชายจำนวนไม่น้อยเลยที่หันมาเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ตัวเอง จากหนุ่มชอบปาร์ตี้สังสรรค์ เป็นนักเล่นกล้ามรักสุขภาพ เพราะหวังจะมีหุ่นดี ๆ กล้ามบึ้ก และสุขภาพที่แข็งแรง แต่ทั้งนี้ถึงแม้จะรักการออกกำลังกายแค่ไหน แต่ก็ยังมีหนุ่ม ๆ หลายคนที่ยังคงติดเที่ยวติดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพื่อเข้าสังคมอยู่ จนเกิดเป็นข้อสงสัยขึ้นมาว่า ทำไมออกกำลังกายทุกวัน แต่กล้ามถึงไม่ใหญ่ขึ้น ซิกแพคไม่มาสักที ทำให้คิดไปต่าง ๆ นานาว่า การสร้างกล้ามเนื้อนั้นเป็นเรื่องที่ยากมาก
ซึ่งความจริงแล้วเหตุผลหลัก ๆ ที่ทำให้กล้ามเนื้อไม่เติบโตนั้นไม่ใช่อะไรเลย แต่เป็นเพราะการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั่นเอง เพราะนอกจากจะทำให้ร่างกายแย่ลงแล้ว ยังมีผลต่อกล้ามเนื้อในหลาย ๆ ด้านด้วย อีกทั้งการดื่มในงานปาร์ตี้สังสรรค์มักจะทำให้พักผ่อนไม่เพียงพอ ซึ่งนั่นก็เป็นเหตุผลทางอ้อมอีกเช่นกัน
ร่างกายสังเคราะห์โปรตีนได้น้อยลง
เมื่อร่างกายได้รับแอลกอฮอล์มาก ๆ เส้นเลือดจะเกิดการหดตัว ทำให้ไตดูดซับน้ำกลับคืน ส่งผลให้เกิดภาวะร่างกายขาดน้ำ สังเกตได้จากเวลาตื่นแล้วจะรู้สึกคอแห้งมากนั่นเอง พอร่างกายเกิดภาวะขาดน้ำ ระดับการสังเคราะห์โปรตีนในกล้ามเนื้อลายก็จะน้อยลงตามไปด้วย ซึ่งการสังเคราะห์โปรตีนจะช่วยในการสร้างและซ่อมแซมกล้ามเนื้อให้กลับมาสมบูรณ์หลังจากออกกำลังกาย แต่แอลกอฮอล์จะไปยับยั้งกระบวนการเหล่านั้นทำให้กล้ามเนื้อไม่เจริญเติบโตเต็มที่ แถมยังมีผลต่อการสลายโปรตีนในร่างกายอีกด้วย อย่างนี้บอกเลยปั้นกล้ามสวย ๆ ไม่ขึ้นแน่นอน
อย่างที่ทราบกันดีว่าแอลกอฮอล์ มีผลเสียต่อ ตับ โดยตรง เพราะตับมีหน้าที่ขับสารพิษออกจากร่างกาย และเป็นตัวสะสมสารอาหารต่าง ๆ เพื่อเอาไว้ใช้ในยามที่ร่างกายต้องการ เช่น เปลี่ยนน้ำตาลกลูโคสเป็นไกลโคเจนพร้อมกักเก็บไว้ และเมื่อร่างกายต้องการพลังงาน ตับก็จะดึงไกลโคเจนนั้นกลับมาเป็นกลูโคส และส่งต่อให้ร่างกายนำไปใช้เป็นพลังงานในการออกกำลังกายต่อไป ซึ่งถ้าตับทำงานไม่ปกติร่างกายจะไม่มีพลังงานใช้อย่างเต็มที่ ทำให้ต้องดึงพลังงานจากโปรตีนมาใช้แทน ซึ่งอาจทำให้สร้างกล้ามเนื้อไม่ขึ้นหรือถึงขั้นกล้ามเนื้อฟีบตัวลงได้
ร่างกายดึงสารต้านอนุมูลไปใช้
สารต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย นอกจากจะช่วยให้ผิวพรรณดี หน้าเด็กแล้ว ยังช่วยป้องกันและซ่อมแซมเซลล์กล้ามเนื้อให้กลับมาเป็นปกติได้ แต่เมื่อไหร่ที่คุณดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ร่างกายจะนำสารต้านอนุมูลอิสระเหล่านั้นมาช่วยในการเผาผลาญแอลกอฮอล์ออกจากร่างกายแทน ทำให้เซลล์กล้ามเนื้อที่ได้รับความเสียหายไม่สามารถฟื้นฟูได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ส่งผลให้กล้ามเนื้อไม่สามารถเติบโตได้เต็มที่นั่นเอง
ระบบย่อยอาหารแย่ลง
เนื่องจากแอลกอฮอล์ที่ดื่มจะลงไปทำลายเชื้อแบคทีเรียประเภทดีที่ใช้ในการย่อยอาหารภายในลำไส้ ส่งผลให้ระบบย่อยอาหารหยุดชะงัก ต่อให้กินอาหารมื้อเล็กแค่ไหนก็ย่อยสลายได้ช้า ทำให้เกิดอาการท้องอืดอึดอัด วิงเวียนศีรษะ กินอาหารมื้อต่อไปไม่ลง ส่งผลให้ร่างกายไม่สามารถดูดซึมสารอาหารที่จำเป็นเพื่อนำไปใช้ในการออกกำลังกายและสร้างกล้ามเนื้อได้ อีกทั้งยังทำให้เสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งลำไส้อีกด้วย
ลดระดับการผลิตฮอร์โมนเพศชาย
ฮอร์โมนเพศชาย หรือ เทสโทสเตอโรน (Testosterone) มีส่วนสำคัญในการช่วยเผาผลาญไขมัน เสริมสร้างกล้ามเนื้อและกระดูก รวมทั้งช่วยสร้างอสุจิให้สมบูรณ์ทำให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น แต่การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาก ๆ จะทำให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนเพศชายได้น้อยลง 20-40 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งร่างกายจะต้องเสื่อมสมรรถภาพลงแน่นอน แต่ทั้งนี้ก็เป็นเพียงแค่ช่วงเวลาสั้น ๆ เท่านั้น หลังจากหมดอาการแฮงก์ร่างกายก็จะกลับมาผลิตฮอร์โมนได้ตามปกติ
เครื่องดื่มแอลกอฮอล์มีแคลอรีสูง
ก็เป็นที่รู้กันดีว่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แต่ละอย่างมีปริมาณแคลอรีที่สูงมาก โดยเบียร์ 1 กระป๋องให้พลังงานเฉลี่ยอยู่ที่ 100-200 แคลอรี ส่วนสุราหรือวอดก้า ในปริมาณ 100 มิลลิลิตร ให้พลังงานสูงถึง 220 แคลอรีเลยทีเดียว ยิ่งเมายับเท่าไร แคลอรีที่ได้รับก็จะยิ่งสูงมากเท่านั้น แถมดื่มเสร็จนอนต่อเลย พลังงานที่ได้มาก็จะถูกสะสมพอกพูนเป็นไขมันตามร่างกาย งานนี้คงต้องเผาผลาญกันหนักเลย ไม่งั้นไม่ได้เห็นซิกแพคแน่ ๆ
ทั้งหมดนี้ก็คือผลเสียที่จะเกิดขึ้นกับนักเล่นกล้ามเมื่อดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อย่างไรก็ตามคนที่กำลังบิวท์กล้ามเนื้ออยู่ก็ควรเลิกหรือลดปริมาณการดื่มลง ไม่งั้นเล่นให้ตายกล้ามก็ไม่ขึ้นแน่นอน แถมเสียสุขภาพด้วยครับ
ข้อมูลจาก : muscleandfitness.com, barbend.com