เทรนด์การออกกำลังกายที่กำลังมาแรงแซงโค้งของยุคนี้ ก็คงหนีไม่พ้นการวิ่งและการ ปั่นจักรยาน หรือหนุ่ม ๆ หลายคนก็ชอบทั้งสองอย่าง แต่ไม่ว่าอย่างไหน ขึ้นชื่อว่าการออกกำลังก็ส่งผลดีต่อร่างกายทั้งนั้น ถ้าคุณทำได้ถูกหลักและไม่หักโหม วันนี้มาทำความรู้จักข้อดีของการปั่นจักรยานกันบ้างดีกว่า ว่ามีภาษีดีกว่าการวิ่งอย่างไรบ้าง
เพราะว่าคนส่วนใหญ่มักวิ่งในแนวราบ ไม่ได้วิ่งแนวดิ่ง อย่างเช่น การวิ่งขึ้นหรือลงเนิน วิ่งขึ้นลงบันได แต่อย่างไรการวิ่งก็ทำให้กล้ามเนื้อแข็งแรง แต่มวลกล้ามเนื้อไม่เพิ่ม ส่วนการปั่นจักรยาน คุณมีโอกาสที่จะปั่นขึ้นหรือลงเนิน หรือไม่ก็ยืนปั่นเป็นพัก ๆ ต้านแรงดึงดูดโลก ซึ่งทำให้มวลกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้นได้ มวลกล้ามเนื้อที่เพิ่มขึ้นนี้ จะช่วยดูดซับน้ำตาล ไขมัน และ คอเลสเตอรอล (ไขมันในเลือด) ทำให้สุขภาพดีกว่าในระยะยาว แถมยังช่วยให้หุ่นดูดี ตึงตัว ไม่หย่อนยาน
เคล็ดลับมีอยู่ว่า ขอให้ลองปั่นเร็วมาก ๆ สลับสัก 1 นาที หาโอกาสขึ้นหรือลงเนิน หรือยืนปั่นสลับบ้าง คุณก็จะได้รับประโยชน์จากการปั่นจักรยานอย่างเต็มที่เลยล่ะ !
ไม่จำเป็นว่าคุณจะต้องเริ่มต้นด้วยจักรยานราคาแพง เพราะถ้าจอดทิ้งไว้ไม่แน่ก็อาจถูกลักขโมยได้ แต่อุปกรณ์ต่าง ๆ ก็จำเป็นต้องดูแลรักษาให้พร้อมใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นโซ่ อาน เกียร์ ฯลฯ เพราะปัญหาของการปั่นจักรยาน มักจะเป็นเรื่องของความปลอดภัยบนท้องถนนมากกว่า ส่วนปัญหาของการวิ่ง ปัญหาเชิงอุปกรณ์อาจมีน้อยกว่าก็จริงอยู่ มีเพียงรองเท้าวิ่งกับเสื้อผ้าระบายความร้อนก็สามารถออกวิ่งได้แล้ว แต่ปัญหาเชิงสุขภาพ อาจตามมาด้วยปัญหาอาการบาดเจ็บบริเวณหัวเข่าหรือข้อเท้า เนื่องจากเข่าต้องรับน้ำหนักตัวจากการวิ่ง ผลคืออาจมีอาการปวดกล้ามเนื้อและได้รับความเสียหายมากกว่านั่นเอง
นับเป็นความเพลิดเพลินควบคู่กับการออกกำลังกายไปพร้อม ๆ กัน เสมือนเป็นการกินลมชมวิวสองข้างทาง ก่อนจะไปถึงจุดหมายที่วางไว้ แม้คนที่มีน้ำหนักตัวมาก ก็สามารถออกกำลังกายประเภทนี้ได้ เพราะหัวเข่าหรือข้อเท้าไม่ได้รับน้ำหนักตัวมาก เมื่อเทียบกับการวิ่ง จนอาจทำให้หลายคนหลงรักการปั่นจักรยานและการออกกำลังกายได้ในที่สุด จากที่ไม่ชอบการออกกำลังกายใด ๆ เลย กระทั่งกลายมาเป็นคนที่มีรูปร่างและสุขภาพดีอย่างไม่รู้ตัวเลยก็ได้
สุดท้ายนี้ เพียงอยากแนะนำกีฬาที่เหมาะกับข้อจำกัดของตัวคุณที่สุด รับรู้ข้อดี-ข้อเสียกันไว้บ้าง เพราะไม่ว่าอย่างไรการปั่นจักรยาน หรือการวิ่ง ก็ช่วยให้คุณมีสุขภาพที่ดีได้ทั้งนั้น อย่ามัวแต่นั่งติดอยู่กับโซฟาที่บ้าน หรือโต๊ะทำงานมากจนเกินไปล่ะ เดี๋ยวจะหาว่าเราไม่เตือน
ข้อมูลจาก : menshealth.co.uk, healthyliving.azcentral.com