กล้องถ่ายรูปสุดเจ๋งที่นักเดินทางควรมีติดไว้
10 กล้องถ่ายรูปสุดเจ๋งที่นักเดินทางควรมีติดไว้(FOTOINFO ISSUE)
10 กล้องถ่ายรูปทั้งแบบคอมแพคท์และมิเรอร์เลส ที่นักท่องเที่ยวที่ชอบถ่ายรูปน่าหามาใช้งาน
สำหรับคนที่ชอบท่องเที่ยวไปตามสถานที่ต่าง ๆ นั้น อุปกรณ์สำคัญที่ต้องมีติดตัวไปกับการเดินทางด้วย คงต้องยกให้ กล้องถ่ายรูป เป็นหนึ่งในนั้น โดยในวันนี้เราได้นำกล้อง 10 รุ่นที่ทาง National Geographic Travel ได้คัดเลือกไว้ มาแนะนำให้ทราบกันแล้วครับ
1. Fujifilm XT-1
เซ็นเซอร์ : APS-C 16 ล้านพิกเซล
คุณสมบัติ : เปลี่ยนเลนส์ได้, มีช่องมองภาพอิเล็กทรอนิก, ถ่ายวิดีโอ HD
ในปี 2014 Fujifim ได้ออก X-T1 ซึ่งมีรูปทรงรีโทรแบบเดียวกับ X-Pro1 ก่อนหน้านี้โดยมีรูปทรงที่คลาสสิกเหมือนกล้องฟิล์ม SLR ในยุค 1970 แต่แทนที่จะมีปริซึมออฟติคัล ที่ด้านบนตัวกล้องจะมีหนึ่งในช่องมองภาพอิเล็กทรอนิกที่ดีที่สุดแทน สิ่งที่ดีที่สุดคือความรู้สึกช้าหายไป แต่มีความเร็วเข้ามาแทนทั้งระบบออโต้โฟกัส, การดูภาพที่ถ่ายไปแล้ว และถ่ายภาพได้จำนวนมากโดยไม่ต้องรอ
2. Fujifilm X-E2
เซ็นเซอร์ : APS-C 16 ล้านพิกเซล
คุณสมบัติ : เปลี่ยนเลนส์ได้, มี Wi-Fi ในตัว, มีช่องมองภาพอิเล็กทรอนิก, ถ่ายวิดีโอ HD
นี่เป็นกล้อง X-Pro1 ในเวอร์ชั่นที่มีขนาดเล็กกว่าและเบากว่าโดยไม่มีช่องมองภาพออฟติคัส Fujifilm ใช้เซ็นเซอร์แบบใหม่ที่เรียกว่า X-Trans CMOS ซึ่งใช้การเรียงสีแตกต่างจากเดิมส่งผลให้คุณภาพของภาพจากเซ็นเซอร์ที่เล็กนี้ต่อกรได้กับฟูลเฟรม นอกจากนี้ยังสามารถให้ภาพ JPEG ที่ยอดเยี่ยมตรงออกมาจากล้องได้เลย
3. Panasonic Lumix DMC-GH4
คุณสมบัติ : เปลี่ยนเลนส์ได้, มี Wi-Fi ในตัว, ช่องมองภาพอิเล็กทรอนิก, ถ่ายวิดีโอ 4K
กล้องซีรี่ส์ G ของ Panasonic ที่มีขนาดกะทัดรัดใช้เซ็นเซอร์ภาพขนาด Micro 4/3 ซึ่งเป็นขนาดที่เล็กกว่ากล้องเปลี่ยนเลนส์ได้ส่วนใหญ่ พร้อมกับมีรูปทรงของกล้องที่ดูเรียบง่าย มีช่องมองภาพอิเล็กทรอนิกนอกเหนือจากการดูภาพที่จอด้านหลัง สิ่งที่ทำให้กล้องรุ่นนี้โดดเด่นคือ การให้ภาพวิดีโอที่เหนือกว่ากล้องถ่ายภาพอื่น ๆ เนื่องจาก Lumix GH4 เป็นกล้องถ่ายภาพที่ถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงถึง 4K จึงเป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงด้วยราคาที่ถูกกว่า ขณะที่คุณภาพของภาพนิ่งอยู่ในระดับที่ยอดเยี่ยมสำหรับกล้อง Micro 4/3
4. Panasonic Lumix DMC-GX7
เซ็นเซอร์ : Micro FourThirds 16 ล้านพิกเซล
คุณสมบัติ : เปลี่ยนเลนส์ได้, มี Wi-Fi ในตัว, ช่องมองภาพอิเล็กทรอนิก, ถ่ายวิดีโอ HD
กล้อง Panasonic ซีรี่ส์ G เพิ่งได้รับความนิยมจากนักถ่ายภาพในช่วงในกี่ปีที่ผ่านมา จากขนาดที่เล็กของกล้องและคุณภาพของภาพที่ยอดเยี่ยม รวมไปถึงเลนส์ที่มีให้เลือกมากมายจากทั้ง Panasonic, Olympus และ Leica ซึ่งเป็นจุดเด่นของกล้อง Micro FourThirds ในซีรีส์นี้ที่ใช้เลนส์เม้าท์เดียวกัน โดย Lumix GX-7 ได้เพิ่มช่องมองภาพอิเล็กทรอนิกเข้ามาซึ่งทำให้กล้องรุ่นนี้มีความสมบูรณ์มากขึ้น เพราะเป็นสิ่งที่นักถ่ายภาพต้องการ
5. Sony Alpha a7
เซ็นเซอร์ : ฟูลเฟรม 12.2 ล้านพิกเซล (a7), 36 ล้านพิกเซล (a7R)
คุณสมบัติ : กล้อง Mirrorless ฟลูเฟรม, เปลี่ยนเลนส์ได้, มี Wi-Fi ในตัว, ช่องมองภาพอิเล็กทรอนิก, ถ่ายวิดีโอ HD
การที่มีเซ็นเซอร์ฟูลเฟรมในตัวกล้อง Mirrorless จึงทำให้นี่เป็นหนึ่งในสิ่งที่นักถ่ายภาพระดับโปรจำนวนมากรอคอย กล้องรุ่นนี้ไม่ให้ความสะดวกในการพกพาเช่นเดียวกับรุ่นอื่นอีก 9 รุ่นเนื่องจากเซ็นเซอร์ฟูลเฟรมจำเป็นต้องใช้เลนส์ที่ใหญ่กว่าของ Sony แต่ก็ยังลดความเทอะทะลงได้อย่างชัดเจนเมื่อเทียบกับความสามารถในการบันทึกภาพ 24 ล้านพิกเซล และด้วยความละเอียด 36 ล้านพิกเซลใน Alpha 7R จะยิ่งทำให้ดูเหมือนตัวกล้องเล็กมากเมื่อเทียบกับจำนวนพิกเซล
ไม่นานมานี้ Sony ได้เพิ่ม Alpha a7S เข้ามาอีก ซึ่งอาจสร้างความประหลาดใจในเรื่องความละเอียดที่ลดลงเหลือ 12.2 ล้านพิกเซล แต่เหตุผลหลักก็คือเพื่อให้เป็นไปได้ที่จะถ่ายวิดีโอ 4K นอกจากนี้ข้อดีอย่างหนึ่งก็คือจำนวนพิกเซลที่น้อยลง นั่นหมายถึงแต่ละโฟโต้ไซต์ที่ใหญ่ขึ้นจึงสามารถรับแสงได้มากขึ้น ทำให้ a7S ปรับความไวแสงได้สูงกว่า ISO 400,000 ซึ่งแม้ภาพจะเลวร้ายเมื่อปรับความไวแสงนี้ แต่ประสิทธิภาพเมื่อปรับที่ ISO สูงระดับ 64000 จะดีอย่างเหลือเชื่อ
6. Sony Alpha a6000
เซ็นเซอร์ : APS-C 24.3 ล้านพิกเซล
คุณสมบัติ : เปลี่ยนเลนส์ได้, มี Wi-Fi ในตัว, ช่องมองภาพอิเล็กทรอนิก, ถ่ายวิดีโอ HD
การต่อกรชั้นแรกของ Sony ต่อกล้อง Micro FourThirds คือกล้อง NEX ขนาดกะทัดรัด ซึ่งใช้เซ็นเซอร์ภาพขนาดเดียวกับกล้อง DSLR ส่วนใหญ่
Sony NEX-6 ได้ถูกแทนที่ด้วยรุ่นใหม่ในชื่อ a6000 ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วจะมีลักษณะเหมือนกับ NEX-6 แต่จะมีความละเอียดมากขึ้นจาก 16.1 ล้านพิกเซลเป็น 24.3 ล้านพิกเซล รวมทั้งยังเพิ่มจุดโฟกัลเป็น 179 จุดจาก 99 จุดใน NEX-6 แต่กล้องรุ่นใหม่นี้จะมีความละเอียดของช่องมองภาพอิเล็กทรอนิกน้อยกว่า
7. Sony DSC-RX10
เซ็นเซอร์ : 20 ล้านพิกเซล
คุณสมบัติ : เลนส์ Carl Zeiss 24-200 มม. F2.8, มี Wi-Fi ในตัว, ช่องมองภาพอีเล็กทรอนิก, ถ่ายวิดิโอ HD
RX10 เป็นกล้องที่น่าตื่นเต้นด้วยเลนส์ซูมเทียบเท่ากับ 24-200 มม. และส่วนทีดีที่สุดคือมีรูรับแสงคงที่ F2.8 ดังนั้นจึงมีประโยชน์อย่างมาก เมื่อถ่ายภาพในสภาพที่แสงน้อย แม้ว่าตัวกล้องอาจจะไม่มีความโดดเด่นมาก ขณะที่ความยอดเยี่ยมของเลนส์อาจเป็นเหตุที่ทำให้หลายคนตัดสินใจซื้อ อย่างก็ตามเมื่อมาอยู่รวมกันก็เป็นคู่ที่ลงตัว สำหรับผู้ที่ต้องการกล้องที่สามารถให้ในสิ่งที่ต้องการได้อย่างดีโดยไม่ต้องพกเลนส์จำนวนมากไปไหนมาไหน เพราะเพียงกล้องนี้ตัวเดียวก็สามารถให้ได้
8. Olympus OM-D E-M1
เซ็นเซอร์ : Micro FourThirds 16.3 ล้านพิกเซล
คุณสมบัติ : เปลี่ยนเลนส์ได้, มี Wi-Fi ในตัว, ช่องมองภาพอิเล็กทรอนิก, ถ่ายวิดีโอ HD
Olympus เป็นผู้นำกล้องถ่ายภาพคุณภาพสูงขนาดเล็กภายในรูปทรงที่มีโดดเด่นมาตั้งแต่อดีตจากกล้องฟิล์ม OM ที่มีขนาดเล็กกว่าและเลนส์ที่มีคุณภาพไม่เป็นรองใคร ซึ่งปัจจุบันสิ่งเหล่านี้กลับมาอีกครั้งในแบบดิจิตอล โดย OM-D E-M1 กล้อง Flagship ของ Micro FourThirds มีการใช้ระบบออโต้โฟกัสที่เต็มระบบและรวดเร็วเป็นครั้งแรกของกล้อง Mirrorless นอกจากนี้หน่วยประมวลผลภาพใหม่ยังทำงานอย่างไร้ที่ติ ที่ความไวแสงสูง รวมทั้งทุกสิ่งที่คาดหวังใน FourThirds ยังมีมาอย่างครบถ้วนในกล้อง OM-D ใหม่นี้ด้วย
9. Olympus TG-3
เซ็นเซอร์ : 16 ล้านพิกเซล
คุณสมบัติ : ป้องกันน้ำได้ (50 ฟุต), เลนส์ 25-100 มม. F2.0, จอ OLED 3 นิ้ว
แม้ว่ากล้องนี้จะใช้เซ็นเซอร์ขนาด Poin and Shoot ที่เล็ก แต่คุณสมบัติของกล้องทำให้มีความโดดเด่น เพราะกล้องขนาดกะทัดรัดนี้ทนต่อแรงกระแทก, ความเย็นจัด, ป้องกันฝุ่น รวมไปถึงน้ำที่ลึกถึง 50 ฟุตโดยไม่ต้องใช้เฮ้าซิ่ง เนื่องจากบางครั้งภาพที่ยอดเยี่ยมมาจากสถานการณ์ที่ไม่ปกติซึ่งผู้ใช้ไม่ต้องกังวลกับกล้องนี้
กล้องรุ่นล่าสุดมีการทำงาน Interval Shoting ทำให้ถ่ายภาพ Time-lapes ได้ง่าย การที่มี GPS ในตัวทำให้ผู้ใช้รู้ว่าอยู่ที่ไหน นอกจากนี้ยังควบคุมผ่าน Wi-Fi ได้ทำให้ส่งภาพสู่โทรศัพท์เพื่อโพสต์ในอินสตาแกรมได้
10. Ricoh GR
เซ็นเซอร์ : APS-C 16 ล้านพิกเซล
คุณสมบัติ : เลนส์ 28 มม. F2.8 ถ่ายวิดีโอ HD
ในสมัยฟิล์มรุ่งเรือง นักถ่ายภาพจำนวนมากมักพกกล้อง Ricoh GR1 ไปไหนมาไหนด้วยเสมอ สำหรับสิ่งต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ จากขนาดที่หนากว่ากลักฟิล์มไม่มากและเลนส์ 28 มม. ที่มีคุณภาพสูงสุดรุ่นหนึ่ง จน Ricoh ได้นำออฟติคัลนี้มาใส่ไว้ในกระบอกเลนส์สำหรับใช้ร่วมกับกล้องเรนจ์ไฟน์เดอร์ Leica หลังจากที่ออกกล้องเซ็นเซอร์ขนาดเล็กที่เหมือนเวอร์ชั่นดิจิตอล GR1 มาหลายรุ่น ในที่สุด Ricoh ก็ได้ผลิตกล้องที่ใช้เซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ขึ้นและผลิตเลนส์ที่มีมุมรับภาพเท่ากับ 28 มม. ออกมา โดย GR ใหม่นี้เป็นการนำเอาเสน่ห์ของ Ricoh ในอดีตกลับมาอีกครั้ง เนื่องจากเมนูปรับตั้งของกล้องที่แตกต่างจากปกติของกล้อง ซึ่งกล้องจะทำในสิ่งที่นักถ่ายภาพที่มีประสบการณ์คิดว่าจะทำ โดยไม่ต้องคาดเดาว่าต้องจะทำอะไร
ที่มา หนังสือFOTOINFO ISSUE 116 พฤศจิกายน 2557