ประวัติ Windows ตั้งแต่อดีตจนถึง Windows 11 สำหรับใครที่อยากรู้ว่าระบบปฏิบัติการ Windows แต่ละรุ่นหน้าตาเป็นอย่างไร เปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง
Windows เป็นระบบปฏิบัติการบนคอมพิวเตอร์ที่มีคนใช้งานกันมากที่สุด
ซึ่งหลายคนคุ้นเคยกับการใช้ Windows มายาวนานกว่าสิบปี
แต่คงมีหลายคนที่ยังไม่เคยรู้หรืออาจจำกันไม่ได้แล้วว่า Windows
แต่ละรุ่นตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันนั้นมีความเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง
วันนี้กระปุกดอทคอมจึงขอพาทุกท่านย้อนอดีตไปดูกันดีกว่าว่า Windows
แต่ละยุคนั้นมีหน้าตาอย่างไรกันบ้าง ไปดูกันเลยดีกว่าครับ
วางจำหน่ายเมื่อวันที่ 20
พฤศจิกายน 1985 เป็น Windows รุ่นแรก ซึ่งยังไม่ได้รับความนิยม
โดยแรกเริ่มถูกเรียกว่า Interface Manager
แต่สุดท้ายทางไมโครซอฟท์ก็เลือกที่จะใช้ชื่อ Windows
แทนเนื่องจากเรียกและจดจำได้ง่ายกว่า
Windows 1.0
Windows 1.0
Windows 2.0
วางจำหน่ายเมื่อวันที่ 9
ธันวาคม 1987 เป็นการนำ Windows 1.0
มาพัฒนาใช้งานได้สะดวกและรวดเร็วกว่าเดิม ได้รับความนิยมมากกว่ารุ่นแรก
เริ่มมีนักพัฒนาหลายรายพัฒนาโปรแกรมสำหรับใช้บน Windows 2.0
Windows 2.0
Windows 2.0
Windows 3.0
วางจำหน่ายเมื่อวันที่ 22
พฤษภาคม 1990 ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นแห่งความสำเร็จของ Windows
ที่ได้รับความนิยมมากกว่ารุ่นก่อนหน้าค่อนข้างมาก รองรับ 16 สี
อินเทอร์เฟซถูกพัฒนาให้มีสีสันดูน่าใช้งานมากกว่าเดิม และได้ออก Windows
3.1 ตามมาในปี 1992 ที่ทำให้ Windows
กลายเป็นระบบปฏิบัติการที่คนใช้กับแพร่หลายมากที่สุด
Windows 3.0
Windows 3.0
Windows 3.1
Windows NT
วางจำหน่ายเมื่อวันที่ 27
กรกฎาคม 1993 เป็นรุ่นที่พัฒนามาสำหรับใช้ในกลุ่มองค์กรและธุรกิจต่าง ๆ
โดยเฉพาะ ซึ่งในภายหลังได้ออกรุ่นใหม่ ๆ มาในช่วงเดียวกับ Windows
สำหรับใช้ในบ้านแต่ละรุ่น
Windows NT
Windows 95
วางจำหน่ายเมื่อวันที่ 24
สิงหาคม 1995 ยังคงเป็นระบบปฏิบัติการที่ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง โดย
Windows 95 รองรับสีแบบ 32 บิต และรองรับ Multitasking อย่างเต็มรูปแบบ
พร้อมทั้งฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่ถูกพัฒนาขึ้นมา รวมทั้งการนำเสนอปุ่ม Start และ
Taskbar เป็นครั้งแรก
Windows 95
Windows 95
Windows 98
วางจำหน่ายเมื่อวันที่ 25
มิถุนายน 1998
เป็นรุ่นที่พัฒนามีให้เหมาะกับการใช้ทำงานและใช้เพื่อความบันเทิงในบ้าน
อินเทอร์เฟซคล้ายกับ Windows 95 แต่มีสีสันมากกว่าเดิม
พร้อมกับการมาครั้งแรกของแถบ Quick Launch
สำหรับเปิดโปรแกรมอย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องเปิด Start Menu
Windows 98
Windows 98
Windows 2000 Professional
วางจำหน่ายเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2000
เป็นรุ่นที่พัฒนามาด้วยโค้ดเคอร์เนลเดียวกับ Windows ตระกูล NT
ออกแบบมาเพื่อใช้ในกลุ่มองค์กรหรือธุรกิจ
มีการพัฒนาให้รองรับระบบเครือข่ายและมีความเสถียรมากยิ่งขึ้น
Windows 2000 Professional
Windows Me
วางจำหน่ายเมื่อเดือนกันยายน
2000 ตัวย่อ Me ย่อมาจาก Millennium Edition เป็น Windows
สำหรับใช้งานภายในบ้านรุ่นสุดท้ายที่จะใช้โค้ดเคอร์เนลแบบเดียวกับ Windows
95 และ 98 ในการพัฒนา มีการพัฒนาให้รองรับสื่อบันเทิงต่าง ๆ มากยิ่งขึ้น
แต่ไม่ได้รับความนิยมมากเท่า Windows 98
Windows Me
Windows Me
Windows XP
วางจำหน่ายเมื่อวันที่ 25
สิงหาคม 2001 เป็น Windows
รุ่นที่มีผู้ใช้งานมากที่สุดและประสบความสำเร็จมากที่สุด
เนื่องจากอินเทอร์เฟซที่ถูกพัฒนาให้สวยงามกว่ารุ่นก่อนหน้าอย่างก้าวกระโดด
ปุ่ม Start สีเขียว Taskbar สีฟ้าสดใส
พร้อมทั้งระบบที่มีความเสถียรและปลอดภัย สามารถอัปเดตตัวเองได้
มีโปรแกรมรองรับมาก โดย Windows XP เป็นรุ่นที่แรกใช้โค้ดเคอร์เนลตระกูล NT
พัฒนาออกมาทั้งรุ่น Home Edition สำหรับใช้ในบ้าน และ Professional
สำหรับใช้ในธุรกิจ และออกเวอร์ชั่น 64 บิต ตามมาในปี 2005
Windows XP
Windows XP
Windows Vista
วางจำหน่ายเมื่อวันที่ 30
มกราคม 2007 อินเทอร์เฟซที่ถูกเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง
โดยเน้นไปที่หน้าต่างแบบกึ่งโปร่งใส มองเห็นทะลุได้ ดูคล้ายกระจก ปุ่ม
Start ถูกเป็นเปลี่ยนลูกแก้วโลโก้ Windows
พร้อมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพด้านรักษาความปลอดภัยมากกว่าเดิม
แต่ไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควรเมื่อเทียบกับ Windows XP
Windows Vista
Windows Vista
Windows 7
วางจำหน่ายเมื่อวันที่ 22
ตุลาคม 2009 ยังคงใช้อินเทอร์เฟซแบบกึ่งโปร่งใสคล้ายกับ Windows Vista
รองรับการใช้งานแบบระบบสัมผัสหน้าจอ พร้อมทั้งการมาของ Taskbar
รูปแบบใหม่ที่แสดงเป็นไอคอนโปรแกรมขนาดใหญ่กว่าเดิม
สามารถปักหมุดโปรแกรมที่ใช้เป็นประจำไว้บน Taskbar ได้
เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ได้รับความนิยมค่อนข้างมาก และทำให้ผู้ใช้ Windows XP
หลายคนตัดสินใจที่จะอัปเกรดมาใช้ Windows 7
Windows 7
Windows 7
Windows 8
วางจำหน่ายเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2012 มาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
อินเทอร์เฟซถูกเปลี่ยนให้เป็นแบบเรียบสไตล์ Metro ปุ่ม Start และ Start
Menu หายไป แทนที่ด้วย Start Screen แบบเต็มจอ การใช้งานถูกแบ่งออกเป็นโหมด
Desktop ปกติเหมือน Windows รุ่นก่อน ๆ กับโหมด Metro
สำหรับใช้งานแอปพลิเคชันบน Windows Store แบบเต็มจอ
รองรับการใช้งานระบบสัมผัสเต็มรูปแบบ
มีผู้ใช้จำนวนหนึ่งที่ไม่ค่อยถูกใจกับความเปลี่ยนแปลงดังกล่าวและเลือกที่จะใช้
Windows 7 ต่อไป โดยในปี 2013 ไมโครซอฟท์ได้ออก Windows 8.1 ที่นำปุ่ม Start กลับมา พร้อมทั้งปรับปรุงระบบอีกเล็กน้อย
Windows 8
Windows 8
Windows 8.1
เปิดตัวเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2014 เป็น Windows
รุ่นใหม่ล่าสุดที่ทางไมโครซอฟท์ได้ข้ามชื่อ Windows 9 ไป
สามารถใช้งานได้บนอุปกรณ์ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ตโฟน, แท็บเล็ต,
คอมพิวเตอร์ ฯลฯ อินเทอร์เฟซโดยรวมคล้ายกับ Windows 8 แต่โปรแกรมและแอปพลิเคชัน
ต่าง ๆ สามารถใช้งานได้ทั้งโหมด Desktop และโหมด Tablet
ไม่แยกออกจากกันเหมือน Windows 8 อีกแล้ว พร้อมทั้งการกลับมาของ Start Menu
สำหรับการใช้งานแบบโหมด Desktop โดยจะวางจำหน่ายในปี 2015
Windows 10
Windows 10
เปิดตัวเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2021 ระบบปฏิบัติการเวอร์ชั่นใหม่ที่สานต่อจาก Windows 10 โดยได้มีการพัฒนาปรับปรุงหน้าตาอินเทอร์เฟซและเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ๆ ให้สะดวกและน่าใช้งานมากยิ่งขึ้น ปุ่ม Start Menu ที่ถูกย้ายมากึ่งกลางจอเป็นครั้งแรก ซึ่งประกอบไป Multi-tasking แบ่งหน้าจอได้หลายแบบ มี Microsoft Teams ในตัว พร้อมฟีเจอร์ Widgets และอื่น ๆ อีกมากมาย ที่สำคัญคือ สามารถใช้แอปฯ Android ได้
เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับ Windows แต่ละรุ่นตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน มีใครเกิดทันใช้รุ่นไหนกันบ้าง แต่นอกเหนือจาก Windows รุ่นที่กล่าวถึงแล้วนี้ ยังมี Windows รุ่นอื่น ๆ อีกมากมายที่หลายคนอาจไม่รู้จัก โดยส่วนใหญ่จะเป็น Windows ตระกูล NT และ Server อีกหลายรุ่น สำหรับใช้งานในระบบเครือข่ายขององค์กรต่าง ๆ