เกริ่นนำโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณน๊อต สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
เชื่อว่าคนที่มีเป้าหมายที่จะลดน้ำหนักหลาย ๆ คน ต่างต้องเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบากมาไม่มากก็น้อย บางคนควบคุมอาหารและออกกำลังมาเป็นปีแล้วแต่น้ำหนักก็ลดลงไม่มาก ซ้ำร้ายบางคนเจอโยโย่เอฟเฟกต์เข้าไปอีก จึงอาจทำให้รู้สึกท้อใจไปเหมือนกัน
แต่หากคุณได้อ่านเรื่องราวจากประสบการณ์ตรงของคุณน๊อตแล้ว บางทีอาจจะเกิดแรงฮึดขึ้นมาอีกครั้งก็เป็นได้ เพราะเขาตัดสินใจลดน้ำหนักอย่างจริงจังจากการลองผิดลองถูกมาด้วยตัวเอง จนกระทั่งลดน้ำหนักได้สำเร็จ ก็เลยอยากแบ่งปันเคล็ดลับดี ๆ ให้กับเพื่อน ๆ ที่อยากลดน้ำหนัก ด้วยการแชร์วิธีลดน้ำหนักในกระทู้พันทิปชื่อ "จากเคยน้ำหนัก 116 กิโล เหลือ 72 กิโล ภายใน 4-6 เดือน !! ผมทำได้ พวกคุณก็ทำได้ !!!" เรามาดูกันดีกว่าว่าคุณน๊อตเขามีเคล็ดลับยังไงบ้าง
แนะนำตัวก่อนนะครับ ผมชื่อ น๊อต ทำงานเป็นโปรแกรมเมอร์ อายุก็ 30+ สูง 171 เซนติเมตร ก่อนลดน้ำหนัก มีน้ำหนักตัวอยู่ที่ 116 กิโลกรัม นะวันที่ 16 เมษายน 2556 ส่วนสาเหตุที่ทำให้อยากลดความอ้วนมีดังนี้ครับ
1. อยากเท่ อยากสมาร์ท อยากให้มีบุคลิกภาพที่ดี อาชีพของผมมีต้องไปเป็นวิทยากรบ้าง เลยรู้สึกว่าตัวเองไม่มั่นใจเวลาออกไปยืนหน้าเวที มันไม่เฟี้ยวเงาะเลย
2. หนีจากโรคต่าง ๆ ผมไม่ได้เป็นเบาหวาน คอเลสเตอรอลไม่สูง แต่เป็นความดัน เหนื่อยง่าย อยากให้อาการเหล่านี้หายไป
3. เบื่อกับการหาเสื้อผ้าที่ต้องใช้ไซส์พิเศษและราคาแพงกว่าคนธรรมดาเขาใส่กัน โดยก่อนลดผมใส่กางเกงเอว 46
เห็นรูปมั้ยครับ ขอบอกเลยอ้วนมาก มีแต่คนบอกให้ลด แต่ยังคงมีความสุขกับการกินอยู่ แต่แล้ววันหนึ่งอยู่ดี ๆ ก็เกิดตั้งใจขึ้นมาว่า เอาวะอยากผอม ต้องผอม โดยหาแรงบันดาลใจจากที่ต่าง ๆ มากมาย ทั้งในพันทิป และอีกหนึ่งคนสำคัญเลยคือ จอห์น วิญญู เพราะได้เข้าไปดูรายการ Good Shape Save Cost ก็เลยอยากทำบ้าง ก่อนเริ่มก็ไปหาอุปกรณ์ที่สร้างกำลังใจพร้อมกับลดกำลังใจไปพร้อม ๆ กัน คือเครื่องชั่งน้ำหนักดิจิตอลมาไว้ในห้องและโหลดแอพฯ ในการจดบันทึกน้ำหนัก เสียเงินก็ยอมครับงานนี้
หลังจากดูรายการของ จอห์น มาแล้วก็เลยเริ่มหาสูตรอาหารในการควบคุมน้ำหนักเลย ก็ได้สูตรจากสมเด็จพระเทพ ฯ ครับ สูตรที่หลาย ๆ คนคงทราบดีว่า โหดจริง ต้องใจล้วน ๆ ต้องไม่วอกแวก ต้องไม่กินอะไรมากไปกว่าคำบอกกล่าวจากกระดาษในเดียว
ผมกินแบบนี้มา 3 อาทิตย์ น้ำหนักลดพรวดไป 10 กว่ากิโลกรัมเลยครับ เรียกว่าอดทนมาก นอกเหนือจากเมนูคือน้ำเปล่าเย็น ๆ เท่านั้น ไม่ได้ออกกำลังกายเลยกลัววูบ จนมาในวันหนึ่งก็เลยมาเจอหนังสือเล่มนึง พอซื้อมาอ่านแล้วเกิดกลัวขึ้นมาทันที กลัวว่าจะโยโย่ครับ การควบคุมอาหารแบบนี้เรียกว่าการจำกัดแคลอรี่ หากทำนาน ๆ การเผาผลาญพลังงานจะเกิดอาการจำศีล แล้วถ้ากินเกินน้ำหนักมันจะเด้งขึ้น เลยเลิกกินตามสูตร หันมากินนับแคล ค่อย ๆ เพิ่มจากเดิมให้มากขึ้นทีละนิด แต่ก็งดของ มัน ทอด กระทิ ขนม ของหวาน น้ำอัดลม เหมือนเดิม
หลังจากนั้นค่อยเริ่มหาความรู้โภชนาการอาหารมากขึ้น ควบคุมการกินไปเรื่อย ๆ ไม่ให้เกินจำนวนแคลที่กำหนด ผ่านมา 2 เดือน น้ำหนักลดลงไปได้เกือบ 20 กิโลกรัม
ซึ่งหลังจากนั้นการควบคุมการกินเริ่มลดลงยากล่ะ เลยหันมาออกกำลังกายไปด้วย เริ่มกินมากขึ้นให้มีแรงพอออกกำลังกาย วิ่งรอบหมู่บ้าน โดยค่อย ๆเพิ่มจาก 1 กิโลเมตร จนไปถึง 3 กิโลเมตร ต้องบอกว่าวิ่งหน้าฝนลำบากมาก ผมวิ่งทุกวัน กลับบ้านเร็วก็วิ่งเร็วหน่อย กลับมืดสัก 2 ทุ่มก็วิ่งครับ วิ่งจนรองเท้าวิ่งพัง ส่วนบางวันที่ฝนตกผมก็วิ่งในบ้านครับ วิ่งไปวิ่งมาในพื่นที่แคบ ๆ แต่พอฝนตกบ่อย ๆ เข้า ผมเลยตัดสินใจเข้า ฟิตเนส ยอมเสียเงิน เพื่อเข้าไปออกกำลังกาย วิ่ง และเล่นเวท
จำได้ว่าตอนที่เข้าไปฟิตเนสวันแรก ผมหนัก 86 กิโลกรัม การที่ได้เข้าฟิตเนสผมได้ความรู้จากที่ปรึกษาหลายอย่างมาก ทั้งเรื่องการกิน การออกกำลังกาย รวมถึงวิธีออกกำลังกาย ตอนเริ่มเล่นผมได้โปรแกรมลดน้ำหนักที่ทางฟิตเนสจัดให้ จนกระทั่งปรับเปลี่ยนมาเป็นการสร้างกล้ามเนื้อแทน ผมไปฟิตเนสทุกวัน วิ่งวันละ 7-10 กิโลเมตร บนลู่วิ่งทุกวัน เล่นเวทตามโปรแกรม เล่นจนทางที่ปรึกษาต้องมาเบรกให้พักบ้าง เล่นจนบาดเจ็บบ้างก็มี เล่นจนคนในฟิตเนสรู้จักและเข้ามาคุยกับผมเกือบทุกคน เป็นที่สนใจของทุกคนเพราะเค้าเห็นผมตั้งแต่ตัวยังใหญ่จนเหลือตัวนิดเดียว
เล่นแบบนี้จนร่างกายผมเริ่มดีขึ้นมาก ผมทำแบบนี้อยู่หลายเดือน จากน้ำหนัก 86 กิโลกรัมตั้งแต่เริ่มเข้าฟิตเนส จนเหลือ 72 กิโลกรัม ซึ่งผมได้บรรลุเป้าหมายของตัวเองแล้วครับ
ผมใช้เวลาอยู่ 4-6 เดือน ลดมาร่วม ๆ 40 กิโลกรัม จากคนเคยใส่กางเกงเอว 46 ตอนนี้ผมใส่ 34 ครับ เสื้อผ้าเปลี่ยนใหม่หมด เสื้อที่เคยต้องใส่ไซส์พิเศษพวก XXL ตอนนี้ผมใส่ M และ L ซึ่งผมรู้สึกดีมาก สุขภาพร่างกายแข็งแรง บุคลิคดีขึ้น และที่สำคัญทำอะไรมั่นใจมากขึ้นครับ ซึ่งทีแรกเพื่อน ๆ และญาติบางคนจำไม่ได้ หลายคนเห็นก็ตกใจเลยทีเดียวครับ
ผมลดน้ำหนักแบบลองผิดลองถูกมา แต่ทุกวันนี้ก็มีสูตรตายตัวสำหรับผมแล้ว ในการควบคุมน้ำหนักในแต่ละวัน คือคำนวน BMR หรือค่าเผาผลาญ แล้วกินให้น้อยกว่า 500-600 แคลลอรี่ (เช่นผมเผาผลาญ 2,600 กิโลแคลอรี่ต่อวัน ผมก็กินให้น้อยกว่าเดิมคือ 2,600-600 เป็น 2,000 กิโลแคลอรี่ต่อวันหรือน้อยกว่า ทุกวันนี้กินไม่เกิน 1500 ต่อวัน) เป้าหมายต่อไปคือผมจะเอาซิกแพค เพราะลดน้ำหนักมานี่ยังไม่เฟิร์มสักเท่าไร ยังคงมีไขมันส่วนเกินอยู่บ้าง
ผมก็ขอให้ทุกคนที่กำลังลดน้ำหนักอยู่ ขอให้สู้ ๆ ครับ "ผมทำได้ คุณก็ทำได้" มันไม่ยาก แต่ต้องใช้ความอดทน อดทนต่อสิ่งเร้าต่าง ๆ อดทนต่อความอยากที่มีมากกว่าความหิว แล้วคุณจะทำได้แน่นอนครับ
หลังจากได้อ่านเคล็ดลับการลดน้ำหนักของคุณน๊อตกันไปแล้ว ใครอยากจะลองเอาสูตรของเขาไปทำดูก็ได้นะ เจ้าตัวไม่หวงแน่นอน ซึ่งก็หวังว่าจะให้คุณกลับมามีรูปร่างที่เข้าที่เข้าทางและสุขภาพดีกันถ้วนหน้าเลยนะคร้าบบบบ
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณน๊อต สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
เชื่อว่าคนที่มีเป้าหมายที่จะลดน้ำหนักหลาย ๆ คน ต่างต้องเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบากมาไม่มากก็น้อย บางคนควบคุมอาหารและออกกำลังมาเป็นปีแล้วแต่น้ำหนักก็ลดลงไม่มาก ซ้ำร้ายบางคนเจอโยโย่เอฟเฟกต์เข้าไปอีก จึงอาจทำให้รู้สึกท้อใจไปเหมือนกัน
แต่หากคุณได้อ่านเรื่องราวจากประสบการณ์ตรงของคุณน๊อตแล้ว บางทีอาจจะเกิดแรงฮึดขึ้นมาอีกครั้งก็เป็นได้ เพราะเขาตัดสินใจลดน้ำหนักอย่างจริงจังจากการลองผิดลองถูกมาด้วยตัวเอง จนกระทั่งลดน้ำหนักได้สำเร็จ ก็เลยอยากแบ่งปันเคล็ดลับดี ๆ ให้กับเพื่อน ๆ ที่อยากลดน้ำหนัก ด้วยการแชร์วิธีลดน้ำหนักในกระทู้พันทิปชื่อ "จากเคยน้ำหนัก 116 กิโล เหลือ 72 กิโล ภายใน 4-6 เดือน !! ผมทำได้ พวกคุณก็ทำได้ !!!" เรามาดูกันดีกว่าว่าคุณน๊อตเขามีเคล็ดลับยังไงบ้าง
1. อยากเท่ อยากสมาร์ท อยากให้มีบุคลิกภาพที่ดี อาชีพของผมมีต้องไปเป็นวิทยากรบ้าง เลยรู้สึกว่าตัวเองไม่มั่นใจเวลาออกไปยืนหน้าเวที มันไม่เฟี้ยวเงาะเลย
2. หนีจากโรคต่าง ๆ ผมไม่ได้เป็นเบาหวาน คอเลสเตอรอลไม่สูง แต่เป็นความดัน เหนื่อยง่าย อยากให้อาการเหล่านี้หายไป
3. เบื่อกับการหาเสื้อผ้าที่ต้องใช้ไซส์พิเศษและราคาแพงกว่าคนธรรมดาเขาใส่กัน โดยก่อนลดผมใส่กางเกงเอว 46
ก่อนลดน้ำหนัก
เห็นรูปมั้ยครับ ขอบอกเลยอ้วนมาก มีแต่คนบอกให้ลด แต่ยังคงมีความสุขกับการกินอยู่ แต่แล้ววันหนึ่งอยู่ดี ๆ ก็เกิดตั้งใจขึ้นมาว่า เอาวะอยากผอม ต้องผอม โดยหาแรงบันดาลใจจากที่ต่าง ๆ มากมาย ทั้งในพันทิป และอีกหนึ่งคนสำคัญเลยคือ จอห์น วิญญู เพราะได้เข้าไปดูรายการ Good Shape Save Cost ก็เลยอยากทำบ้าง ก่อนเริ่มก็ไปหาอุปกรณ์ที่สร้างกำลังใจพร้อมกับลดกำลังใจไปพร้อม ๆ กัน คือเครื่องชั่งน้ำหนักดิจิตอลมาไว้ในห้องและโหลดแอพฯ ในการจดบันทึกน้ำหนัก เสียเงินก็ยอมครับงานนี้
สูตรการกินอาหาร
หลังจากดูรายการของ จอห์น มาแล้วก็เลยเริ่มหาสูตรอาหารในการควบคุมน้ำหนักเลย ก็ได้สูตรจากสมเด็จพระเทพ ฯ ครับ สูตรที่หลาย ๆ คนคงทราบดีว่า โหดจริง ต้องใจล้วน ๆ ต้องไม่วอกแวก ต้องไม่กินอะไรมากไปกว่าคำบอกกล่าวจากกระดาษในเดียว
ผมกินแบบนี้มา 3 อาทิตย์ น้ำหนักลดพรวดไป 10 กว่ากิโลกรัมเลยครับ เรียกว่าอดทนมาก นอกเหนือจากเมนูคือน้ำเปล่าเย็น ๆ เท่านั้น ไม่ได้ออกกำลังกายเลยกลัววูบ จนมาในวันหนึ่งก็เลยมาเจอหนังสือเล่มนึง พอซื้อมาอ่านแล้วเกิดกลัวขึ้นมาทันที กลัวว่าจะโยโย่ครับ การควบคุมอาหารแบบนี้เรียกว่าการจำกัดแคลอรี่ หากทำนาน ๆ การเผาผลาญพลังงานจะเกิดอาการจำศีล แล้วถ้ากินเกินน้ำหนักมันจะเด้งขึ้น เลยเลิกกินตามสูตร หันมากินนับแคล ค่อย ๆ เพิ่มจากเดิมให้มากขึ้นทีละนิด แต่ก็งดของ มัน ทอด กระทิ ขนม ของหวาน น้ำอัดลม เหมือนเดิม
หลังจากนั้นค่อยเริ่มหาความรู้โภชนาการอาหารมากขึ้น ควบคุมการกินไปเรื่อย ๆ ไม่ให้เกินจำนวนแคลที่กำหนด ผ่านมา 2 เดือน น้ำหนักลดลงไปได้เกือบ 20 กิโลกรัม
ซึ่งหลังจากนั้นการควบคุมการกินเริ่มลดลงยากล่ะ เลยหันมาออกกำลังกายไปด้วย เริ่มกินมากขึ้นให้มีแรงพอออกกำลังกาย วิ่งรอบหมู่บ้าน โดยค่อย ๆเพิ่มจาก 1 กิโลเมตร จนไปถึง 3 กิโลเมตร ต้องบอกว่าวิ่งหน้าฝนลำบากมาก ผมวิ่งทุกวัน กลับบ้านเร็วก็วิ่งเร็วหน่อย กลับมืดสัก 2 ทุ่มก็วิ่งครับ วิ่งจนรองเท้าวิ่งพัง ส่วนบางวันที่ฝนตกผมก็วิ่งในบ้านครับ วิ่งไปวิ่งมาในพื่นที่แคบ ๆ แต่พอฝนตกบ่อย ๆ เข้า ผมเลยตัดสินใจเข้า ฟิตเนส ยอมเสียเงิน เพื่อเข้าไปออกกำลังกาย วิ่ง และเล่นเวท
จำได้ว่าตอนที่เข้าไปฟิตเนสวันแรก ผมหนัก 86 กิโลกรัม การที่ได้เข้าฟิตเนสผมได้ความรู้จากที่ปรึกษาหลายอย่างมาก ทั้งเรื่องการกิน การออกกำลังกาย รวมถึงวิธีออกกำลังกาย ตอนเริ่มเล่นผมได้โปรแกรมลดน้ำหนักที่ทางฟิตเนสจัดให้ จนกระทั่งปรับเปลี่ยนมาเป็นการสร้างกล้ามเนื้อแทน ผมไปฟิตเนสทุกวัน วิ่งวันละ 7-10 กิโลเมตร บนลู่วิ่งทุกวัน เล่นเวทตามโปรแกรม เล่นจนทางที่ปรึกษาต้องมาเบรกให้พักบ้าง เล่นจนบาดเจ็บบ้างก็มี เล่นจนคนในฟิตเนสรู้จักและเข้ามาคุยกับผมเกือบทุกคน เป็นที่สนใจของทุกคนเพราะเค้าเห็นผมตั้งแต่ตัวยังใหญ่จนเหลือตัวนิดเดียว
รูปถ่ายปัจจุบัน
ผมใช้เวลาอยู่ 4-6 เดือน ลดมาร่วม ๆ 40 กิโลกรัม จากคนเคยใส่กางเกงเอว 46 ตอนนี้ผมใส่ 34 ครับ เสื้อผ้าเปลี่ยนใหม่หมด เสื้อที่เคยต้องใส่ไซส์พิเศษพวก XXL ตอนนี้ผมใส่ M และ L ซึ่งผมรู้สึกดีมาก สุขภาพร่างกายแข็งแรง บุคลิคดีขึ้น และที่สำคัญทำอะไรมั่นใจมากขึ้นครับ ซึ่งทีแรกเพื่อน ๆ และญาติบางคนจำไม่ได้ หลายคนเห็นก็ตกใจเลยทีเดียวครับ
ผมลดน้ำหนักแบบลองผิดลองถูกมา แต่ทุกวันนี้ก็มีสูตรตายตัวสำหรับผมแล้ว ในการควบคุมน้ำหนักในแต่ละวัน คือคำนวน BMR หรือค่าเผาผลาญ แล้วกินให้น้อยกว่า 500-600 แคลลอรี่ (เช่นผมเผาผลาญ 2,600 กิโลแคลอรี่ต่อวัน ผมก็กินให้น้อยกว่าเดิมคือ 2,600-600 เป็น 2,000 กิโลแคลอรี่ต่อวันหรือน้อยกว่า ทุกวันนี้กินไม่เกิน 1500 ต่อวัน) เป้าหมายต่อไปคือผมจะเอาซิกแพค เพราะลดน้ำหนักมานี่ยังไม่เฟิร์มสักเท่าไร ยังคงมีไขมันส่วนเกินอยู่บ้าง
ผมก็ขอให้ทุกคนที่กำลังลดน้ำหนักอยู่ ขอให้สู้ ๆ ครับ "ผมทำได้ คุณก็ทำได้" มันไม่ยาก แต่ต้องใช้ความอดทน อดทนต่อสิ่งเร้าต่าง ๆ อดทนต่อความอยากที่มีมากกว่าความหิว แล้วคุณจะทำได้แน่นอนครับ
หลังจากได้อ่านเคล็ดลับการลดน้ำหนักของคุณน๊อตกันไปแล้ว ใครอยากจะลองเอาสูตรของเขาไปทำดูก็ได้นะ เจ้าตัวไม่หวงแน่นอน ซึ่งก็หวังว่าจะให้คุณกลับมามีรูปร่างที่เข้าที่เข้าทางและสุขภาพดีกันถ้วนหน้าเลยนะคร้าบบบบ
รวมเรื่องเด็ด สุดยอดของผู้ชาย สาวสวยเซ็กซี่ แฟชั่น รถยนต์ คลิกที่นี่
คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อน ๆ ได้ที่นี่
คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อน ๆ ได้ที่นี่