แชร์ประสบการณ์ลดน้ำหนักด้วยวิธีง่าย ๆ จากใจหนุ่มเคยอ้วน

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณ Kuuga_Freedom สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม

          เรื่องราวเกี่ยวกับประสบการณ์ตรงของคนที่ฟิตหุ่นลดน้ำหนัก จนชีวิตเปลี่ยนไปเป็นคนใหม่ได้ ยังเป็นหัวข้อยอดนิยมที่หลายคนให้ความสนใจเสมอมา เพราะเขาเหล่านั้นต่างก็ใช้ชีวิตประจำวันคล้าย ๆ กับเราทั้งสิ้น เพียงแต่พวกเขาเกิดแรงฮึดที่จะลุกขึ้นมาปฏิวัติตัวเองใหม่ เพื่อที่จะได้มีรูปร่างและสุขภาพที่ดีขึ้น

          โดยคราวนี้กระปุกดอทคอมขอนำเสนอแรงบันดาลใจดี ๆ เกี่ยวกับการลดน้ำหนักของ คุณป๊อปอาย หนุ่มนักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะนิติศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ที่มาบอกเล่าประสบการณ์ลดความอ้วนในกระทู้ "แชร์ประสบการณ์ลดความอ้วนได้สำเร็จ โดยวิธีการคุมแคลอรี่+ออกกำลังกาย" จากที่เคยมีน้ำหนักตัว 91 กิโลกรัม จนลดลงมาได้เหลือ 69 กิโลกรัมภายในหนึ่งปี แม้ต้องใช้เวลานาน ทว่าเขาก็ไม่เคยใช้ยาลดความอ้วนใด ๆ ทั้งสิ้น !!

          เกริ่นมาแค่นี้ คงทำให้หลายคนเริ่มอยากรู้แล้วใช่ไหมว่าเขามีเคล็ดลับการลดน้ำหนักอย่างไร ถึงกลับมาผอมได้เหมือนเดิม เอาเป็นว่าตอนนี้เราไปดูเรื่องราวของคุณป๊อปอายพร้อม ๆ กันเลยดีกว่าครับ

เคล็ดลับการลดน้ำหนัก

          ผมเป็นคนอ้วนมาตั้งแต่สมัยประถมแล้วครับ เป็นเด็กกินเยอะ ไม่ค่อยกินขนมจุบจิบเท่าไร แต่ชอบกินนมมาก และจะมากินหนักเฉพาะมื้อปกตินี่แหละ ตอนเข้ามหาวิทยาลัยช่วงปี 1 ถึง ปี 2 น้ำหนักผมอยู่ที่ประมาณ 85 กิโลกรัม (สูง 175 เซนติเมตร) แต่ช่วงน้ำท่วมปี 2554 บ้านผมหนีน้ำท่วมไปอยู่บ้านยายที่จังหวัดอุบลราชธานี แล้วหายนะก็บังเกิดครับ เพราะที่อุบลฯ อาหารการกินดีมากกกกกกกก กินทั้งวัน กิน-นอน กิน-นอน อยู่อย่างนั้น จนสุดท้ายก่อนกลับบ้าน น้ำหนักผมอยู่ที่ 91 กิโลกรัม แล้วสิวก็เยอะมาก ๆ ด้วย

เคล็ดลับการลดน้ำหนัก

          หลังจากกลับบ้านมาก่อนปีใหม่ 2555 ไม่นานก็มีเหตุการณ์หลายอย่างที่ทำให้ตัวผมที่ไม่เคยคิดจะดูแลตัวเองเลย หันกลับมามองตัวเองแล้วคิดว่า "เราต้องทำอะไรสักอย่างกับชีวิตเราแล้ว" จึงเป็นจุดเริ่มต้นและที่มาของการเปลี่ยนชีวิตตัวเองอย่างจริงจัง

เริ่มลดน้ำหนัก (ปลายธันวาคม 2554)

          เริ่มแรกผมกินสลัดทูน่าเป็นมื้อเย็น (โดยที่พยายามใส่น้ำสลัดน้อย ๆ แต่รสชาตินั้นแย่มาก) แล้วก็เต้น Cardio ของ Jillian Michaels ตามคลิปนี้วันละครั้ง ทำทั้งที่บ้านและที่หอด้วย


คลิปJillian Michaels Cardio Kickboxโพสต์โดยคุณTo Lose Weightสมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม

          แต่เวลาอยู่หอผมหาสลัดกินไม่ค่อยได้ ก็เลยจัดบิ๊กเปาของ 7-11 หนึ่งเป็นมื้อเย็นแทน จนท้ายที่สุดผมก็ทนกินสลัดได้ไม่นาน เพราะไม่ค่อยชอบกินเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว พักหลังมื้อเย็นเลยเปลี่ยนเป็นน้ำเต้าหู้บ้าง ซาลาเปาบ้าง ทำมาเรื่อย ๆ จนมาถึงเดือนพฤษภาคม (มีช่วงที่หยุดลดไปประมาณเกือบสองเดือนเพราะอ่านหนังสือสอบปลายภาค)

          ผ่านไป 7 เดือน น้ำหนักผมลดไป 10 กิโลกรัม มาอยู่ที่ 81 กิโลกรัม  (เท่าตอนเข้าปี 1 ใหม่ ๆ ) ช่วงนี้เริ่มมีคนทักเรื่องผอมลงบ้างแล้ว

เคล็ดลับการลดน้ำหนัก

          ช่วงปิดเทอมใหญ่ปี 2 ผมเลิกเต้นคาร์ดิโอ แล้วหันมาวิ่งด้วยเครื่องวิ่งที่ผมมีในบ้าน (ที่ฝุ่นเกาะหนามากแทบไม่มีใครใช้) ผมวิ่งด้วยเจ้าเครื่องนี้เป็นหลักทุกวัน ช่วงแรกวันละ 20 นาที แต่วิ่งเฉย ๆ แล้วมันเบื่อ จนหลัง ๆ ผมเอาเครื่องนี้ไปวิ่งหน้าทีวี เปิดอนิเมดูไปด้วย

          เริ่มแรกก็เปิดแค่ตอนเดียว (ตอนนึงจะยาว 23-25 นาที) แต่พอวิ่งจนอยู่ตัวแล้ว (ราว 1-2 อาทิตย์) ก็เพิ่มจำนวนตอนไปเรื่อย ๆ จนมาสุดที่ 3 ตอน (ประมาณ 75 นาที) ทำแบบนี้วิ่งได้ไม่มีเบื่อทุกวันเลย แล้วทุกวันตอนเช้าผมจะยกน้ำหนัก วิดพื้น ซิทอัพ ด้วยครับ แต่ไม่เยอะมาก โดยเริ่มวิดพื้นจาก 5 ครั้ง ทำไปจนชินแล้วมาสุดที่ 40 ครั้ง ส่วนซิทอัพผมทำ 3  เซต เซตละ 10-20 ครั้ง

เริ่มเข้าใจการคุมแคลอรี่

          ระหว่างช่วงที่ลดไปแล้ว 10 กิโลกรัม ผมรู้สึกเหมือนอิ่มตัวแล้วว่าจะเลิกลดเพราะลดช้ามาก ๆ แต่ผมได้เห็นกระทู้ลดความอ้วนของคุณเนยที่ลดไปเยอะมาก ๆ ทำให้ผมกลับมาฮึดอีกครั้ง และนอกจากนี้ก็ได้เห็นคลิป Good Shape Save Cost ของคุณจอห์น วิญญู ผมลองดูแล้วเริ่มเข้าใจวิธีการนับและการคุมแคลอรี่มากขึ้น

          วันนึงคนต้องการพลังงานเฉลี่ย 2,000 แคลอรี่ ถ้าเรากินไม่ถึง 2,000 แคลอรี่ ร่างกายก็จะเอาส่วนที่สะสมไว้ในร่างกายมาใช้ ผมเลยเน้นกินของที่แคลอรี่น้อยที่สุดเท่าที่ผมจะอิ่มมาใช้ (แต่ผมไม่ได้ทำตามทุกอย่างนะครับ เอาเท่าที่ตัวเองไหวไม่ได้กินวันละ 500 แคลอรี่อย่างคุณจอห์น) เท่าที่นับดูวันนึงผมกินประมาณ 1,600-1,800 แคลอรี่ แล้วก็มาวิ่งกับเครื่องอีกชั่วโมงกว่า นับจากเครื่องลดไปได้ 350-500 แคลอรี่ต่อวัน สรุปแล้วแต่ละวันผมเอาแคลอรี่เข้าตัวไปประมาณ 1,300 แคลอรี่ (อีก 700 ก็ให้เอาที่สะสมไว้ไปใช้)

          ส่วนคลิปอันนี้เป็น Good Shape Save Cost ตอนที่ผมเอาไว้อ้างอิงการนับแคลอรี่เวลากินอาหารครับ


          ในช่วงปิดเทอม (พ.ค.-ก.ค.) นี้ ผมยังคงกินมื้อเช้า เที่ยงตามปกติ ส่วนมื้อเย็นหลังวิ่งเสร็จผมกิน เยลลี่บิวตี้ (รสสีม่วงให้พลังงาน 30 แคลอรี่) ตอนกลางคืนก็อย่านอนดึก ปกติผมนอนประมาณ 4-5 ทุ่ม ถ้าตอนกลางคืนหิว ให้กินน้ำเปล่าแล้วรีบนอนเลย ทำอยู่แบบนี้ประมาณเดือนกว่าน้ำหนักลดไปอีก 5 กิโลกรัม พอเปิดเทอมขึ้นปี 3 มาโดนทักเยอะมาก น้ำหนักอยู่ที่ 76 กิโลกรัม ในช่วงรับน้อง

เคล็ดลับการลดน้ำหนัก

          แต่จากนั้นไม่นานผมเพิ่งมาเห็นว่า เยลลี่บิวตี้ ใช้วัตถุกันเสีย ผมที่กินมาหลายเดือนเลยรู้สึกไม่ดีจึงเลิกกิน แล้วมื้อเย็นหลังวิ่งเสร็จก็หันมากิน โยเกิร์ตไขมัน 0% แทน 80 แคลอรี่ เยอะกว่าเดิมนิดหน่อย

          ผมลดน้ำหนักมาเรื่อย ๆ ช่วงอยู่หอที่มหาวิยาลัยไม่ได้ใช้เครื่องวิ่งก็คุมอาหารเอาอย่างเดียว ลดของทอดของมัน กินอิ่มคืออิ่มไม่ต้องเสียดายทิ้งไปเลย โดยถือคติจากที่พี่สาวผมบอกว่า "อิ่มแล้วก็ทิ้งไป ให้มันเป็นขยะลงถังไป ดีกว่ามาเป็นขยะในตัวเรา" กลับมาบ้านเสาร์-อาทิตย์ก็วิ่งเครื่องตามปกติ ลดมาได้ถึง 20 กิโลกรัม จนน้ำหนักตัวเหลือ 71 กิโลกรัม ในเดือนสิงหาคม 2555

เคล็ดลับการลดน้ำหนัก

เลิกลดน้ำหนัก

          เดือนธันวาคม 2555 ครบรอบ 1 ปีที่ผมลดน้ำหนักพอดี ผมลดไปทั้งหมด 22 กิโลกรัม น้ำหนักจาก 91 กิโลกรัม ลงมาเหลือ 69 กิโลกรัม เป็นการลดที่ใช้เวลานานพอสมควร แต่ผมก็ลดได้จริง ๆ โดยระหว่างลดนี้หลาย ๆ อย่างผมก็กินอย่างมีความสุขนะ ไม่ได้ทรมานเลย (ผมลดน้ำหนักแบบไม่ค่อยได้สนปริมาณน้ำตาลด้วยครับ สนแต่แคลอรี่)
 
          ช่วงหลัง ๆ ผมถูกทักว่าโทรมไปเยอะ เพราะยิ่งลดแก้มยิ่งตอบ ผมเลยตัดสินใจเลิกลดน้ำหนักแล้วก็หันมาดูแลตัวเองให้น้ำหนักคงที่ โดยตลอดปี 2556 ที่ผ่านมา น้ำหนักตัวก็ขึ้น ๆ ลง ๆ อยู่ในช่วงไม่เกิน 72 กิโลกรัม ขึ้นเยอะสุดก็ช่วงสอบนี่แหละครับ 555

เคล็ดลับการลดน้ำหนัก

สรุปการลดน้ำหนักของผมครับ :

          1. มื้อเช้าและมื้อเที่ยงสำคัญมาก ๆ ควรกินอย่างเต็มที่เอาให้อิ่มเลย ส่วนมื้อเย็นกินให้น้อยที่สุด แต่ห้ามอดอาหารเด็ดขาด ลดของมันของทอด (อันนี้ทุกคนรู้กันอยู่แล้วว่ากินอะไรทำให้อ้วน)

          2. อย่านอนดึก เพราะคุณจะหิวเนื่องจากกินมื้อเย็นมาน้อย ถ้าหิวมากก็กินโยเกิร์ตอีกถ้วย ไม่ก็อัดน้ำเปล่า แล้วรีบนอน

          3. จะให้ดีที่สุดต้องออกกำลังกายทุกวัน แต่ถ้าไม่สะดวกคุณต้องมีวินัยในการคุมอาหารมาก อย่าตามใจปาก อย่าเอาขยะเข้าตัว

          4. อย่าท้อครับ กำลังใจสำคัญที่สุด ต้องอดทน นึกภาพวันที่เราผอมเอาไว้ วันที่ชีวิตเปลี่ยนไป วันที่ใคร ๆ ก็ทักคุณว่า "เฮ้ย ผอมลงไปทำไรมาวะ"

          5. พยายามดูสารอาหารให้ครบนะครับ วิธีของผมก็ไม่ใช่ว่าจะดีเพราะไม่คุมน้ำตาลเลย สนแต่แคลอรี่ ตอนนี้ต้องมาทำให้หุ่นเฟิร์มมากขึ้นอีก

สิ่งที่ได้จากการลดน้ำหนัก :

          1. น้ำหนักลดไป 22-23 กิโลกรัม

          2. เอวลดจาก 38-39 ลงมาที่ 32 นิ้ว

          3. มีวินัยในการกินมากขึ้น ประหยัดไปเยอะ

          4. รู้จักการก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเอง

          5. มั่นใจในตัวเองมากขึ้น

          6. ชอบถ่ายรูปมากขึ้น

          7. ต้องซื้อเสื้อผ้าใหม่ทั้งล็อต

          นี่คือรูปปัจจุบันผมครับ ล่าสุดเพิ่งเล่นละครเวทีของคณะมา ช่วงเก็บตัวก่อนแสดงกินน้อยออกกำลังกายเยอะ น้ำหนักเลยลดไปอีกจากตอนปีใหม่ 71 กิโลกรัม ตอนนี้เหลือ 68 กิโลกรัม

เคล็ดลับการลดน้ำหนัก

          ทีแรกผมเห็นว่าวิธีของผมมันอาจจะง่ายเกินไปเลยไม่เคยคิดจะมาตั้งกระทู้แบบนี้ หวังว่ากระทู้นี้คงจะทำให้เพื่อน ๆ ที่หาวิธีลดน้ำหนักง่าย ๆ อยู่ ได้แนวทางและกำลังใจไปบ้างไม่มากก็น้อย ผมขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่าน ถ้าคุณมีความตั้งใจจริง ๆ ลดน้ำหนักไม่ใช่เรื่องยากเลยครับ

เคล็ดลับการลดน้ำหนัก

          หลังจากที่เพื่อน ๆ ได้อ่านคำบอกเล่าจากประสบการณ์ตรงของคุณป๊อปอายไปแล้ว คงจะช่วยให้คนที่กำลังท้อหรือต้องการกำลังใจในการลดน้ำหนักมีกำลังใจที่จะต่อสู้กับตัวเองได้ไม่มากก็น้อย ซึ่งสิ่งหนึ่งที่ดูเหมือนจะเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้เขาลดน้ำหนักได้สำเร็จ คงต้องยกให้กับ สภาพจิตใจและความมีวินัยในตัวเองของเขา ถ้าคุณป๊อปอายทำได้ เราเชื่อว่าคุณก็สามารถพิชิตเป้าหมายของตัวเองได้เช่นกันครับ




เรื่องที่คุณอาจสนใจ
แชร์ประสบการณ์ลดน้ำหนักด้วยวิธีง่าย ๆ จากใจหนุ่มเคยอ้วน อัปเดตล่าสุด 21 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา 13:14:33 11,867 อ่าน
TOP
x close