คงต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่า คนสองคนที่ทำงานภายในบริษัทเดียวกัน มีโอกาสที่จะมองตาแล้วสปาร์กกันได้ง่าย เหตุผลสำคัญคงเป็นเรื่องของความใกล้ชิด เพราะต้องเจอหน้าเกือบตลอดเวลา ยิ่งถ้าอยู่แผนกเดียวต้องทำร่วมกันยิ่งมีโอกาสคลิกกันเร็วขึ้นเข้าไปใหญ่ ซึ่งคงมีหนุ่ม ๆ หลายคนที่มองว่ามีแฟนอยู่ที่ทำงานเดียวกันเป็นเรื่องดีอยู่เยอะ
แต่หากลองมองภาพในระยะยาวและปัจจัยต่าง ๆ ที่อยู่รอบตัวให้ดี ๆ คุณอาจเปลี่ยนความคิดใหม่ เพราะมันกลับจะสร้างปัญหาหลายอย่างตามมา และมีผลกระทบทั้งกับตัวเอง ฝ่ายหญิง รวมถึงเพื่อนร่วมงานคนอื่นด้วย ถ้ายังนึกข้อเสียเหล่านั้นไม่ออกล่ะก็...ลองมาดูเหตุผลที่เรานำมาบอกกันก่อนดีกว่าครับ
ไม่ว่าคุณสองคนจะอยากเปิดตัวให้คนในออฟฟิศรู้ถึงความสัมพันธ์หรือไม่ แต่ยังไง๊ ยังไง สักวันหนึ่งก็ต้องมีคนระแคะระคายรักซ่อนเร้นนี้อยู่ดี อยู่ที่ช้าหรือเร็วแค่นั้นเอง เอาเป็นว่า พยายามทำยังไงก็ได้ให้เพื่อนร่วมงานของคุณรู้เรื่องน้อยที่สุดแล้วกัน จะได้ไม่ตกเป็นประเด็นให้คนอื่นเค้าเม้าท์กันมาก เพื่อเลี่ยงสถานการณ์ชวนอึดอัดในออฟฟิศ
ความคิดนี้ไม่ใช่ความคิดที่เวิร์คสักเท่าไหร่ ถึงใครอาจพูดมาก่อนนี้ว่าความรู้สึกดี ๆ เป็นเรื่องที่ห้ามกันไม่ได้ แต่ถ้าไม่เริ่มจุดไฟ ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นก็จะไม่ลุกลาม อีกอย่าง หนุ่ม ๆ คงไม่ชอบให้ใครเข้ามาบงการชีวิตของตัวเอง ตั้งแต่ภายในที่ทำงานยันเรื่องส่วนตัวหรอกใช่ไหม? ที่สำคัญความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเจ้านายแบบนี้ อาจทำให้เพื่อนร่วมงานเขม่นได้เหมือนกันว่า คุณได้รับการปฏิบัติที่ดีกว่าคนอื่น ทั้งที่บางครั้งมันไม่เกี่ยวเลยสักนิดก็เป็นได้
ลองคิดดูว่า ถ้าคุณต้องเจอหน้าผู้หญิงคนนี้ทุกวัน ใช้เวลาร่วมกันเกือบตลอดเวลา มันจะมีอารมณ์เบื่อหน้ากันบ้างไหม? ในเมื่อชีวิตจริงคนเราก็ต้องมีเพื่อน มีสังคม มีชีวิตเป็นของตัวเองเช่นกัน จะให้เวลาที่มีหมดไปกับแฟนก็ใช่เรื่อง
แต่ถ้าคุณออกเดทกับสาวที่อยู่คนละออฟฟิศ ก็จะทำให้ความคิดถึงได้ทำหน้าที่ของตัวเอง เวลาเจอหน้ากันก็มีเรื่องนั้นเรื่องนี้เล่าสู่กันฟังเสมอ เพราะต่างคนก็ต่างเจอเหตุการณ์ที่ไม่เหมือนกัน ซึ่งถือเป็นการกระชับความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นขึ้นอีกด้วย
มีคนเคยพูดต่อ ๆ กันมาว่า บางครั้งคนเราไม่จำเป็นต้องรู้เห็นทุกสิ่งที่เกิดขึ้นไปทุกอย่างก็ได้ เพราะยิ่งรู้มากยิ่งทำให้วิตกกังวลเข้าไปใหญ่ ทั้งที่มันอาจไม่มีอะไรเลยก็ได้ เช่น คุณเห็นแฟนสาวเดินหายลับไปกับเพื่อนร่วมงานหนุ่มกันสองต่อสองในห้อง แถมหายไปนานอีกต่างหาก จนตัวเองรู้สึกหึงหวง ครั้นพอเธอออกมา คุณก็โวยวายใส่โดยที่ไม่ถามก่อนด้วยซ้ำ แต่ในความเป็นจริงเขาสองคนเข้าไปประชุมเรื่องงานเท่านั้นเอง ที่สำคัญ อาการมึนตึงที่เกิดขึ้น ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อคุณและแฟนสองคนเพียงแค่นั้น แต่อาจทำให้คนอื่น ๆ ที่อยู่รอบตัวทำงานด้วยลำบาก
ตอนรักกันหวานชื่นมันก็ยังโอเคอยู่หรอก แต่หากบังเอิญคุณสองคนไปด้วยกันต่อไม่ได้ จนถึงขั้นยุติความสัมพันธ์ลึกซึ้งลง คราวนี้แหละ ลำบากใจกันแน่ ๆ ซึ่งสถานการณ์แบบนี้ไม่ได้สร้างความกระอักกระอ่วนกับคุณสองคนเท่านั้น แต่บรรดาเพื่อน ๆ ในกลุ่มก็ย่อมรู้สึกเหมือนกันด้วย เพราะเหมือนสถานการณ์บังคับว่า พวกเขาต้องเลือกอยู่ข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอย่างไม่เต็มใจ ทั้งที่ตัวเองไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องเลยสักนิด ทีนี้อึมครึมกันทั้งออฟฟิศเลยล่ะ
หลังจากอ่านมาจนถึงบรรทัดนี้แล้ว อาจมีทั้งคนที่เห็นด้วยและเห็นต่างกับเรื่องการมีแฟนอยู่ที่ทำงานเดียวกัน อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับมุมมองของแต่ละคน ไม่มีใครถูกผิดหรอกครับ เพียงแต่ว่าก่อนจะเริ่มปลูกต้นรักกับคนที่ทำงานด้วยกันอย่างจริง ๆ จัง ๆ อยากให้คุณสองคนคิดถึงผลที่จะตามมาด้วย หากไม่เป็นดังหวัง ก็ต้องพยายามปรับตัวอยู่ร่วมกันต่อไปให้ได้ โดยไม่ให้มีผลกระทบต่อทั้งเรื่องงานและความสัมพันธ์กับคนอื่น ๆ ครับ